ภารกิจยุติ "มะเร็งปากมดลูก" กับชุดตรวจด้วยตัวเอง

"ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ" รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บอกถึงสถานการณ์ผู้ป่วย "มะเร็งปากมดลูก" ในปัจจุบันว่า "มะเร็งปากมดลูก" มีอัตราการเสียชีวิตปีละเกือบ 5,000 ราย แต่เป็นมะเร็งที่สามารถรักษาให้หายได้หากพบในระยะแรกเริ่ม "สปสช." จึงมีนโยบายเรื่องการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการทําให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อไม่ให้เป็นโรค เช่น การฉีดวัคซีน การตรวจคัดกรอง "มะเร็งปากมดลูก" ซึ่งคือหนึ่งในกระบวนการป้องกันได้อย่างหนึ่ง เพราะพิสูจน์มาแล้วว่า "มะเร็งปากมดลูก" ตรวจได้ง่าย เมื่อตรวจแล้วพบความผิดปกติ สามารถรักษาหายได้

ร้อยละ 70 โรค "มะเร็งปากมดลูก" เกิดจากการติดเชื้อ HPV (เอชพีวี) โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง การตรวจคัดกรอง เพื่อหาการติดเชื้อเอชพีวีในระยะแรกเริ่ม เพื่อนำไปสู่การรักษา จึงเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญ 

ในอดีตสิทธิประโยชน์การตรวจคัดกรองแบบดั้งเดิม มีแพทย์เป็นคนตรวจ หรือที่เรียกว่า "แปปสเมียร์" (Pap Smear) การคัดกรองได้แยกการเบิกจ่ายทั้ง 3 กองทุน ได้แก่ "บัตรทอง" จาก "สปสช.",  "ผู้ประกันตน" เบิกจากประกันสังคม (สปส.) และ "ข้าราชการ" เบิกจากกรมบัญชีกลาง

การคัดกรองแบบแปปสเมียร์ ยังไม่สามารถลดอัตราผู้ป่วยลงได้ แม้เวลาผ่านไปนับ 10 ปี ดังนั้น เพื่อเอาชนะ "มะเร็งปากมดลูก" อย่างมีประสิทธิภาพ "สปสช." จึงได้นำนวัตกรรม "ชุดเก็บเชื้อมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง" (HPV DNA Self-Sampling-HPV DNA) โดยให้ผู้หญิงกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-59 ปี ขอรับ "ชุดเก็บเชื้อมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง" ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง เลือกเมนู "กระเป๋าสุขภาพ" หลังจากนั้นไปรับได้ที่โรงพยาบาลรัฐฯ ร้านยา คลินิก และรพ.สต.ใกล้บ้าน เพื่อนำไปเก็บเชื้อเองที่บ้าน ที่สำคัญสิทธิประโยชน์นี้ครอบคลุมทั้ง 3 กองทุน

ขณะนี้ นำร่องที่เขตสุขภาพที่ 7 ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด และตั้งเป้าหมายไว้ 1.2 ล้านราย ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 7 แสนราย หรือร้อยละ 56.8 จึงอยากเชิญชวนให้สตรีกลุ่มเสี่ยงมาใช้สิทธิ เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็น "มะเร็งปากมดลูก" เพราะหากเจอระยะต้นๆ รักษาหายได้แน่นอน และหากผลออกมาเป็นลบ แปลว่าท่านปกติ อีก 5 ปีค่อยกลับมาตรวจใหม่