ชีวิตดีสังคมดี

'รถไฟฟ้าโมโนเรล' มีกี่แบบ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใช้แบบไหนถึงมีล้อซ่อนในตัวรถ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'รถไฟฟ้าโมโนเรล' มีกี่แบบ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ของไทยใช้แบบไหนทำไมมีล้อซ่อนไว้ในตัวรถ ไขสาเหตุล้อหล่นได้ยังไง

เกิดเหตุการณ์หวาดเสียวขึ้นกับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง หลังจากที่พบว่า ล้อประคองรถไฟร่วงลงมาใส่รถที่สัญจรอยู่บนถนน โดยล่าสุf บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM  ผู้รับสัมปทาน โครงการ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.21 น.ได้รับแจ้งเหตุล้อประคองรรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ได้หลุดร่วงลงมา ใส่รถแท็กซี่ บริเวณถนนเทพารักษ์ ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีทิพวัล (YL22) และสถานีศรีเทพา (YL21) โดยจากการตรวจสอบหาสาเหตุเบื้องต้นพบว่า เกิดจากเบ้าลูกปืนของล้อประคอง (Guide Wheel) เสียหายทำให้ล้อหลุดร่วงลงมา โดยขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ประสบเหตุเป็นขบวนใหม่ ซึ่งมีการตรวจสอบ และซ่อมบำรุงตามรอบโดยปกติ

 

รถไฟฟ้าโมโนเรล

จากเหตุการณ์ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ล้อประคองยางหลุดนั้น ส่งผลให้รถไฟฟ้ามีอัตราความถี่ในการบริการประชาชนช้าลงเป็น 30 นาที ต่อขบวน จากเดิมที่เคยให้บริการ 5-10 นาทีต่อขบวน ดังนั้นประชาชนจะต้องมีการวางแผนการเดินทางให้ดี

 

 

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าสร้างความแปลกใจให้แก่ประชาชนมากพอสมควร เพราะระบบขนส่งสาธารณะควรจะมีความปลอดภัยมาก และมีความมั่นคงแข็งแรงมากกว่านี้ และอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนสงสัยคือ "รถไฟฟ้าโมโนเรล" มีกี่รูปแบบ และทำไมของประเทศไทยจึงมีล้อยาง

 

รถไฟฟ้าโมโนเรล

เมื่อหลายปีก่อนระหว่างการขึ้นโครงการ "รถไฟฟ้าโมโนเรล" ในกรุงเทพมหนครจำนวน 2 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงรูปแบบของ "รถไฟฟ้าโมโนเรล" เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า โมโนเรลมี 2 แบบ คือแบบคร่อมราง และแบบแขวนห้อยใต้ราง วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักเพิ่มอีก 1 แบบ นั่นคือแบบวิ่งไม่ใช้ล้อ บินไม่ใช้ปีก หรือที่เรียกว่า แม็กเลฟ โดย แม็กเลฟแม็กเลฟคือรถไฟแบบแรงแม่เหล็กยก (Magnetic Levitation หรือ Maglev) โดยใช้พลังแม่เหล็กยกรถไฟขึ้นเหนือราง ซึ่งบางระบบใช้รางเดี่ยว และผลักให้วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง เนื่องจากไม่มีการเสียดสีระหว่างล้อกับราง

 

หลักการทำงานของแม่เหล็กไม่ยุ่งยาก โดยมีขดลวดเพื่อรับกระแสไฟฟ้าติดอยู่ที่ราง และมีแม่เหล็กติดอยู่ที่ตัวรถไฟ ในขั้นแรกขดลวดจะสร้างสนามแม่เหล็กเพื่อยกรถไฟขึ้นเหนือราง

 

เทคโนโลยี "รถไฟฟ้าโมโนเรล" แบบ แม็กเลฟ มีให้บริการเชิงพาณิชย์ ในไม่กี่ประเทศ ได้แก่

 

  • จีน นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นโมโนเรลแบบคร่อมราง ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 7 นาทีครึ่ง วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 431 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

  • จีน วิ่งระหว่าง กรุงปักกิ่งกับนครเซี่ยงไฮ้ ระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 600 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง

 

  • ญี่ปุ่น มีโครงการที่จะเปิดใช้ แม็กเลฟระหว่างกรุงโตเกียว-นาโกย่า ในปี 2570 มี ระยะทาง 286 กิโลเมตร วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 505 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 40 นาที

 

 

ส่วน "รถไฟฟ้าโมโนเรล" 2 สายของประเทศไทย ที่วิ่งให้บริการอยู่ขณะนี้ ทั้ง รถไฟฟ้าสายสีชมพู และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ข้อมูลจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทสไทย (รฟม.) ระบว่า เป็น รถไฟฟ้าโมโนเรล รูปแบบล้อยางที่วิ่งอยู่บนทางวิ่งหรือคานรางเดี่ยวคอนกรีตหรือเหล็ก โดยคานต้องมีขนาด 1 ใน 4 ของตัวรถ ตัวรถมีล้อ 2 ชุดคือ Driving Wheels ล้อที่วางอยู่บนทางวิ่ง ซึ่งเป็นล้อรับน้ำหนักตัวรถและ Guide Wheel ล้อที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งจะเป็นตัววิ่งไปตามทางวิ่ง สามารถวิ่งได้สูงสุด 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ย 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง วิ่งบนรางที่มีความชันสูงสุดได้ไม่เกิน 6% รัศมีเลี้ยวโค้งในแนวราบไม่น้อยกว่า 45-70 เมตร 

 

 

โดยขบวน "รถไฟฟ้าโมโนเรล" จะประกอบด้วย ตู้ขับเคลื่อน และตู้โดยสาร สามารถต่อตู้โดยสารเพิ่มได้ 2-8 ตู้/ขบวน รวมถึง Straddle Monorail ยังมีความเหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่เขตเมืองและสามารถวิ่งได้เร็วกว่าระบบ Suspended Monorail นั้นเอง

 

อ้างอิงข้อมูล : การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

เฟซบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ