ชีวิตดีสังคมดี

'ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565' ลด ภาระ ค่าน้ำ-ค่าไฟ กว่า 13 ล้านสิทธิ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565' บรรเทาภาระ ค่าน้ำค่าไฟ ยืนยันตัวตนสำเร็จกว่า 13 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 89.77 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ 14,596,820 ราย 

จากการดำเนินการ ผู้ได้รับสิทธิโครงการ "ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มี.ค. 2566 (ผู้มีสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ) มีจำนวนราวๆ 13 ล้านราย 

 

 

 

โดยสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มวันแรก 1 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจะได้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ คือ 

 

  • ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาท/คน/เดือน
  • ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาท/คน/3 เดือน
  • ค่าเดินทางรถสาธารณะ 750 บาท/ครัวเรือน/เดือน
  • ลดภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
  • ลดภาระค่าน้ำประปา 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน

 

 

'ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565' ลด ภาระ ค่าน้ำ-ค่าไฟ กว่า 13 ล้านสิทธิ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

 

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ตามโครงการ "ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565"  ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้วมีจำนวนเพิ่มขึ้น

 

โดยข้อมูล วันที่ 12 เม.ย. 2566 เวลา 13.00 น. มีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 13,104,007 ราย คิดเป็นร้อยละ 89.77 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย 

 

โดยผู้ผ่านเกณฑ์ที่ไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตน ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน ธนาคารออมสิน  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ตามวันเวลาที่หน่วยงานกำหนด

 

 

สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์และยืนยันตัวตนสำเร็จ ที่ประสงค์จะรับสิทธิมาตรการบรรเทาภาระ ค่าน้ำ-ค่าไฟ จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ ดังนี้

 

1. สวัสดิการค่าไฟฟ้า ปัจจุบันประชาชนทั่วไปจะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าจากมาตรการของรัฐบาลโดยการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีเงื่อนไขว่า หากประชาชนใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 

 

ดังนั้น ภายใต้มาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นกรณีที่ผู้มีสิทธิฯ ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน โดยจะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน แต่หากมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีสิทธิฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าด้วยตนเองทั้งหมด 

 

 

2. สวัสดิการค่าน้ำประปา สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยในกรณีที่ผู้มีสิทธิฯ ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีสิทธิฯ จะยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน 

 

โดยจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือนด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิฯ ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ ต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาด้วยตนเองทั้งหมด 

 

ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติและได้ยืนยันตัวตนสำเร็จเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ ปี 2565 แล้วสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าประปากับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้มีบัตรฯ รับบริการอยู่ ดังนี้

 

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

 

 

1. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า สามารถลงทะเบียนได้ที่

  • สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์: คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1130
  •  สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์: คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1129
  •  กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์: คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 086 848 1284 



 

2. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา สามารถลงทะเบียนได้ที่

(1) สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์: คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1125 และ

(2) สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์: คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1662



 

หากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เม.ย 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เม.ย 2566 เวลา 17.00 น. และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มี.ค. 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือน เม.ย. 2566 

 

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนภายหลังวันและเวลาดังกล่าว จะสามารถได้รับสิทธิสำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการในเดือนถัดไป (ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง) 


 

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือน มี.ค. 2566 เป็นเดือนสุดท้าย

 

 

โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2566 

 

 

ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าน้ำประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: คลิกที่นี่ 

logoline