ชีวิตดีสังคมดี

แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ทำคอนเทนท์สิ่งแวดล้อมง่ายๆ บน 'TikTok'

แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ทำคอนเทนท์สิ่งแวดล้อมง่ายๆ บน 'TikTok'

03 ต.ค. 2566

กทม.จับมือ 'TikTok' และกระทรวงทรัพฯ ผุด แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ทำคอนเทนท์สิ่งแวดล้อมง่ายๆ ผ่านแอปฯ TikTok พร้อมวัดคาร์บอนฟุตพรินท์ผ่านเว็บ ECOLIFE

การดูแลสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่หน่วยงานรัฐเท่านั้น เพราะความจริงแล้ว ประชาชนทุกช่วงวัยสามารถเป็นคนที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อทได้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรให้โลกได้ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ล่าสุด "TikTok" กรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  จัด แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก เพื่อให้เด็กและเยาวชนมาช่วยกันรักษ์โลก และดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ผ่านการทำคอนเทนต์ลงใน "TikTok"  

นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ "TikTok"  ประเทศไทย กล่าวถึงที่มาของแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใหญ่ที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่ Net Zero ในปี 2070 ซึ่งหลายคนมองประเด็นนี้ว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ "TikTok"  เห็นความสำคัญจึงต้องการใช้แฟลตฟอร์มที่มีมาปลูกฝังแนวคิดการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับคุณครูและนักเรียน 

“ปัญหาสิ่งแวดล้อมถ้าทำเพียงลำพัง โอกาสสำเร็จจะเกิดยาก TikTok จึงร่วมมือกับ 3 พันธมิตรที่จะมาช่วยกันผลักดันแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลกได้แก่ กรุงเทพมหานคร ที่ดูแลโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดูแลโครงการโรงเรียน Eco-School และ บริษัท คิดคิด จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ ECOLIFE ที่ช่วยจัดการขยะ โดยรูปแบบการดำเนินการโดยรูปแบบการดำเนินการคือ TikTok จะต้องเตรียมคอนเทนต์ เพื่อชวนให้นักเรียนและโรงเรียนร่วมกันติดติดแฮชแท็กชาเลนจ์ หลังจากนั้นจะมีการใช้คีเอสเตอร์ที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มร่วมกันสร้างคอนเทนท์ด้านสิ่งแวดล้อมให้มีความเข้าใจง่ายและเข้าถึงง่ายมากที่สุด” นางสาวชนิดา กล่าว 

 

 

แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะจัดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2566 โดยชวนเด็กและเยาวชนมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ภายใต้เนื้อหา 3 RE Challenge ที่ประกอบด้วย Refill : ชวนพก กระบอกน้ำ กล่องข้าว ชวนเติมเพื่อลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง Recheck : เช็คการใช้ชีวิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมง่าย ๆ ทำได้อย่างไรบ้าง Recycle : ชวนแยกขยะประเภทต่าง ๆ แยกอย่างไร ขยะไปไหนต่อ โดยนำคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์มานำเสนอผ่านช่อง "TikTok" โดยเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคุณครูตามข้อกำหนดการใช้งานของ "TikTok"

ระหว่างนี้จะมีการติดตามผลการลดขยะ การแยกขยะ และสามารถคำนวณการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย โดยโรงเรียนที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด

 

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีขยะมากกว่า 9,000 ตันต่อวัน สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพียง 30 % เราจึงมีเป้าหมายที่จะจัดการขยะแบบมุ่งเน้นให้ขยะเหลือศูนย์ โดยปลูกฝังค่านิยมการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบ และสนับสนุนให้มีการคัดแยกขยะที่ต้นทาง รวมถึงนำไปแปรรูปเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ที่ต้องการจะเริ่มต้นการปลูกฝังนิสัยรักสิ่งแวดล้อมหรือการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่นักเรียน โดยปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีโรงเรียนในสังกัดประมาณ 437 แห่ง มีนักเรียนกว่า 2.5 แสนคน การเริ่มต้นทำการเริ่มต้นทำกิจกรรม ผ่าน แพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงวัยรุ่นได้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการปลูกฝังและสร้างความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้นักเรียน และนักเรียนสามารถนำและนักเรียนสามารถนำความรู้ไปส่งต่อให้อย่างผู้ปกครองและชุมชนได้

 

"กทม.ยินดีที่ "TikTok" ริเริ่มแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก และ กทม. ได้ให้การสนับสนุนด้านการสื่อสารโครงการและประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายคุณครู และนักเรียน ในเครือข่ายโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจะส่งเสริมการเก็บข้อมูลการแยกขยะผ่านเว็บไซต์ ECOLIFE เพื่อคำนวณการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังจากการร่วมมือในครั้งนี้กทม. จะต้องดำเนินการหลังจากการร่วมมือในครั้งนี้กทม. จะต้องดำเนินการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในแคมเปญ ด้าน "TikTok" จะมีการเตรียมเนื้อหาในการทำด้าน "TikTok" จะมีการเตรียมเนื้อหาในการทำชาเลนทั้งนี้เพื่อให้เด็กนักเรียนและครูสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายที่สุด" นายชัชชาติ กล่าว 

 

 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ดูแลโครงการโรงเรียน Eco-School กล่าวว่า โรงเรียน Eco-School เกิดจากความมุ่งมั่นที่ต้องการพัฒนางานสิ่งแวดล้อมศึกษาในโรงเรียน ให้สอดคล้องกับแนวทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อปลูกฝังความเป็นพลเมืองเพื่อสิ่งแวดล้อม ให้เกิดขึ้นแก่ครู นักเรียน บุคลากรในโรงเรียน รวมถึงชุมชน ปัจจุบันมีโรงเรียน Eco-School   931 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ 

 

“แคมเปญนี้จะช่วยส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยังเป็นกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ทำให้นักเรียนได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เช่น ประสบการณ์ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านช่อง "TikTok" ซึ่งเมื่อเราเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนนำเสนอคอนเทนต์ในสไตล์ของเขา แล้วสื่อสารไปยังคนวัยเดียวกันที่มีความสนใจคล้ายกัน ก็เชื่อว่าจะเป็นการรวมพลังที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อมาช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของเราให้ดีขึ้นด้วย” นายจตุพร กล่าว

 

นายพิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิดคิด จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ให้คำปรึกษาด้านพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมกับองค์กร และเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ECOLIFE กล่าวว่า ECOLIFE เกิดขึ้นเพื่อจูงใจให้คนเลิกรับหลอดและถุงพลาสติก โดยมีโจทย์ว่าการใช้งานจะต้องง่าย สนุก และสามารถบอกผลเรียลไทม์ว่าร้านค้าหรือสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งสามารถลดพลาสติกไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

“แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพกกระบอกน้ำเพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การแยกขยะเพื่อรีไซเคิล หรือการหยุดคิดสักนิดว่าการใช้ชีวิตของเรามีตรงไหนที่จะทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อีกบ้าง 

 

แพลตฟอร์ม ECOLIFE จะมีการเก็บข้อมูล ว่าสามารถจัดการขยะขยะได้เท่าไหร่และสามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้ใน ซึ่งแพลตฟอร์มมีมาตรฐานการวัดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผ่านการรับรองจากอบก. โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขในช่วงปลายปีหลังจากจบโครงการ 

 

อย่างไรก็ตามทุกคนมีสิทธิ์ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่ง แคมเปญ REact For Change ลอง เปลี่ยนโลก เกิดจากกลยุทธ์ Smart Environment ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ "TikTok" เพื่อส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันเพื่อทำโลกของเราให้ดีขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถติดตามคอนเทนต์ดี ๆ ภายใต้เนื้อหา 3 RE Challenge ของเด็กและเยาวชนได้ที่ช่อง "TikTok" และเชื่อว่าคอนเทนต์เหล่านี้จะทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวก เกิดการรับรู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในวงกว้าง ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสามารถติดตามผลลัพธ์แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ได้ที่ www.ecolifeapp.com