ชีวิตดีสังคมดี

คพ. หวั่น อุบัติภัย 'สารเคมี' รั่วไหลช่วง สงกรานต์ เตรียมพร้อมรับมือ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คพ.เตือนช่วง สงกรานต์ หวั่นอุบัติภัย 'สารเคมี' รั่วไหล เผย จัดเตรียมความพร้อมเครื่องมือและบุคลากร (ศปก.พล.) เพื่อรองรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

เหตุโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่บางขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เกิดมี "สารเคมี" รั่วไหลเกิดขึ้นที่ผ่านมา ทำให้ทาง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์ "สารเคมี" รั่วไหลอย่างต่อเนื่อง


 

โดยในช่วง เทศกาลสงกรานต์ โรงงานส่วนใหญ่หยุดทำการ ผนวกกับช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อนมักเกิดอุบัติภัย "สารเคมี" รั่วไหลเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้ คพ.และ ทส.เข้มงวดด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันการรั่วไหล "สารเคมี" ในอนาคต

 

 

 

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยการเกิดอุบติภัยสารเคมีในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 

 

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)



มอบหมายให้ คพ. จัดเตรียมทีมตอบโต้เหตุฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์การตรวจวิเคราะห์มลพิษในภาคสนาม และห้องปฏิบัติการสิ่งแวดล้อม ณ ที่ตั้งกรมควบคุมมลพิษ ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 – 16 ร่วมปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่นในการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและให้คำแนะนำทางวิชาการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 



 

นายปิ่นสักก์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน สถานประกอบการต่างๆ จะหยุดทำการหรือลดการผลิตเพื่อให้พนักงานกลับบ้านใน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับเป็นช่วงฤดูร้อนมักเกิดอุบัติภัยสารเคมีรั่วไหลเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาทิ สารเคมี หกรั่วไหลจากโรงงานทีใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น

 

รวมทั้งเกิดไฟไหม้โรงงานหรือคลังจัดเก็บสารเคมี ไฟไหม้บริเวณสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย รถบรรทุกสารเคมีและวัตถุอันตรายพลิกคว่ำ การระบายน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ และการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตรายในพื้นที่สาธารณะ อาทิ บ่อดิน เหมืองร้าง พื้นที่ข้างถนนหรือจุดพักรถ แหล่งน้ำสาธารณะ และพื้นที่ลับตาคน 



 

ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม โดยข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีปี 2565 พบจำนวน 33 ครั้ง ได้แก่ ประเภทโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 22 ครั้ง การขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตราย จำนวน 8 ครั้ง และประเภทอื่นๆ เช่น เพลิงไหม้บ่อขยะ จำนวน 3 ครั้ง

 

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ได้รับ "สารเคมี" รั่วไหล 

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ได้รับ "สารเคมี" รั่วไหล 

 

  1. รีบเคลื่อนย้ายออกไปที่อากาศบริสุทธิ์
  2. ประเมินการหายใจ และการเต้นของหัวใจ ถ้าพบว่า หัวใจเต้นให้รีบทำ CPR
  3. หากสารเคมีเข้าตา รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที โดยเปิดเปลือกตาขึ้น ให้น้ำไหลผ่านตาอย่างน้อย 15 นาที พร้อมป้ายขี้ผึ้งป้ายตา และ รีบนำส่งแพทย์โดยเร็ว
  4. หากเสื้อผ้าปนเปื้อนสารเคมี ให้ถอดออกแยกจากเสื้อผ้าทั่วไป หากเสื้อผ้าสัมผัสสารเคมีจำนวนมาก ให้ทิ้งทันที
  5. หากสารเคมีโดนที่ผิวหนัง ให้ล้างผิวหนังด้วยน้ำสะอาด ถ้าสารเคมีเป็นกรดให้รีบถอดเสื้อผ้าออกก่อน
  6. หากมีแผลที่ผิวหนังให้ทำความสะอาดทุกวันและระวังการติดเชื้อ

 

 

คพ. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหนึ่งตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 จึงจัดเตรียมความพร้อมของเครื่องมือและบุคลากรของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว และขอความร่วมมือส่วนราชการ เครือข่ายหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย และสถานประกอบการต่างๆ ในการจัดเตรียมบุคลากรในการดูแลพื้นที่ เข้มงวดด้านความปลอดภัย และระมัดระวังในการขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตราย การจัดเก็บ สารเคมีและวัตถุอันตรายให้ถูกหลักวิชาการ

 

ดูแลระบบเตือนภัยและการดับเพลิงให้ใช้งานเป็นปกติเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานท้องถิ่นหรือประชาชนผู้พบเหตุสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านทางสายด่วนมลพิษ 1650 

 

 

logoline