ชีวิตดีสังคมดี

'กรมอุตุนิยมวิทยา' เตือน 'อุณหภูมิ' เกิน 50 องศา หวั่นเกิดฮีทสโตรกถึงตาย

'กรมอุตุนิยมวิทยา' เตือน 'อุณหภูมิ' เกิน 50 องศา หวั่นเกิดฮีทสโตรกถึงตาย

23 เม.ย. 2566

'กรมอุตุนิยมวิทยา' เตือนประชาชน 'อุณหภูมิร้อน' เกิน 50 องศา หวั่นเกิดฮีทสโตรกอันตรายถึงชีวิต ย้ำควรลดกิจกรรมการแจ้ง ดื่มน้ำให้มาก สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ ป้องกันสุขภาพให้ผ่านหน้าร้อนนี้ไปให้ได้

เดือน เม.ย. ปีนี้เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดอีกครั้งในประวัติศาสตร์ไทยที่ผ่านมา ค่าดัชนีความร้อน ( Heat Index ) พุ่งสูง 50 องศาเซลเซียส ในเขตบางนา กรุงเทพเทพมหานคร นับเป็นปรากฎการณ์สภาพอากาศที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน โดยอีกหลายจังหวัดในประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจาก "อุณหภูมิ" ที่สูงขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเช่นกัน

 

 

อาการโรคฮีทสโตรก

 

 

ซึ่งจะส่งผลให้หน้าร้อนปีนี้มีผู้เสียชีวิตและเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการ โรคฮีทสโตรก (Heatstroke ) หรือภาวะลมแดดหลายรายมากขึ้น   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประกาศเตือนให้ประชาชน งดออกไปกลางแจ้งในช่วงระหว่างเวลาที่ร้อนจัด เพราะมีความเสี่ยงทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำและเกิดอาการดังกล่าวได้

 

ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา 

 

ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา  กล่าวว่า เดือน มี.ค. ถึง พ.ค. ของทุกปี เราจะพบกับอากาศร้อน ปีนี้ประเทศไทยพบกับอากาศร้อนถึง 44.6 องศาเซลเซียส มีค่าดัชนีความร้อน (Heat Index )ตามภูมิภาคสูงเกิน 54 องศาเซลเซียส เพราะฤดูร้อนในประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น จะส่งผลต่อสุขภาพประชาชนจำนวนมาก 

 

ค่าดัชนีความร้อนรายวัน

 

 

โดยค่าดัชนีความร้อนมากกว่า 41-54 องศา จะทำส่งผลอันตราย  ซึ่งจะอาการเพลียแดด  และเกิดภาวะลมแดดได้ถ้าสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน  แต่ถ้ามากกว่า 54 องศา  จะเกิดภาวะลมแดด (Heat Stroke) ที่ทำให้เสียชีวิต

 

 

ดัชนีความร้อน

 

 

ช่วงนี้กรมเน้นสร้างความเข้าใจและความตระหนักรู้ให้กับชุมชน ประชาชน กลุ่มเสี่ยง  กลุ่มเปราะบาง รับทราบอุณหภูมิของอากาศที่ตรวจวัดได้จริงกับระดับอุณหภูมิที่เรารู้สึกได้ในขณะนั้น หรือ  Heat Index เพื่อเตรียมพร้อมในการใช้ชีวิต ถือเป็นการปรับการแจ้งเตือนรูปแบบใหม่ให้แก่ประชาชน ซึ่งคนเข้าใจมากขึ้น สามารถแบ่งระดับผลกระทบเป็นสีต่างๆ  ได้ดังนี้

  • สีแดง อันตรายมาก 
  • สีส้ม อันตราย
  • สีเหลือง เตือนภัย 
  • สีเขียวอ่อน เฝ้าระวัง

 

ดร.ชมภารี กล่าวเพิ่มเติมว่า อุณหภูมิจริง 35 องศา แต่มีความชื้นสัมพันธ์ของอากาศมากกว่า  หรือร่างกายระบายความร้อนได้ช้า  ไม่ได้ทานน้ำ ไม่มีการขับเหงื่อออกจากร่างกาย "อุณหภูมิ" ในร่างกายก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนอุณหภูมิถึง 50 องศาขึ้นไป  จะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต 

 

 

นอกจากนี้การผันแปรของสภาพภูมิอากาศ  ร้อนจัด หนาวจัด ปรากฎการณ์เอลนีโญ-ลานีญา ไฟป่าที่ลุกลาม การเผาป่าเพื่อการเกษตร ที่เกิดจุดความร้อน (Hot spot)   และฝนแล้ง เป็นอีกสาเหตุที่เพิ่มความร้อนให้มากขึ้นในสภาพอากาศ และอีกปัจจัยเป็นฝีมือของมนุษย์ เช่น การเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจก  การตัดไม้ทำลายป่า ภาคอุตสาหกรรม  มลภาวะทางอากาศ  รวมถึงการขยายตัวของเมือง ก็เป็นสาเหตุสำคัญ

 

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากปรากฎการณ์ลานีญา ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกมาก อากาศไม่ร้อนมาก  ไม่เหมือนหลายปีก่อนหน้า เช่น ปี 59 ที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ เป็นปีที่หลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุด ช่วงปลายปี 65 ถึงต้นปี 66 ประเทศไทยมีอากาศหนาวยาวนานนานส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งเป็นบริเวณกว้าง  อีกทั้งมีการเผาป่า ในหลายพื้นที่  จนเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ที่มีอุณหภูมิสูงมากกว่าฤดูร้อนปี 65 รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งแนวโน้มค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงสุดของประเทศไทย ปี 2494-2564  ไทยมีทิศทางอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตามทาง กรมอุตุนิยมวิทยา มีข้อแนะนำการใช้ชีวิตในช่วงหน้าร้อน ควรลดกิจกรรมการแจ้ง ดื่มน้ำบ่อยๆ สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี  สวมหมวก แว่นกันแดด  ปกป้องตัวเองจากความร้อน จากการศึกษาเมื่อรังสี UV ทะลุสู่ร่างกาย เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนัง โรคกระจกตาอักเสบ และโรคอื่นๆ เพื่อป้องกันสุขภาพประชาชนให้ผ่านหน้าร้อนนี้ไปให้ได้