ชีวิตดีสังคมดี

'กระทิงตาบอด' เพราะ แมลงวันตา ผลพวงจากโลกร้อนทำประชากรแมลงฟักตัวดี อายุยืน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาเหตุ กระทิงตาบอด ดวงตาติดเชื้อ กรมอุทยานฯ แจงเพราะ แมลงวันตา ผลพวงของ ภาวะโลกร้อน ทำประชากรแมลงวันฟักตัวได้ดีขึ้นมีอายุยาวนานมากขึ้น 3 เท่า

ตามที่มีการนำเสนอข่าว "กระทิงตาบอด" ในหลายพื้นที่โดยเบื้องต้นมีการ สันนิษฐานว่าเกิดจากการโดนฉี่หมาใน จนก่อให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว นายอรรถพล  เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ระบุว่า ได้รับรายงานจากสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ จากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุที่ทำให้ "กระทิงตาบอด" ในหลายพื้นที่เกิดจากแมลงวันตา หรือ อาย ฟลาย (eye fly) พบแพร่กระจายทั่วไปและระบาดมากในบางพื้นที่ โดยชนิดที่พบในประเทศไทย คือ ไซปันคูลินา ฟูนิโคลา (siphunculina funicola)

โดยแมลงชนิดนี้จะเข้ามารุมดูดกินน้ำเลี้ยงจากลูกนัยน์ตา ทำให้ตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล เจ็บตา มีขี้ตามาก และทำให้ตาติดเชื้อโรคที่มากับแมลงชนิดนี้ เป็นสาเหตุทำให้ต่อมน้ำเหลืองหลังหูเจ็บและบวม ส่วนใหญ่เกิดที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อนและติดเชื้อลามไปอีกข้างหนึ่ง ทำให้เกิดตาบอดถาวรทั้งสองข้าง  ทั้งนี้การติดเชื้อที่มาจากแมลงวันตานี้เกิดขึ้นได้ในกระทิงทุกเพศ ทุกช่วงอายุ และอาจมีปัจจัยความแข็งแรงทางร่างกายและพันธุกรรมเป็นตัวเสริม และยังดูดเลือดและน้ำเหลืองจากบาดแผล ทำให้แผลหายช้า รักษาไม่หายขาด เกิดเป็นแผลเรื้อรังจากการนำเชื้อโรคต่างๆมาสู่แผล นำมาสู่การติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้ และบริเวณที่มีเนื้อเยื่ออ่อนๆ เช่น จมูก อวัยวะเพศ นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ "กระทิงตาบอด"

 

ภาพจากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า สำหรับความกังวลว่าสัตว์ป่าอื่นๆจะมีความเสี่ยงติดเชื้อดังกล่าวหรือไม่นั้น จากข้อมูลที่มีการสังเกตและติดตาม พบว่า สรีระร่างกายและพฤติกรรมของสัตว์แต่ละชนิดมีกลไกป้องกัน เช่น ช้างป่า มีใบหูขนาดใหญ่ สามารถพัดลมไล่แมลงได้ รวมถึงมีงวงที่เป็นจมูกยาวเป่าลมไล่แมลงที่ตาได้ ส่วน เก้ง กวาง นั้นแม้จะมีหูขนาดใหญ่พอที่จะสะบัดลมหรือส่ายหัวไล่แมลงได้เหมือนกันกับวัวและควาย แต่หากเป็นกรณีที่ถูกแมลงรุมจำนวนมากๆ อาจจะพบปัญหาการไล่แมลงออกไปได้ยาก ซึ่งต้องอาศัยนกที่กินแมลงเข้ามาช่วยกำจัด ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าและสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ร่วมกันศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

 

ภาพจากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

 

สำหรับ แมลงวันตา สามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง ฝนทิ้งช่วง และยังนำเชื้อแบคทีเรียหลากหลายชนิดอีกด้วย จากการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2552 โดย ดร. อุรุญากร จันทร์แสง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำการศึกษาวิจัย พบแบคทีเรียทั้งหมด 64 ชนิด ซึ่ง 36 ชนิด เป็นแบคทีเรียชนิดที่มีความเสี่ยงในการก่อโรคในระดับที่ 2 ตามประกาศของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งแบ่งระดับของแบคทีเรียก่อโรคตามความเสี่ยงออกเป็น 4 ระดับ โดยระดับ 4 เป็นระดับที่เสี่ยงสูงสุดและลดลงมาตามลำดับ แบคทีเรียที่พบในแมลงชนิดนี้อยู่ในระดับที่ 2 เช่น เอนเทอโรค็อกคัส สูโดโมนาส สแต็ปโตค็อกคัส สแต็ปฟิโลค็อกคัส แต่ปัจจุบันด้วยสภาพปัจจัยเรื่องภาวะโลกร้อน(Climate change) จึงยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าพบเชื้อแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้นหรือพบไวรัสชนิดใหม่ๆด้วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล

 

ภาพจากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

 

ด้านข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศยังกระทบต่อปศุสัตว์ผ่านทางผลกระทบ ที่มีต่อเชื้อโรคอีกด้วย ตัวอย่าง โรคจากโปรโตซัว ที่เกิดกับปศุสัตว์ และสัตว์อื่น ๆ เช่น โรค Trypanosomiasis โรค Theileriosis และ โรค Babesiosis เป็นไปได้ว่า ได้รับผลกระทบมาจาก การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เนื่องจากโรคทั้งหมดนี้ แพร่กระจายได้ โดยมีตัวนำเชื้อโรค คือ หมัด เห็บและแมลงวัน ขั้นตอนการเกิดโรค ขึ้นอยู่อย่างมากกับอุณหภูมิ เช่น ในต้นทศวรรษที่ 1990 ฤดูหนาว ที่อุ่นผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ทำให้สัตว์เล็ก ๆ พวกริ้น Culicoides ซึ่งเป็นตัวนำ โรค African horse sickness เกิดขึ้นได้ในประเทศสเปน หรือการที่วัว ในทวีปแอฟริกาเป็นโรค East coast fever ที่เกิดจากตัวนำเชื้อโรค Rhipicephalus appendiculatus tick (หมัดชนิดหนึ่ง) ซึ่งถ้าอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพปกติของสถานที่ ที่เป็นอยู่ของหมัดชนิดนี้ พบว่า ช่วงชีวิตของหมัดชนิดนี้ จะยาวนานขึ้นเป็น 3 เท่า นอกจากนี้ องค์การการป้องกันสิ่งแวดล้อม แห่งสหรัฐอเมริกา พบโรคติดต่อหลายชนิด เช่น โรค Home fly ในวัวเนื้อและวัวนม โรค Insect-bome anaphasmosis ที่เป็นโรคติดต่อในแกะ และวัว เกิดเพิ่มมากขึ้น ตามการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ นอกจากนั้น แกะ วัว แพะและม้า ยังมีความอ่อนไหว ต่อโรคติดต่อจากพยาธิ ตัวกลม ที่การแพร่ระบาด จะอยู่ภายใต้อิทธิพลของ สภาพภูมิอากาศเช่นกัน

 

ภาพจากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ