ประชาสัมพันธ์

สมาคมสภาองค์กรโรคหืดฯรณรงค์ปัญหาโลกร้อน ลดฝุ่น ลดความเสี่ยง "โรคหืด"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย รณรงค์ปัญหาโลกร้อนและมลพิษในอากาศและฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เพื่อลดความเสี่ยงโรคหืด ผ่านคลิปวิดีโอ “Climate Change in Asthma Care” เพื่อให้ผู้ป่วยโรคหืดมีชีวิตที่ดีขึ้น

 


เนื่องในวันโรคหืดโลก 2565 สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย รณรงค์ปัญหาโลกร้อนและมลพิษในอากาศและฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เพื่อลดความเสี่ยงโรคหืด ผ่านคลิปวิดีโอ “Climate Change in Asthma Care” เพื่อให้ผู้ป่วยโรคหืดมีชีวิตที่ดีขึ้น นำโดย ว่าน ธนกฤต, พิมฐา, แจน พลอยชมพู และ เอิร์ท พิรพัฒน์

 

ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2593 ครึ่งหนึ่งของประชากรโลกจะป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะโรคหืด เนื่องจากปัญหาโลกร้อน มลพิษทางอากาศและฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดโรคหืดจากการสูดเอามลพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจเป็นเวลานานและทำให้ผู้ป่วยโรคหืดมีอาการกำเริบรุนแรง จนอาจเสียชีวิตได้ อีกทั้งยังพบว่า หญิงตั้งครรภ์และทารกอายุน้อยกว่า 1 ปีที่สัมผัสควันบุหรี่หรือมลพิษ จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหืดสูงขึ้นถึง 60% 


ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องในวันโรคหืดโลก 2565 (World Asthma Day 2022) ภายใต้แนวคิด Closing the Gap in Asthma Care สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย จึงต้องการรณรงค์ให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคหืดและแนวทางการรักษา โดยให้คนไข้พ่นยาต่อเนื่องสม่ำเสมอ พร้อมเทคนิคการปรับเพิ่มยาลดยา และการรักษาแบบเป็นองค์รวม โดยใช้ยาและไม่ใช้ยา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการมีอาการหอบหืดกำเริบและสูญเสียชีวิตจากโรคหืด


“ในโอกาสวันโรคหืดโลก 2565  สมาคมฯ ได้จัดทำสื่อวิดีโอและบทความให้ความรู้ในหัวข้อ Climate Change in Asthma Care เพื่อการประชาสัมพันธ์และเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนในวงกว้าง โดยชูประเด็นการรณรงค์แก้ปัญหาโลกร้อน มลพิษทางอากาศ และฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคหืดและกระตุ้นให้ผู้ป่วยโรคหืดมีอาการกำเริบ โดยประชาชนทั่วไปสามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศในชีวิตประจำวัน ทั้งการลดขยะ ปลูกต้นไม้ หลีกเลี่ยงการเผาวัสดุ เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคหืด" ศ.ดร.พญ.อรพรรณ กล่าว
 

 

สำหรับแนวทางการดูแลคนไข้โรคหืดในปัจจุบัน ศ.ดร.พญ.อรพรรณ กล่าวว่า จะต้องอาศัยความเข้าใจ และความร่วมมือระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยและครอบครัว ดังนี้ 


ความเข้าใจต่อโรคหืด - โรคหืดเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม เมื่อได้รับสิ่งกระตุ้นหลอดลมจะเกิดการอักเสบและเกิดภาวะหลอดลมตีบ จึงทำให้มีอาการหอบหืด 


ความเข้าใจในแง่ของการรักษา - สาเหตุหลักของโรคหืดคือ การอักเสบบริเวณหลอดลม ดังนั้นยาหลักที่ให้คือยาสูดพ่นสเตียรอยด์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบเดี่ยวและแบบผสม โดยการรักษาจะต้องเริ่มรักษาให้ไวแต่เนิ่น ๆ และต้องรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพื่อให้มั่นใจว่าได้รักษาที่สาเหตุคือการอักเสบและนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการรักษาซึ่งก็คือการควบคุมโรคหืดได้อย่างสมบูรณ์


ความเข้าใจและให้ความร่วมมือต่อการบริหารยาสูดพ่นอย่างต่อเนื่อง - ผู้ป่วยโรคหืดควรได้รับยาสูดพ่นเป็นประจำทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรใช้ยาเฉพาะเมื่อมีอาการ และควรมีการประเมินเทคนิดการใช้ยาสูดพ่นให้ถูกต้อง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนไข้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี ทำกิจกรรมได้เป็นปกติ และไม่มีอาการหืดกำเริบจนถึงหายขาดได้


รับชมคลิปวิดีโอ “Climate Change in Asthma Care” เพื่อให้ผู้ป่วยโรคหืดมีชีวิตที่ดีขึ้น นำโดย ว่าน ธนกฤต, พิมฐา, แจน พลอยชมพู และ เอิร์ท พิรพัฒน์ ได้ที่ https://fb.watch/cLxIFVkS06/


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ