
แก้ค่าไฟแพง 'ก้าวไกล' บรรจุรื้อโครงสร้างผลิตไฟฟ้าใน 'MOU' พรรคร่วมรัฐบาล
1 ใน "นโยบายพรรคก้าวไกล" คือ ลดค่าไฟฟ้าได้อย่างน้อย 70 สตางค์/หน่วย เฉลี่ยบ้านละ 150 บาท ดูเหมือนจะมีความหวังมากขึ้น เมื่อล่าสุด 8 พรรคร่วมรัฐบาลได้ลงนาม "MOU" เห็นชอบข้อตกลงปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า แนวทางที่ว่ามีทิศทางอย่างไร "คมชัดลึก" สรุปครบจบที่นี่
8 พรรคร่วม "จัดตั้งรัฐบาล" นำโดยพรรคก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ เสรีรวมไทย ไทยสร้างไทย เพื่อไทยรวมพลัง เป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ ประสานมือลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันผลักดัน "MOU" 23 ข้อ
"MOU" ฉบับนี้บันทึกไว้ว่า จะต้องไม่กระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข พระมหากษัตริย์จะทรงดำรงอยู่ในฐานะเคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
"MOU" ข้อ 12 ระบุว่า "ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน"
"นโยบายพรรคก้าวไกล" ระบุว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาพลังงานสูงเพราะนโยบายของรัฐบาลในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา มีการอนุมัติสัมปทานโรงไฟฟ้าให้กับทุนใหญ่พลังงานเป็นจำนวนมาก สุดท้ายกลายเป็นประเทศไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่าความต้องการใช้ไปแล้วถึง 60%
สิ้นปี (ปี 2565) ที่ผ่านมาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของประเทศไทยมี 13 โรง ไม่ได้เดินเครื่องเลยแม้แต่วันเดียว 7 โรง แต่กลายเป็นว่าประชาชนยังต้องจ่ายเงินค่าบริการให้กับกลุ่มทุนพลังงานที่ไม่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเลยเหล่านี้ เพราะรัฐบาลไปทำสัญญาประกันกำไรให้กับกลุ่มทุนพลังงาน สุดท้าย ประชาชนจึงต้องแบกภาระค่าความพร้อมจ่าย หรือค่ามีโรงไฟฟ้าเกินความต้องการนั่นเอง
ข้อเสนอ "นโยบายพรรคก้าวไกล" คือ ลดค่าไฟให้กับประชาชนได้อย่างน้อย 70 สตางค์/หน่วย เฉลี่ยบ้านละ 150 บาท โดยปรับนโยบายเพื่อให้ความสำคัญกับประชาชนก่อนกลุ่มทุน เช่น การเปลี่ยนนโยบายก๊าซธรรมชาติให้โรงแยกก๊าซร่วมหารต้นทุนก๊าซในท่อพลังงานกลาง (Energy Pool) ด้วย นโยบาย 100 วันแรกที่สามารถทำได้เลยหากเป็นรัฐบาล รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.komchadluek.net/quality-life/well-structured/549097
ก๊าซจากอ่าวไทยขายให้โรงไฟฟ้าก่อนโรงงานอุตสาหกรรม หรือขายก๊าซให้โรงงานอุตสาหกรรมในราคาเอลเอ็นจี (LNG) เพื่อให้ก๊าซจากอ่าวไทยราคาถูกกว่าป้อนโรงไฟฟ้าได้มากขึ้น
เจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับสัมปทานทุนใหญ่พลังงานใหม่ เพื่อลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้เดินเครื่อง
อย่างไรก็ตาม "MOU" ทั้ง 23 ข้อต้องเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติ 5 ข้อ ดังนี้
1. ทุกพรรคจะคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชนทุกคน
2. ทุกพรรคจะทํางานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที
3. ทุกพรรคจะทำงานโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดยยึดถือ ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง
"MOU" ข้อ 4. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้ โดยอาศัยอ้านาจฝ่ายบริหารของรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง
5. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้ โดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติของผู้แทนราษฎรที่สังกัดแต่ละพรรคการเมือง