ชีวิตดีสังคมดี

ไม่บังคับชุดลูกเสือเนตรนารี สพฐ.ร่อนหนังสือให้ รร.แล้วตั้งแต่ปี 65

ไม่บังคับชุดลูกเสือเนตรนารี สพฐ.ร่อนหนังสือให้ รร.แล้วตั้งแต่ปี 65

22 พ.ค. 2566

เจ้ากระทรวงศึกษา ย้ำ "ยกเว้นชุดลูกเสือเนตรนารี" ยุวกาชาดตั้งแต่กลางปี 65 สพฐ.ร่อนหนังสือถึงเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว ให้ทุกโรงเรียนยืดหยุ่นไม่เป็นภาระผู้ปกครอง

"น.ส.ตรีนุช เทียนทอง" รมว.กระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงประเด็น "ยกเว้นชุดลูกเสือเนตรนารี" และยุวกาชาด ว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีหนังสือสั่งการไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมและมัธยม (สพป. และ สพม. ) ทั่วประเทศให้สื่อสารซักซ้อมความเข้าใจการแต่งเครื่องแบบลูกเสือ ยุวกาชาด โดยให้โรงเรียนดำเนินการอย่างยืดหยุ่น ไม่เป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้ปกครอง 

ไม่บังคับชุดลูกเสือเนตรนารี สพฐ.ร่อนหนังสือให้ รร.แล้วตั้งแต่ปี 65

 

 

"การเรียนไม่จำเป็นต้องแต่งเครื่องแบบครบชุด แต่ขอให้มีสัญลักษณ์เฉพาะบ่งบอกให้รู้ว่าเด็กได้เรียนวิชาลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด เช่น มีผ้าผูกคอผืนเดียวได้ เพราะเป้าหมายสำคัญของการเรียนวิชานี้อยู่ที่กิจกรรม จิตอาสา การบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคม การเสียสละ มากกว่าการให้ความสำคัญกับชุดยูนิฟอร์ม และขณะนี้สถานศึกษาหลายแห่งก็ได้ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอยู่แล้ว"  "น.ส.ตรีนุช" ระบุ
 

นักเรียนโรงเรียนวัดโบถส์  (ศุภพิทยาคาร) ทำกิจกรรมวันวันเรียนลูกเสือ ก่อนหน้าที่จะประกาศยกเว้นแต่งชุดลูกเสือเนตรนารีในวันที่ 18 พ.ค. 2566

 

 

"น.ส.ตรีนุช"  บอกอีกว่า นแกจากการผ่อนคลาย "ยกเว้นชุดลูกเสือเนตรนารี" แล้ว ที่ผ่านมาได้มีการผ่อนคลายกฎ ระเบียบต่างๆ ให้สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการศึกษาได้อย่างคล่องตัว สอดรับกับบริบทของพื้นที่ที่มีความหลากหลายแตกต่างกัน  รวมถึงมีการปรับปรุงกฎ ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวกับนักเรียน ให้มีความยืดหยุ่นขึ้น ไม่บังคับ เช่น เรื่องทรงผมของนักเรียน ก็ได้มีการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 แล้วให้สถานศึกษาแต่ละแห่งกำหนดเป็นระเบียบ หรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง เป็นต้น

 


โดยการออกระเบียบ หรือข้อบังคับต่างๆ ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนักเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง หรือผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น บุคคล หรือกลุ่มบุคคลอื่นใดที่หัวหน้าสถานศึกษาเห็นสมควร  และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนก่อนการประกาศใช้