ประชาสัมพันธ์

เดินหน้า "5ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" ฝ่าวิกฤตโควิด19

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กระทรวงเกษตรฯ."ร่วมมือ"จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพิ่มศักยภาพใหม่การส่งออกสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์และสมาร์ทแพ็กกิ้งยืดอายุผลไม้และสินค้าเกษตร"อลงกรณ์"ตั้งเป้าต้นปีหน้าเริ่มใช้นวัตกรรมใหม่ ผนึก"พาณิชย์"บุกตลาดจีนรัสเซียตะวันออกกลาง เอเซียกลางและยุโรป

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2564 นายอลงกรณ์ พลบุตรที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร 4.0และประธานคณะกรรมการบริหาร AIC(Agritech and Innovation Center)เปิดเผยวันนี้ว่า ตนและคณะจะประชุมกับศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและทีมวิจัยในวันพรุ่งนี้(5 พ.ค.)13.00 น. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นศูนย์AICที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยเฉพาะ 3โครงการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำการวิจัยและพัฒนาได้แก่

1.โครงการพัฒนาวัคซีนโควิดจากพืชโดยจะเริ่มผลิตวัคซีนโควิดได้ปลายปีนี้ 

2.โครงการพัฒนาการยืดอายุผลไม้ด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์

3.โครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยืดอายุและความสดของผัก ผลไม้และสินค้าเกษตร

4.โครงการเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมด้านอื่นๆเช่นโคนมและผลิตภัณฑ์นมเป็นต้น
เดินหน้า "5ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" ฝ่าวิกฤตโควิด19

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการพัฒนาการยืดอายุผลไม้ด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์และโครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์(Smart Packing)ยืดอายุและความสดของผัก ผลไม้และสินค้าเกษตรจะนนวัตกรรมใหม่นี้มาใช้กับแผนโลจิสติกส์เกษตรทางเลือกใหม่ในยุคโควิดเช่นการขนส่งระบบรางจากไทยผ่านจีนไปทุกมณฑลของจีน เกาหลี ภูมิภาคเอเชียกลางภูมิภาคตะวันออกกลาง รัสเซีย สแกนดิเนเวีย ยุโรปและอังกฤษภายใต้ขบวนรถไฟอีต้าอีลู่(เส้นทางสายไหม)บนความร่วมมือระหว่างไทย-จีน-ลาว-เวียดนามเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย
 

มาตรการปัองกันการแพร่ระบาดโควิด19ของแต่ละประเทศทำให้ต้นทุนการขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นทั้งทางบกทางต้ำและและใช้เวลานานขึ้นในการข้ามแดนตั้งแต่ปี2563จนถึงวันนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ.จึงสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาและวางแนวทางโลจิสติกส์ทางเลือกใหม่ๆภายใต้”5ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” และประกอบกับเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ เราจึงเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในการขนส่งสินค้าทางรางด้วยเส้นทางนี้ โดยใช้โลจิสติกส์ฮับที่อุดรธานีและหนองคาย ตั้งเป้าเริ่มคิดออฟต้นปีหน้า อีกเส้นทางคือการขนส่งระบบรางผ่านด่านผิงเสียงบริเวณพรมแดนเวียดนามกับเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วงของจีน เราหวังว่าถ้าสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆยืดอายุผลไม้สดเช่น ทุเรียน มะม่วง มังคุด ลำไย เงาะ ลองกอง ขนุน ผัก สมุนไพร เป็นต้นจะทำให้มีทางเลือกในการขนส่งที่ถูกลงมีเวลาแน่นอนจากต้นทางถึงปลายทางและใช้เวลาน้อยลงแต่มีช่วงเวลาขายยาวขึ้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีกที่เป็นลูกค้าของไทยทั้งขายแบบออนไลน์และออฟไลน์และนี่คือการสร้างศักยภาพใหม่ในการส่งออกของเรา

เดินหน้า "5ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" ฝ่าวิกฤตโควิด19

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ