
พอร์ตการลงทุน คืออะไร ? ก้าวสำคัญสำหรับมือใหม่ 2025
ในยุคที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน หลาย ๆ คนเริ่มสนใจการลงทุนเพิ่มเติม นอกเหนือจากอาศัยรายได้หลักจากค่าจ้าง เงินเดือน หรือธุรกิจส่วนตัว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพอร์ตการลงทุนคืออะไร และรูปแบบที่คุณใช้อยู่เหมาะสมกับคุณหรือไม่ ? ลองหาคำตอบจากเนื้อหาด้านล่างนี้กันครับ
พอร์ตการลงทุนคืออะไร
หากคุณเคยอ่านรีวิวการลงทุนจากเว็บไซต์ทางการเงินอย่างเว็บไซต์ Compareforexbrokers คุณน่าจะพอทราบไอเดียในการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงแล้ว แต่บทความนี้ ผมจะเจาะลึกเฉพาะความหมายและตัวอย่างพอร์ตการลงทุนทั่วไป เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมของการลงทุนเพิ่มขึ้น
โดย พอร์ตการลงทุน (Investment Portfolio) เปรียบได้กับตะกร้าใบใหญ่ ที่คุณสามารถเอาสินทรัพย์หลาย ๆ ประเภทมาใส่ไว้รวมกัน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการนั่นเอง
เงินเก็บ กับ พอร์ตการลงทุน ต่างกันหรือไม่
ต่างกันอย่างแน่นอนครับ เพราะเงินเก็บ คือ เงินที่เราเก็บสะสมเพื่อรักษาเงินต้นและดึงมาใช้ยามจำเป็น แต่ไม่ได้สร้างผลตอบแทนหรืออาจจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำ จึงมักจะอยู่ในรูปแบบ บัญชีออมทรัพย์/ฝากประจำ
ในขณะที่ การย้ายเงินมาสร้างพอร์ตการลงทุน นั่นมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ต้องการในระยะยาว ด้วยความเสี่ยงที่มากกว่าการฝากเงินทั่วไป โดยกระจายความเสี่ยงออกไปในหลายสินทรัพย์ เช่น พอร์ตหุ้น, กองทุน หรือ ทองคำ เป็นต้น
ก้าวสำคัญในการเริ่มต้นกับพอร์ตการลงทุน
ในการออกแบบพอร์ตการลงทุนของคุณ สิ่งแรกที่ควรคำนึงคือ เป้าหมายทางการเงินของคุณคืออะไร ? บางคนต้องการเงินเพื่อเกษียณ ในขณะที่บางคนต้องการรายได้เพิ่มเติม เพราะเป้าหมายแต่ละแบบจะเป็นตัวชี้วัดอีกหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาการลงทุน จำนวนเงินลงทุน หรือความเสี่ยงที่รับได้ เป็นต้น
ลองดูตัวอย่างด้านล่าง สำหรับประภทของสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงในแต่ละระดับ
จัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ
หลังจากคุณกำหนดเป้าหมายการลงทุนและสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุนได้แล้ว ขั้นถัดไปที่คุณต้องทำคือการจัดสัดส่วนการจัดพอร์ต (Portfolio Allocation) หรือพูดง่าย ๆ มันคือการกำหนดว่าสินทรัพย์แต่ละประเภทจะมีสัดส่วนเท่าใด ในเงินลุงทุนจำนวน 100% ของพอร์ตโฟลิโอของคุณ ซึ่งผมขอยกตัวอย่างแบบนี้ครับ
ในภาพข้างต้น คุณจะเห็นว่ามือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ควรถือครองสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงอย่าง ทองคำ เป็นหลัก ในขณะที่ยังสามารถลงทุนในหุ้นได้บ้าง ซึ่งแตกต่างจากคนในวัยทำงานที่มีเงินเก็บพอสมควร พวกเขาจะมีความสามารถในการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้ เพื่อผลกำไรที่อาจจะมากขึ้น
แต่ในผู้ที่วางแผนเพื่อเกษียณ กลุ่มนี้อาจไม่ต้องการความเสี่ยงสูงเช่นหุ้น แต่จะเน้นไปที่สินทรัพย์ที่สร้างผลตอบตอบแทนต่อเนื่องด้วยความเสี่ยงต่ำ-ปานกลาง อย่างเช่น พันธบัตรหรือกองทุนเสียมากกว่า
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพอร์ตการลงทุนนี้มาถูกทางแล้ว
ในการลงทุนทุกประเภท คุณจำเป็นต้องตรวจสอบและประเมิณผลการลงทุนอยู่เสมอ อย่างน้อยก็ปีละครั้ง เพื่อปรับพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์และเป้าหมายการลงทุนของคุณ ซึ่งสิ่งที่คุณควรพิจารณา ได้แก่
- พอร์ตมีกำไรจริง? หรือแค่ยังไม่ขาดทุน
- วางแผนกระจายความเสี่ยงดีพอหรือยัง
- มีสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อหรือไม่
- มีเงินสำรองฉุกเฉินแยกไว้หรือยัง
ตัวอย่างข้อผิดพลาดที่อาจทำให้พอร์ตของคุณไม่เวิร์ค
ถ้าคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ นี่คือสิ่งที่ควรระวังในการจัดพอร์ตการลงทุนของคุณ
1.ลงทุนตามกระแส
การแห่ไปลงทุนตามคนอื่นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป การลงทุนที่ดีต้องมีการศึกษาและทำความเข้าใจด้วยตนเองเสียก่อน ซึ่งคุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับกับการลงทุนได้จากหลายแห่ง รวมทั้ง เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น คุณไปลอกพอร์ตของคนที่กำหนดระยะเวลาการลงทุนไว้ 3-5 ปี ซึ่งเขาอาจใช้พอร์ตแบบผสมระหว่างหุ้นและตราสารหนี้เป็นหลัก ในขณะที่คุณอาจไม่สามารถรับความเสี่ยงในระดับนั้นได้ พอเริ่มขาดทุน 10–15% ก็ขายทิ้ง ทำให้ขาดทุนจริงในที่สุด
2.ทุ่มเงินทั้งหมดในสินทรัพย์เดียว
หัวใจหลักที่ในการจัดสรรพอร์ตการลงทุนคือ การกระจายความเสี่ยง ทำให้พอร์ตไม่ติดลบแม้จะมีสินทรัพย์บางตัวไม่ทำกำไรก็ตาม แต่หากคุณทุ่มเงินทั้งหมดไปที่สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งแล้วราคาร่วง ทั้งพอร์ตของคุณก็จะไม่มีตัวพยุงขึ้น ทำให้ติดลบทั้งพอร์ตจนอาจจะหมดตัวได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ได้
3.ขาดเครื่องมือควบคุมความเสี่ยงและแผนสำรอง
เป็นเรื่องที่สำคัญในการกำหนดเครื่องมือจัดการความเสี่ยงและแผนสำรอง หากเกิดการขาดทุน เพราะการลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอและอาจไม่เป็นอย่างที่หวัง ซึ่งสิ่งที่คุณควรทำ ได้แก่ การเก็บเงินสำรอง 3–6 เดือนของรายจ่ายก่อนลงทุน หรือตั้งกฎสำหรับการซื้อขาย เช่น ตั้งกฎ หากขาดทุนเกิน 15% จะขายเพื่อตัดความสูญเสีย แต่หากราคาตลาดตกเกิน 20% จะถือยาวหรือซื้อเพิ่ม เป็นต้น
สรุป พอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม เริ่มได้ด้วยตัวคุณเอง
สุดท้ายนี้ ผมอยากให้คุณลองทบทวนตัวเองก่อนว่ามีเป้าหมายในการลงทุนอย่างไร มีความพร้อมในการลงทุนและแบกรับความเสี่ยงแค่ไหนก่อนเริ่มลงมือครับ การจัดพอร์ตการลงทุนและการเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้คุณปรับตัวได้ แม้ในสถานการณ์ที่ตลาดไม่เป็นใจ และช่วยให้คุณสามารถยัดยืนในโลกของการลงทุนได้อย่างยั่งยืน
คำเตือน
บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน เป็นเพียงข้อมูลโดยทั่วไปเท่านั้น คุณควรหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินสำหรับข้อมูลในเชิงลึก อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และคุณไม่ควรเสี่ยงเกินจำนวนที่สามารถรับได้



