'ยูนิโคล่' ตั้งเป้าใช้วัสดุรีไซเคิล 50% ทำ เสื้อผ้า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การเดินหน้าแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืน (Sustainability) เป็นเรื่องที่หลายองค์กรหันมาให้ความสนใจที่จะดำเนินธุรกิจไปพร้อมๆกับการสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม ไม่เว้นแม้แต่เบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกอย่าง "ยูนิโคล่"  (UNIQLO)  ที่เริ่มต้นการทำแบรนด์เสื้อผ้าที่ให้ความสำคัญผู้คน  โลก และชุมชน  พร้อมกับวางเป้าหมายเดินหน้าสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องภายในปี 2030 ผ่านแนวคิดไลฟ์แวร์ (LifeWear) เพื่อผลิตเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดการปล่อยคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้า

• เปิดแผนด้านความยั่งยืนในปี 2030 ของฟาสต์รีเทลลิ่ง

มร.โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยถึงการดำเนินการตามแผนความยั่งยืน ว่า สิ่งสำคัญและเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ "ยูนิโคล่" วางเอาไว้นั้นมี 2 เรื่องสำคัญ คือ การผลิตเสื้อเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการกำหนดนโยบายตั้งแต่ตั้งแต่ต้นทำ ด้วยการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้ รวมไปถึงการลดขยะจากเสื้อผ้าค้างสต็อกที่ขายไม่หมด โดยการบริหารจัดการระบบหลังบ้าน ตรวจสอบความต้องการว่าลูกค้าซื้อสินค้าประเภทใดมากที่สุด และผลิตออกมาให้สอดคล้อง พร้อมทั้งโยกย้ายสต็อกไปยังสาขาอื่นๆ ที่มีความต้องการเสื้อผ้าแบบที่เหลือยู่ เพื่อให้เกิดขยะจากเสื้อผ้าค้างสต็อกน้อยที่สุด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ "ยูนิโคล่" มีความมั่งมั่นที่จะผลิตเสื้อที่ดีต่อผู้สวมใส่ มีอายุการใช้งานที่นานมากยิ่งขึ้น ซึ่งแนวคิดการผลิตเสื้อผ้าไลฟ์แวร์นั้น เราไม่เน้นการเป็นฟาสต์แฟชั่นแต่เราต้องการให้เกิดความคุ้มค่า สามารถสวมใส่ตลอด เพื่อลดการฝั่งกลบเสื้อผ้า

อย่างไรก็ตามเริ่มตั้งแต่ปี 2566-2568 "ยูนิโคล่" ตั้งใจจะเป็นบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย  โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินการตามแผนของการพัฒนาสู่เป้าหมายอย่างยั่งยืน (Sustain Development Goals: SDGs) ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยจะเน้นเป้าหมายที่ 3 คือการสร้างหลักประกันว่าคนมีในสังคมจะมีชีวิตที่สุขภาพดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย เป้ายหมายที่ 14 การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้เพื่อต่อสู่กับการกลายเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของดินและฟื้นสภาพดิน รวมทั้งหยุดยั่งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

• รังสรรค์เสื้อผ้าที่ลดการปล่อยคาร์บอน ก๊าซเรือนกระจก และขยะจากเสื้อผ้า

มร.โยชิทาเกะ อธิบายต่อด้วยว่า นอกจากความยั่งยืนที่ "ยูนิโคล่" ให้ความสำคัญแล้ว การลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอน และก๊าซเรือนกระจก เป็นหนึ่งในแผนการดำเนินธุรกิจของ "ยูนิโคล่" ที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีแนวคิดที่จะให้แต่ละสาขาเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนแบบ 100% ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกับสขาในฝั่งยุโรป รวมไปถึงการรีไซเคิลพลาสติกประเภท PET มาเป็นเส้นใยในการผลิตเสื้อผ้าบางประเภท การผลิตกางเกงยีนส์แบบ Blue Cycle ที่ลดปริมารการใช้น้ำในกระบวนการผลิตปัจจุบันดำเนินการอยู่ประมาณ 5 % ของเสื้อผ้าทั้งหมด และมีเป้าหมายจะดำเนินการต่อเนื่อง และออกแบบเสื้อผ้ามีการใช้วัสดุ Recycle ให้ได้ 50% ของเสื้อผ้าที่ออกมาแบบ

"ที่ผ่านมาเราดำเนินการด้านการออกแบบและผลิตเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินการที่ผ่านมาเราสามารถอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 100% ในอนาคตเราจะเดินหน้าหาพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามาร่วมกันดำเนินการและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อยของเสียจากกระบวนการผลิต"  ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ระบุ

• RE.UNIIQLO สารตั้งต้นการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน

มร.โยชิทาเกะ บอกว่า เพื่อขับเคลื่อน "ยูนิโคล่" ให้บรรเป้าหมาย SDGs  เราได้ดำเนินการแคมเปญ  RE.UNIIQLO ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกภายใต้แนวคิด   Repair, Remake, Reuse, Recycle  ซึ่งเป็นการนำเสื้อผ้ากลับมาซ่อมแซมและกบัมาใช้ใหม่ เปนการต่ออายุการใช้งาน โดยจะเปิดให้บริการเป็นสาขาแรกที่ ยูนิโคล่ สาขาเซ็นทรัลเวิร์ด ซึ่งเป็นสาขาแรกที่ของยูนิโคล่ประเทศไทย ซึ่งใน RE.UNIIQLO Studio จะให้บริการด้วยการนำเทคนิคการตัดเย็บด้วยเมืองแบบดั่งเดิมของญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า Sashiko มาให้บริการ

ภายใต้โครงการ  RE.UNIIQLO ไม่ได้มีแค่การนำเสื้อผ้าเก่ากลับมาซ่อมแซมเท่านั้นแต่ ยูนิโคล่ ยังมีเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ของประเทศไทยที่เผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็น และอุทกภัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ยูนิโคล่ จึงต้องการรวบรวมเสื้อกันหนาวจำนวน 50,000 ชิ้น ภายใต้โครงการ RE.UNIIQLO  เพื่อช่วยเหลือสังคมและลดจำนวนเสื้อผ้าที่จะกลายเป็นขยะฝั่งกลบในอนาคต  โดย "ยูนิโคล่" ได้ร่วมกับ มูลนิธิกระจกเงา  มูลนิธิบ้านร่มไทร และ UNHCR สำหรับเป็นตัวแทนในการส่งมอบเสื้อหนาว โดยจะเปิดรับเสื้อกันหนาวตลอดทั้งปี