
"สัปเหร่อ ออน ท็อป" สู่ "ตัวพ่อ" แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม "ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา"
จากฉายา "สัปเหร่อ ออน ท็อป" วราวุธ เดินหน้าสู้ตัวพ่อผู้แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด 5 มิติ
แต่หากมองถึงสิ่งที่รัฐมนตรีท่านนี้ได้ทำไว้ ต้องบอกเลยว่าเฉียบขาด ทั้งการฟื้นฟูผืนป่า จนสามารถถผลักดันให้ อุทยานแห่งชาติป่าแก่งกระจานตีตราเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลก ทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย หรือ การทำให้ประเทศไทยลดอันดับการปล่อยขยะลงสู่ทะเลมากที่สุดในโลกจากอันดับ 6 เหลือเพียงอันดับ 10 เท่านั่น ผ่านโครงการ Everyday Say No To Plastic Bags ที่ดึงห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ทั่วประเทศยกเลิกให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วแก่ลูกค้า ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา และยังมีอีกหลายโครงการที่กำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ทำให้ปี 2564 จุดความร้อนทั่วประเทศลดลงกว่าร้อยละ 50 ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูธรรมชาติ
ล่าสุดในปี 2565 ทางกระทรวงฯ ยังได้เปิดแนวทางปฏิบัติให้เป็น ปีแห่งการปรับตัวและฟื้นฟู หรือ Adaptation and Rehabilitation Year Adapt & Rehab Year" โดยปรับตัวภายใต้นโยบาย "ทส. ยกกำลังเอ็กซ์" ภายใต้วิถีใหม่ ยุค New Normal 5 มิติ คือ
1.บุคลากรปรับตัว สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้เกิดกับประชาชน
2.ปรับสมรรถนะ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
3.ปรับการจัดการทำงานรูปแบบใหม่ รวดเร็ว คุ้มค่า โปร่งใส ลดขั้นตอน ลดความซ้ำซ้อน
4.ปรับการสื่อสาร สร้างความเข้าใจ
5. ปรับให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และสานสัมพันธ์ผู้ที่เกี่ยวข้องฟื้นฟู เพื่อการมุ่งเป้าหมายไปข้างหน้า ไร้ขีดจำกัด และไม่มีที่สิ้นสุด
โดยมี 2 เป้าหมายหลัก คือ 1. การสร้างเศรษฐกิจครัวเรือน สังคมมีสุข ชุมชนเข้มแข็ง อาทิ การจัดสรรที่ดินทำกิน การจัดตั้งป่าชุมชน การสร้างความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการจัดทำแผนแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
2. การมุ่งสู่เศรษฐกิจแบบใหม่ (BCG Model) และสังคมคาร์บอนต่ำ ได้แก่ การส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) การพัฒนาระบบ Digital Platform เพื่อส่งต่อถึงคนในรุ่นอนาคตและเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืนให้กับชุมชน
เห็นได้ว่านโยบายที่จะปรับเปลี่ยนการทำงาน ให้สอดรับระหว่างคนรุ่นเก่า กับคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่นายวราวุธ ศิลปอาชา ตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง การลงพื้นที่จริง ทำจริง แก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่การพูดลอยๆ แม้จะไม่พบเห็นตามหน้าสื่อมากนัก แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ก็ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของรัฐมนตรี ที่จะทำให้คนจดจำในเรื่องผลงานไป อีกนาน ไม่ต้องมองเรื่องไหนไกล แค่เรื่องน้ำมันรั่วในทะเลครั้งล่าสุด ก็เป็นรัฐมนตรีท่านนี้ ที่ลงพื้นที่เป็นกลุ่มแรก ๆ เพื่อแก้ปัญหาและชี้แจงกับสื่อมวลชน ทั้งที่เป็นเรื่องของหลายกระทรวงต้องรับผิดชอบร่วมกัน
การเป็น generation 2 ของตระกูลศิลปอาชา ในสนามการเมือง นั้นไม่ง่าย การแบกรับความหนักหน่วงของสิ่งที่ผู้เป็นพ่อได้ทำไว้เป็นแบบอย่าง ก็เป็นความท้าทายในตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ด้วยผลงานซึ่งเป็นที่ประจักษ์ และลงมือทำอย่างจริงจัง จะทำให้การผนึกกำลังเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อ หยุดทำลายโลกใบนี้ ก้าวสู่โลกที่ยั่งยืนก็ไม่ไกลเกินฝัน