ชีวิตดีสังคมดี

'โดรนเพื่อการเกษตร' ตัวช่วยทุ่นแรงเกษตรพ่นปุ๋ย ฉีดยา เหลือ 2 นาที/ไร่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดีอี- ดีป้า ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรด้วย 'โดรนเพื่อการเกษตร' ลดต้นทุน ประหยัดเวลา พ่นปุ๋ย ฉีดยา เหลือ 2 นาที/ไร่ เปิดรับชุมชนเข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล ทั่วประเทศ

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  เปิดตัวโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) มุ่งพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่ถูกต้องเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้และซ่อมบำรุง "โดรนเพื่อการเกษตร" แก่ชุมชนและเกษตรกรทั่วประเทศ พร้อมส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านธุรกิจดั้งเดิมสู่ ศูนย์บริการซ่อมบำรุง ฉีดพ่น และจำหน่ายโดรนเพื่อการเกษตร คาดภายใน 1 ปีของการดำเนินโครงการจะเกิดศูนย์บริการฯ ทั่วประเทศ50 ศูนย์ ผลักดันให้ชุมชนเกิดการประยุกต์ใช้โดรนเพื่อการเกษตร 500 ชุมชน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า 350 ล้านบาท ตอบสนองเป้าหมายสำคัญในเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลเพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ ภายใต้แผนงานเครื่องยนต์เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

 

โดรนเพื่อการเกษตร

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดีอี)   กล่าวว่า กระทรวงดีอี พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ผ่านเครื่องยนต์ใหม่ของประเทศไทย (The Growth Engine of Thailand) ซึ่งถือเป็นแผนการดำเนินงานสำคัญที่มุ่งเน้นเป้าหมายด้านการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) และการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล (Human Capital)

 

 

“สำหรับ โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) ที่ดำเนินการโดย กระทรวงดีอี และ ดีป้าจะช่วยส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างรายได้และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นการสร้างสังคมดิจิทัลบนฐานความรู้ ทั่วถึง รู้ประยุกต์ใช้เป็น สนองตอบเป้าหมายสำคัญในเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลเพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศตามแผนการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ” นายประเสริฐ กล่าว

 

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง

 

 

 

สำหรับการนำ "โดรนเพื่อการเกษตร" ไปใช้ในกระบวนการทำการเกษตรไม่ว่าจะเป็นการพ่นยา พ่นปุ๋ย หว่านเมล็ดลงในแปลงเกษตร โดยจะสามารถลดระยะเวลาในการทำงานเหลือเพียง 2 นาที/ไร่ จากปกติที่เกษตรจะต้องใช้เวลาประมาณ 10 นาที/ไร่ การทำเกษตรกรรมมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และสามารถใช้โดรนเพื่อการเกษตรเข้าถึงที่เกษตรกรไม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะเกษตรไร่อ้อย นอกจากนี้รูปแบบการใช้งานยังสามารถสั่งการ และระบุจุดให้โดรนทำงานได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งฟังก์ชันต่างๆ จะช่วยให้การทำงานได้เร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการจ้างแรงงานในภาคการเกษตรที่ปัจจุบันมีราคาสูงมากเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณคนละ 500 บาท/คน/วัน แต่หากใช้โดรนจะเหลือเพียงราวๆ 1,000 บาท/ไร่ เท่านั้น

 

 

ด้านผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) เป็นการบูรณาการการทำงานระหว่าง ดีป้า และเครือข่ายพันธมิตร โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลเพื่อการยกระดับชุมชนด้วยเทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตรผ่านการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบินและการซ่อมบำรุงโดรนแก่กลุ่มเกษตรกรและชุมชนในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านธุรกิจแบบดั้งเดิมไปสู่ ศูนย์บริการซ่อมบำรุง ฉีดพ่น จัดจำหน่ายโดรนการเกษตรที่ได้รับการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย (Made in Thailand: MiT) จาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และมาตรฐาน dSURE จาก ดีป้า ซึ่งจะต้องเป็นโดรนผ่านการรับรอง 3 ด้านความปลอดภัยทางคุณลักษณะทางกายภาพ (Safety),ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ (Security), ความสามารถในการทำงาน (Functionality)

 

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์  

 

 

            ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ภายใน 1 ปีของการดำเนินโครงการจะเกิดศูนย์บริการฯ ทั่วประเทศจำนวน 50 ศูนย์ ผลักดันให้ชุมชนเกิดการประยุกต์ใช้โดรนเพื่อการเกษตรจำนวน 500 ชุมชน คิดเป็นพื้นที่ทางการเกษตรรวมไม่น้อยกว่า 4 ล้านไร่ นอกจากนี้ ดีป้า และพันธมิตรจะเปิดอบรมหลักสูตรผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากระยะไกล และหลักสูตรการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุงโดรนเพื่อการเกษตร ซึ่งเนื้อหาของทั้งสองหลักสูตรได้รับการออกแบบโดย ดีป้า และผ่านการรับรองจากสถาบันการบินพลเรือน พร้อมตั้งเป้าผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งไม่มีนักบินฯ 1,000 คน และหลักสูตรการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุง "โดรนเพื่อการเกษตร" 100 คน โดยเกษตรที่จะเข้าร่วมโครงการได้นั้นจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตร ฝึกบินโดรน จนได้รับใบอนุญาตบินโดรนก่อนจึงจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้  โดยดีป้าจะร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรในการให้ความรู้ตลอดโครงการฯ สำหรับงบประมาณที่ดีป้าจะสนับสนุนจะเป็นงบประมาณจากดีป้า 60% และเงินจากชุมชน 40% ซึ่งชุมชนสามารถขอรับเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงินได้ แต่หากเกษตรกรหรือชุมชนสามารถรวบรวมพื้นที่ได้ 4,000 ไร่ จะได้รับโดรนไปใช้ในการเกษตรเลยทันที

 

 

โดรนเพื่อการเกษตร

 

“ดีป้า ประเมินว่า โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน ลดการจ้างงานและระยะเวลาการทำงาน ลดอัตราการเจ็บป่วยจากการสูดดมและสัมผัสกับสารเคมี ขณะเดียวกันจะช่วยสร้างเกษตรกรและช่างในชุมชนที่มีความรู้ความเข้าใจในทักษะรอบด้านเกี่ยวกับโดรนการเกษตร สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและสมาชิกในชุมชน โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นแนวทางการส่งเสริมให้ชุมชนสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างรายได้ ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นการเร่งสร้างสังคมดิจิทัลบนฐานความรู้ ทั่วถึง รู้ประยุกต์ใช้เป็น ตอบสนองเป้าหมายสำคัญในเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลเพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศตามแผนงาน The Growth Engine of Thailand ของ รมว.ดีอี และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 350 ล้านบาท” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

 

 

เกษตรกรและชุมชนที่สนใจ รวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถร่วมอบรมผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินฯ และหลักสูตรทักษะการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาโดรนเพื่อการเกษตรผ่านระบบ Online และ Onsite สามารถติดตามข่าวสารและศึกษารายละเอียดโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) ได้ที่ Facebook Page: depa Thailand หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 08 5125 1340 และ 08 2516 6224

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ