ชีวิตดีสังคมดี

กทม. จม 'ฝุ่นพิษ' ทั้งจังหวัด หนองแขม หนักสุด - 'ค่าฝุ่น' พุ่งแดง 22 จังหวัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

GISTDA รายงาน สถานการณ์ 'ฝุ่นพิษ' PM2.5 กทม. จมฝุ่นทั้งจังหวัด หนองแขม หนักสุด ขณะที่ 'ค่าฝุ่น' เกินมาตรฐานพุ่งแดง 22 จังหวัด

GISTDA เกาะติดสถานการณ์ 'ฝุ่นพิษ' PM2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น "เช็คฝุ่น" เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 19 ม.ค. 2567 พบว่ามี 22 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง ขณะที่ใน กทม. พบ ค่าฝุ่น พุ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานระดับสีแดงทั้งจังหวัด

 

 

ในส่วนของ 22 จังหวัด พบ 'PM 2.5' เกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง โดย 5 อันดับสูงสุด ได้แก่

 

  • จ.สมุทรสาคร 153.7 ไมโครกรัม
  • จ.สมุทรสงคราม 145.4 ไมโครกรัม
  • จ.นครปฐม 118.1 ไมโครกรัม
  • จ.นนทบุรี 113 ไมโครกรัม 
  • กรุงเทพมหานคร 110 ไมโครกรัม

 

 

นอกจากนี้ ยังพบ ค่าฝุ่น ที่เกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม อีก 23 จังหวัด

 

 

ค่าฝุ่น

 

 

ในขณะที่ กรุงเทพมหานคร พบ 'ค่าฝุ่น PM2.5' ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดงทุกเขตของพื้นที่ ได้แก่ 

 

  • หนองแขม 167.1 ไมโครกรัม 
  • บางกอกใหญ่ 152.2 ไมโครกรัม 
  • ธนบุรี 145.8 ไมโครกรัม 
  • บางบอน 142.7 ไมโครกรัม 
  • ทวีวัฒนา 142 ไมโครกรัม

 

 

ค่าฝุ่น

 

 

แอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" ยังคาดการณ์ปริมาณ 'ฝุ่น PM 2.5' ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ 'ค่าฝุ่น PM 2.5' แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

 

ทั้งนี้ จากข้อมูล จุดความร้อน ที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 389 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 168 จุด ตามด้วยพื้นที่ แขต สปก. 76 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 68 จุด ชุมชนและอื่นๆ 41 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 26 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 10 จุด และ โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 

 

  • ลพบุรี 44 จุด 
  • ชัยภูมิ 22 จุด 
  • ชลบุรี 22 จุด

 

นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 1,999 จุด  ตามด้วย พม่า 439  จุด ลาว 174 จุด และเวียดนาม 120 จุด  

 

 

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ