ชีวิตดีสังคมดี

อัปเดต 'สถานการณ์น้ำ' ทั่วประเทศมีน้ำใช้ได้ 30 % รอฝนตกชุกน้ำเติมเข้าอ่าง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อัปเดต 'สถานการณ์น้ำ' ในเขื่อนหลักทั่วประเทศมีปรมาณน้ำใช้การได้ 30% รอช่วงฝนตกชุกหวังมีน้ำเข้ามาเติมในเขื่อน

ระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. เปิดเผย "สถานการณ์น้ำ" เขื่อนหลักทั่วประเทศ พบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก อยู่ในระดับวิกฤต ปริมาณน้ำเหลือไม่ถึง 30 % ของความจุ 

 

โดย "สถานการณ์น้ำ" ที่เริ่มวิกฤติ ในแต่ละภูมิภาคมีดังนี้  

 

ภาคเหนือ  ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก  

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เขื่อนน้ำพุง จังหวัดสกลนคร   

 

ภาคกลาง ได้แก่ เขื่อนกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี  

 

ภาคตะวันออก ได้แก่ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก  เขื่อนนฤบดินทรจินดา  จังหวัดปราจีนบุรี  และเขื่อนคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา  

 

ภาคใต้ ได้แก่ เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และ เขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

นอกจากนี้พื้นที่ภาคกลาง ที่ปริมาณน้ำในเขื่อนทุกแห่งรวมกันอยู่ในระดับวิกฤต โดยเหลือเพียง 285 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 20 % เท่านั้น

 

 

ด้าน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ระบุว่า  ขณะนี้มีฝนตกมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้หลายพื้นที่และเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะอ่างฯ ที่มีปริมาณน้ำน้อย เช่น เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล เป็นต้น โดยในช่วงวันที่ 27 ก.ค. – 2 ส.ค. 2566 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ รวม 1,221 ล้านลบ.ม. แต่ยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับพื้นที่ตอนกลางของประเทศและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ยังคงมีฝนค่อนข้างน้อยกว่าปกติ และมีแนวโน้มประสบปัญหาภัยแล้ง

 

อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีปริมาณน้ำทั้งประเทศ 41,413 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 50% ของความจุรวม โดยเป็นปริมาณน้ำใช้การเพียง 17,307 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 30% แม้ว่าสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ จะดีขึ้น แต่ยังถือว่ามีปริมาณน้ำน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง

 

ส่วนปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศก็ยังคงต่ำกว่าค่าปกติ 19% จึงไม่สามารถประเมินได้ ถึงแม้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ