ชีวิตดีสังคมดี

'กฟผ.' เปิดตัว ฉลากเบอร์ 5 ติดดาวโฉมใหม่ ประหยัดไฟมากกว่าเดิม

23 ก.ย. 2566

'กฟผ.' ยกระดับฉลากเบอร์ 5 ติดดาวโฉมใหม่ ประหยัดไฟมากกว่าเดิม มุ่งรักษ์โลกมากยิ่งขึ้น พร้อมชวนคนไทย ช้อปสินค้าประหยัดไฟในราคาสุดพิเศษ

อุณหภูมิโลกจ่อเพิ่มขึ้นอีก 1.5 องศาในปี 2027 และแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไป ที่ผ่านมาจึงมีความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในภาคพลังงาน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยกันลดอุณหภูมิของโลกไม่ให้พุ่งสูงขึ้นมากไปกว่านี้ โดยไทยตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050

 

 

สำหรับในภาคพลังงานได้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 50% และเดินหน้าลดการใช้พลังงานควบคู่กันไปด้วยเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการดำเนินงานการจัดการใช้ไฟฟ้า หรือ Demand Side Management (DSM) มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2536 ทำให้คนไทยคุ้นชินกับการมองหาฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่การันตีความประหยัดเมื่อต้องเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 มากถึง 22 ผลิตภัณฑ์

 

พิธีเปิดงานครบรอบ 30 ปีการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

ล่าสุด "กฟผ." ได้เปิดตัวฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว รูปแบบใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานเข้มข้นมากขึ้น และรักษ์โลกมากกว่าเดิม คือ เพิ่มเกณฑ์ประสิทธิภาพ จากเดิม 1-3 ดาว เป็น 1-5 ดาว เพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟได้มากกว่าเดิม เพิ่มการแสดงปริมาณการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ตลอดช่วงการใช้งาน เพิ่มสัญลักษณ์กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่ม QR Code เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น เช่น ข้อมูลการใช้งาน การติดตั้งและการบำรุงรักษา ซึ่งจะเริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ม.ค. 2567

 

 

“กฟผ. เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการพลังงานเพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนในการใช้พลังงาน ซึ่งการปรับเพิ่มเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานของฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนมีโอกาสเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะมีแรงจูงใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย” นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวย้ำ

 

 

ตัวอย่างฉลากเบอร์5 โฉมใหม่

 

ทั้งนี้ ตลอด 30 ปีของการดำเนินงานการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า กฟผ. ผ่านกลยุทธ์ 3 อ. ได้แก่ อุปกรณ์ พัฒนาเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานและติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5  อาคาร-อุตสาหกรรม ส่งเสริมมาตรการการใช้พลังงานในอาคาร การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพภายในอาคาร ซึ่งครอบคลุมทั้งบ้านอยู่อาศัย สำนักงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และอุปนิสัย สร้างการเรียนรู้และปลูกฝังนิสัยการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสู่เยาวชนภายใต้โครงการห้องเรียนสีเขียว รวมทั้งสิ้นกว่า 40 โครงการ สามารถกระตุ้นให้เกิดการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้ากว่า 35,600 ล้านหน่วย หรือประมาณ 1.78 แสนล้านบาท และนำไปสู่การลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่บรรยากาศกว่า 19.7 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์

 

 

นอกจากนี้ "กฟผ." ยังได้เปิดตัวโรงเรียนเบอร์ 5 เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนบูรณาการองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมในทุกกิจกรรมของโรงเรียน ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์ทั้ง 4 กิจกรรม ได้แก่ 1) โรงเรียนสีเขียว ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 2) โรงเรียนคาร์บอนต่ำ ลดการใช้ไฟฟ้าในโรงเรียน 3) โรงเรียนคาร์บอนต่ำสู่ชุมชน ลดการใช้ไฟฟ้าที่บ้านนักเรียน และ 4) อาคารเบอร์ 5 ในสถานศึกษา

 

 

ปัจจุบันมีเยาวชนผ่านกระบวนการเรียนรู้ภายใต้โครงการห้องเรียนสีเขียวแล้วกว่า 4 ล้านคน และโรงเรียนเครือข่ายห้องเรียนสีเขียวกว่า 1,300 โรงเรียน ซึ่งต่างสามารถนำความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานไปปรับใช้ได้อย่างน่าสนใจ อาทิ โรงเรียนสิริวัณวรี 1 จ.อุดรธานี ซึ่งเข้าร่วมโครงการโรงเรียนสีเขียวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง กฟผ. ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ภายในโรงเรียนจำนวน 3 อาคาร สามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 50 เมกกะวัตต์ ส่งผลให้โรงเรียนสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และลดภาระค่าไฟฟ้าของโรงเรียนได้อย่างมาก อีกทั้ง ห้องเรียนสีเขียว (Smart Green Leaning Room) ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องพลังงาน การประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานทดแทนให้แก่นักเรียนและชุมชนได้เป็นอย่างดีด้วย

 

 

“ระบบไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ช่วยให้โรงเรียนประหยัดพลังงานลงได้จำนวนมาก จากปกติที่ต้องใช้ไฟฟ้าแบบ 100% เราสามารถปรับมาใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้เกือบทั้งหมด บางวันโรงเรียนใช้กระแสไฟฟ้าที่มาจากโซลาร์เซลล์เท่านั้น นอกจากนี้ กฟผ. ยังเข้ามาเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็นหลอด LED ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายของโรงเรียนได้อย่างมาก” คำบอกเล่าจากนายอำนาจ ท่อนคำ อาจารย์ประจำวิชาฟิสิกส์ โรงเรียนสิริวัณวรี 1

 

โรงเรียนสิริวัณวรี 1 อุดรธานี

 

 

ด้านโรงเรียนอนุบาลวัดสระแก้ว เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนสีเขียวกับ กฟผ. มานานกว่า 20 ปี  ได้นำแนวคิดอาคารเบอร์ 5 มาปรับปรุงให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน ทั้งการปรับผนังภายในอาคารให้มีระเบียงและชายคากันแดด ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบริเวณหลังคา ส่วนภายในอาคารใช้กระจกที่มีความหนาไม่น้อยกว่า 5 มิลลิเมตร ติดผ้าม่านกันแสง เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 รวมถึงปลูกต้นไม้จึงช่วยลดความร้อนเข้าสู่อาคารได้

 

“สิ่งที่เราพบว่าเกิดควาเปลี่ยนแปลงกับการพลังงานไฟฟ้าในโรงเรียนอย่างเห็นได้ชัดเจนคือ การใช้ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี ดังนั้นเราจึงพยายามที่จะปรับปรุงอาคารเรียนให้เป็นอาคารเบอร์ 5 เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านการใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการสร้างความตระหนักให้แก่นักเรียนผ่านการให้ความรู้ด้านการประหยัดพลังงาน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริงที่บ้านของนักเรียนเองด้วย” อาจารย์ประจำโรงเรียนอนุบาลวัดสระแก้ว กล่าวทิ้งท้าย

 

โรงเรียนอนุบาลวัดสระแก้ว

 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีมหกรรมสินค้าเบอร์ 5 ในราคาสุดพิเศษจากผู้ประกอบการกว่า 60 ราย ชวนลุ้นรับข้อเสนอพิเศษอีกมากมายในกิจกรรม “DSM 30 ปี 30 นาที ทอง” และเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 500 บาท ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัล Lucky Draw ทุกวัน และลุ้นรางวัลใหญ่ในวันสุดท้าย 24 กันยายน 2566 เวลา 17.00 น. กิจกรรมส่งเสริมการใช้หลอด LEDประสิทธิภาพสูง เพียงนำหลอดไฟเก่ามาแลกหลอดไฟใหม่วันละ 100 ชุด (เฉพาะวันที่ 20 – 22 กันยายน 2566) ณ Hall 9 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

 

มหกรรมสินค้าเบอร์ 5 ในราคาสุดพิเศษจากผู้ประกอบการ

 

ตัวอย่างอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5

 

ตัวอย่างอุปกรณ์เบอร์ 5