เปลี่ยนหุ่นใหม่ฟิตกว่าเดิม! เคล็ด (ไม่) ลับ กินอย่างไรให้ผอมแบบยั่งยืน ไม่ต้องอด! | คมชัดลึก

กินมื้อเช้าที่มีโปรตีนสูง

หลายคนชอบอดมื้อเช้า เพราะบางทีก็รีบจนไม่มีเวลากิน หรือบางคนก็กลัวแคลอรีเกิน แต่มื้อเช้านั้นสำคัญกว่าที่คิด แถมยังเป็นเคล็ดกับการกินอย่างไร ให้ผอมลงด้วย! โดยทริกก็คือ ให้เราเริ่มกินมื้อเช้าที่มีโปรตีนสูง เช่น เน้นกิน ไข่ ปลา หรือเนื้อไม่ติดมัน เพราะโปรตีน เป็นสารอาหารสำคัญและจำเป็น ช่วยให้เราอิ่มท้องนาน เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ช่วยลดความอยากอาหารในมื้อถัดไป ทำให้ไม่หิวจุกจิก และกินของหวาน หรือน้ำตาลเกินความจำเป็น อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อและรักษามวลกล้ามเนื้อเวลาเราออกกำลังกายด้วย ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการลดน้ำหนักที่ยั่งยืน ไม่ต้องทรมานตัวเองด้วยการอดอาหารอีกต่อไป

เลือกผักและผลไม้ที่หวานน้อย

กินอย่างไร ให้ผอม? บางคนอาจมุ่งตรงไปที่ผักและผลไม้ทันที เพราะเชื่อว่าเป็นสารอาหารที่ดี มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่จะกินปริมาณเท่าไหร่ก็ได้ ชนิดไหนก็ได้ การจะผอมแบบยั่งยืน สุขภาพดีมาจากภายในนั้น ควรเลือกกินผักและผลไม้ที่หวานน้อยเป็นหลัก เพราะอาหารกลุ่มนี้มีใยอาหารสูง ช่วยเพิ่มความอิ่มนาน และช่วยระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นโดยไม่เพิ่มพลังงานมากเกินไป การเลือกผักใบเขียวสด หรือผักอย่างผักกาดหอม หน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี กะหล่ำดาว กะหล่ำปลี และมะเขือเทศ ผลไม้เช่นฝรั่ง แอปเปิลเขียว เกรปฟรุต อะโวคาโด มะละกอ ส้ม หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี จะช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่ทำให้อ้วนได้ ทั้งยังให้วิตามินและสารแอนติออกซิแดนท์สูง ช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีโดยรวมและลดน้ำหนักได้อีกด้วย!

ชอบกินหลายมื้อ แนะนำให้แบ่งกินในปริมาณทีละน้อยๆ

อีกทริกที่เหมาะกับคนชอบกินจุกจิก ชอบกินวันละหลายๆ มื้อ เราแนะนำให้แบ่งกินในปริมาณทีละน้อยๆ ลดขนาด ลกปริมาณแคลอรีต่อมื้อลง เช่น จากเดิมปกติกิน 3 มื้อ มื้อละ 500-600 แคลอรี อาจเปลี่ยนเป็น 5 มื้อแต่มีปริมาณ 180-300 แคลอรี เน้นอาหารดี มีประโยชน์เป็นหลัก โดยวิธีนี้ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่สะสมเป็นไขมันง่าย และลดความหิวระหว่างวันได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องทนหิวหรือกินมากจนเกินไป แถมยังป้องกันไม่ให้เรากินเยอะเกินไปในมื้อหลัก นอกจากนี้ การกินอาหารมื้อเล็กแบบเน้นโปรตีนและไฟเบอร์สูงจะช่วยให้อิ่มนาน ร่างกายจึงไม่ต้องการพลังงานเพิ่มเยอะนั่นเอง

ดื่มน้ำเปล่าก่อนมื้ออาหาร

กินอย่างไร ให้ผอมเกี่ยวข้องอย่างไรกับการการดื่มน้ำเปล่า? อย่ามองข้ามกับทริกเล็กๆ นี้ เพราะหากดื่มน้ำเปล่าก่อนมื้ออาหารในปริมาณเหมาะสม น้ำจะช่วยเติมเต็มกระเพาะอาหารทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น จึงกินได้อาหารได้น้อยลง นอกจากนี้ การดื่มน้ำประมาณ 1 - 2 แก้ว หรือ 500 มิลลิลิตร ก่อนกินอาหาร 30 นาที ยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญเพิ่มขึ้นถึง 30% ภายใน 10 นาทีหลังดื่มด้วย และน้ำเย็นจะช่วยเผาผลาญได้ดีกว่าน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อระบบลำไส้และการไหลเวียนเลือด ให้ผิวเราใส เปล่งปลั่งมากขึ้นด้วย แล้วไม่ใช่แค่เน้นดื่มน้ำเปล่าก่อนมื้ออาหารนะ หากอยากสุขภาพดีจากภายใน ควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการร่างกายด้วย เช่น 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อให้ระบบในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล

กินช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด

การกินช้าๆ และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก็มีส่วนช่วยให้ผอมได้ เพราะสมองมีเวลาในการรับรู้ความอิ่มเต็มที่ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และกินอาหารในปริมาณน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะอาหารถูกย่อยได้ดีตั้งแต่ในปาก จากน้ำลายที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดภาระในกระเพาะและลำไส้ ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การกินช้าๆ ยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการกิน ทำให้เพลิดเพลินและลดความเครียด ซึ่งส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนักและสุขภาพโดยรวม บอกเลยว่า เพิ่มเวลาการกินอีกนิด ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาทีต่อมื้อ พร้อมกับเคี้ยวอาหารประมาณ 30 ครั้งต่อคำ จะช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่ต้องอดอาหารเลย

การ “กินอย่างไร ให้ผอม” ไม่ได้หมายถึงการอดอาหารหรือทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร แต่คือการเลือกสิ่งที่กินให้เหมาะสมกับร่างกาย และสร้างสมดุลในชีวิตประจำวัน การกินแบบนี้ไม่เพียงช่วยลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่าย และอาจกลายเป็นไลฟ์สไตล์เฮลตี้ที่นอกจากจะทำให้เราฟิต หุ่นเฟิร์ม ร่างกายยังแข็งแรงมากขึ้นด้วยนะ! ไม่ว่าจะเริ่มต้นมื้อเช้าด้วยโปรตีนสูง เลือกกินโปรตีนพืช หรือเนื้อสัตว์ที่ให้พลังงานอย่างเหมาะสม กินผักและผลไม้น้ำตาลต่ำ แบ่งกินมื้อเล็กๆ ดื่มน้ำเปล่าก่อนมื้ออาหาร หรือจะปรับการกินให้ช้าลง มาเริ่มต้นวัน นี้เพื่อหุ่นฟิตและสุขภาพดีแบบยั่งยืนกัน