‘สังเวียน’ - ‘Kilo Spirits’ หลัง ‘พิธา’ พูดถึง ประชาชนแห่จองจนของหมดโรงงาน

ทันทีที่ ทิม 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้พูดถึงในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ประเด็นสุราก้าวหน้า เมื่อเช้าวานนี้ (2 มิ.ย. 2566) จากนั้นก็เกิดปรากฏการณ์ประชาชนพากันแห่ค้นหา และในช่วงเย็นวันเดียวกันก็มีการแชร์ระบุว่า“ขณะนี้เหล้าสังเวียนหมดโรงงานแล้ว”

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้พูดถึงแบรนด์ ‘สังเวียน’ สุรากลั่นจากจังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่อีกแบรนด์คือ ‘Kilo Spirits’ ของจังหวัดกระบี่ ซึ่ง 2 แบรนด์ทำจากอ้อยทั้งคู่ ซึ่ง ‘พิธา’ บอกว่า หาก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าซึ่งเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลถูกปลดล็อก ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับอ้อยได้ ซึ่งจะนำไปเชื่อมกับนโยบายเศรษฐกิจทำให้สินค้าการเกษตรกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมา

จากนั้นปรากฏว่า โลกออนไลน์ต่างค้นหาแบรนด์เหล้าที่ พิธา พูดถึงจนกลายเป็นกระแส และต่อมาเฟซบุ๊กเพจประชาชนเบียร์ได้โพสต์ข้อความในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ระบุว่า “ด่วน!!! ขณะนี้เหล้าสังเวียนหมดโรงงานแล้วจ้า55555” รวมไปถึงทวิตเตอร์ของประชาชนเบียร์ได้แชร์ภาพเหล้าสังเวียน

เปิดที่มาแบรนด์สุรา สังเวียน คือะไร

“สังเวียน” สุรากลั่นจากจังหวัดสุพรรณบุรี ผลิตโดยใช้น้ำหวานจากอ้อยสดมาหมักให้เกิดแอลกอฮอล์แล้วนำไปกลั่น

คำว่า “สังเวียน” เป็นชื่อของคุณปู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว คู่ชีวิตของคุณย่าที่เคยผลิตสาโทขายในอดีต ตั้งแต่ตัวเจ้าของแบรนด์ที่เป็นหลานยังไม่เกิด การใช้ชื่อนี้แทนชื่อคุณปู่ก็เพื่อให้คุณย่าระลึกถึงคนที่คุณย่ารักและสิ่งที่คุณย่ารักที่จะทำ

ว่ากันว่าตัวเจ้าของแบรนด์สุราสังเวียนศึกษาด้านการผลิตเบียร์จากอังกฤษ เคยทำงานในบริวผับขนาดใหญ่ของไทยอยู่หลายปี ปัจจุบันยังทำเบียร์ดื่มเองและทำแบรนด์เหล้าสังเวียนอย่างจริงจัง

ทำความรู้จักแบรนด์สุรา Kilo Spirits

Kilo Spirits แบรนด์สุรากลั่นจากจังหวัดกระบี่ เริ่มก่อตั้งในปี 2017 เป็นสุรากลั่นโรงที่ 5 ในจังหวัดกระบี่ เริ่มต้นจากสามีชาวอังกฤษและภรรยาชาวไทยที่คบหากันมานานกว่า 20 ปี แต่มาเริ่มคิดจะทำสุรากลั่นจริงๆ ช่วงก่อนล็อกดาวน์ครั้งแรก ทำให้พวกเขาต้องเรียนคลาสออนไลน์และเดินทางไปดูงานตามโรงเหล้าที่ต่างประเทศหลังจากคลายล็อกดาวน์

แบรนด์นี้มีเหล้าทั้งหมด 2 ตัวคือ จินและวอดก้า กำลังจะทดลองทำเหล้ารัมจากน้ำตาลเพิ่มอีก 1 ตัว เหล้าของโรงนี้ใช้น้ำอ้อยสดคั้นแล้วจากเกษตรกรในจังหวัดกระบี่ ที่ทางโรงได้รับสมัครเกษตรกรเข้ามาเป็นพนักงาน และใช้น้ำอ้อยนั้นเป็นวัตถุดิบหลักในการหมักให้เกิดแอลกอฮอล์

จากนั้นนำไปกลั่นทั้งหมด 3 รอบเพื่อให้ได้แอลกอฮอล์ 95% แล้วจึงนำหัวเชื้อนี้ไปบ่มหรือเจือจางให้ได้กลิ่น ได้รสชาติ ได้ปริมาณแอลกอฮอล์ตามที่ต้องการต่อไป

พวกเขามีฝันอยากเห็นเหล้าของไทย วางคู่กับเหล้านำเข้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ และเหล้าไทยได้ส่งออกไปให้ชาวต่างชาติได้ชิม

ล่าสุดเมื่อวันที่3 มิ.ย.2566 เฟซบุ๊กเพจประชาชนเบียร์ ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมบอกว่า “เหล้า Kilo หมดไปอีกโรงละจ้า55555

นับเป็นอีกปรากฏการณ์ ‘พิธาฟีเวอร์’ ไม่ว่า ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะพูดหรือหยิบจับอะไรจะได้รับความสนใจจากประชาชนคนไทยค่อนประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจนถึงปัจจุบัน

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ

• จากเพจประชาชนเบียร์
• รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ
• กรุงเทพธุรกิจ