ชีวิตดีสังคมดี

สายดื่มระวัง! 13 เม.ย.​วันมรณะ​! เมาแล้วขับเสียชีวิตสูงสุด​ทุกปี​

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ. ห่วง 13 เม.ย. เป็นวันเสียชีวิตสูงสุดของช่วง 'สงกรานต์ 2566' สาเหตุดื่มแล้วขับ กำชับ​ รพ.เตรียมพร้อมรับมือ เผยฝุ่น PM2.5 ภาคกลาง-ตะวันออก ดีขึ้น ส่วนเหนือ-อีสาน ต้องเฝ้าระวัง

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)​เป็นห่วงช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 วันที่ 13 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตจากดื่มแล้วขับสูงสุด กำชับ สำนักงานสารธารณสุข (สสจ.) และโรงพยาบาลทั่วประเทศ ร่วมป้องกัน และลดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุช่วง "สงกรานต์" ย้ำ อสม.คัดกรองคนเมาที่ด่านชุมชน

 

 

ขณะที่ ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคกลาง, กทม., ปริมณฑล และตะวันออก ดีขึ้น ส่วนเหนือ-อีสาน ยังต้องเฝ้าระวัง คาดว่า หลัง 15 เม.ย. 2566 จะมีฝนช่วยลดปริมาณฝุ่น 

 

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ประชุมติดตามสถานการณ์และการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกับทุกกรม เขตสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 

 

กำชับข้อสั่งการของ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรณีการดำเนินการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในช่วง 7 วันเทศกาล "สงกรานต์" ทั้งการเตรียมความพร้อมดูแลรักษาประชาชนในสถานพยาบาล ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ รณรงค์ ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ เน้นดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม เพื่อป้องกันและลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรให้ได้มากที่สุด รวมถึงให้ อสม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คัดกรองผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับที่ด่านชุมชนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในวันเฉลิมฉลอง 13 และ 14 เม.ย. 2566

 

อุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ ส่วนใหญ่มักเกิดในถนนสายรอง โดยพบผู้เสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับมากที่สุดในวันที่ 13 เม.ย.​ของทุกปี ซึ่งด่านชุมชนเป็นจุดที่ช่วยสกัดกั้นผู้ที่ดื่มไม่ให้ออกไปขับขี่ได้มากกว่าครึ่ง โดยใช้แนวทางสังเกตและประเมินอาการมึนเมาสุราเบื้องต้นที่ช่วยคัดกรองได้ 50-70% 


ภาพสถานโรงพยาบาลเตรียมความพร้อมช่วงสงกรานต์
 

นอกจากนี้ ได้กำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งดูระบบรักษาความปลอดภัย ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ระบบสัญญาณแจ้งเหตุ ระบบดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้ผู้บริหารอยู่ในพื้นที่เพื่อรองรับกรณีเกิดเหตุการณ์สำคัญ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน" นพ.ณรงค์กล่าว

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ณรงค์ กล่าวเสริมว่า สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 พบว่า มีแนวโน้มลดลงในภาคกลาง กรุงเทพฯ ปริมณฑล และตะวันออก โดยคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงปานกลาง แต่ต้องเฝ้าระวังช่วงวันที่ 14-15 เม.ย. 2566 ที่อาจมีสภาพอากาศปิด

 

 

ส่วนภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ยังพบจุดความร้อน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) จนถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) 

 

 

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตก 10-40% ระหว่างวันที่ 15-17 เม.ย. 2566 ซึ่งจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ลงได้ ส่วนสถานการณ์ในจ.เชียงรายและเชียงใหม่ที่มีค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ดำเนินการตามข้อสั่งการและ 3 มาตรการ 10 กิจกรรมอย่างครบถ้วน

 

ทั้งสื่อสารสร้างความรอบรู้ แจ้งเตือนระดับความเสี่ยงและแนวทางปฏิบัติ การเปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับจังหวัดและระดับอำเภอ สนับสนุนหน้ากากสำหรับกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย กลุ่มเปราะบาง และประชาชนทั่วไป

 

"จากการติดตามการให้บริการด้านการแพทย์ พบว่า มีการจัดระบบปฏิบัติการเชิงรุก ด้วยทีม 3 หมอ อสม.เคาะประตูบ้าน เยี่ยมกลุ่มเสี่ยง และเปิดคลินิกมลพิษ โดยเชียงใหม่เปิดให้บริการที่ รพ.นครพิงค์ รพ.สันป่าตอง รพ.สันทราย และรพ.แม่วาง ซึ่ง รพ.นครพิงค์เปิดแบบออนไลน์ร่วมด้วย

 

 

ส่วนการทำห้องปลอดฝุ่น จ.เชียงรายจัดทำในสถานบริการสาธารณสุข ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และอปท. รวม 580 ห้อง ขณะที่จ.เชียงใหม่ จัดทำในโรงพยาบาล/สถานบริการสาธารณสุข อาคารสำนักงาน สถานที่ราชการ หน่วยงานสังกัด อปท. และภาคเอกชน รวม 590 ห้อง และจะขยายไปสู่ภาคเอกชนให้มากขึ้น" นพณรงค์กล่าว



 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ