เตือน 'พายุฤดูร้อน' ในไทย 8-10 พ.ค. 66 จับตา พายุหมุนเขตร้อน ทำ ภาคใต้ ฝนหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ฉบับที่ 1 'พายุฤดูร้อน' ในไทย 8-10 พ.ค. 66 จับตา พายุหมุนเขตร้อน ทำ ภาคใต้ ฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง
พยากรณ์อากาศ ประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง 'พายุฤดูร้อน' บริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 (130/2566) ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ค. 2566 ประเทศไทยตอนบนจะมี 'พายุฤดูร้อน' เกิดขึ้น โดยมีลักษณะของ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และ ลูกเห็บตก บางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน
โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิด พายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมี อากาศร้อนถึงร้อนจัด
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 10-11 พ.ค. 66 และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี ฝนฟ้าคะนอง ต่อเนื่อง
ในช่วงวันที่ 8-12 พ.ค. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอ่าวเบงกอล มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุหมุนเขตร้อน โดยคาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนกลาง ทำให้ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง และภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นโดยมี ฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พยากรณ์อากาศ เวลา 06:00 น.วันนี้ - 06:00 น.วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมี ฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมี ลมกระโชกแรง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ และนครราชสีมา
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และอุทัยธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 26-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อน ในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.