เปิดใจให้กว้างแล้วลองมาเที่ยว "เขื่อน" และ"โรงไฟฟ้า" ของ กฟผ. สักครั้ง นอกจากจะได้ท่องเที่ยวอย่างมีความสุข สนุก สะอาดและปลอดภัยแล้ว เราทุกคนยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย
หลังจากอดทน อดกลั้นอยู่บ้านมาเป็นแรมปี ตอนนี้เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงมองหาสถานที่ท่องเที่ยว บางคนชอบทะเล บางคนชอบภูเขา แต่ถ้าอยากหายเหงา มาเที่ยว “เขื่อน” กับเราก็ได้น้า... คนส่วนใหญ่คงคิดว่าเขื่อนเป็นเพียงแหล่งที่ใช้ในการกักเก็บน้้า แต่จริง ๆ แล้วเขื่อนยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ด้วยวิวทิวทัศน์ และบรรยากาศอันสวยงาม ซึ่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้พัฒนาพื้นที่ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบเขื่อน ในความดูแล ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ครบสูตรทั้งที่พัก ร้านอาหาร สวนสาธารณะสวย ๆ และจุดเช็คอิน ใหม่ ๆ ที่แสนจะดึงดูดใจไม่น้อย
ใครอยากเที่ยวแต่ยังกลัวโควิด ขอให้สบายใจได้ เพราะ กฟผ. ให้ความส้าคัญด้านสุขอนามัย และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอการันตีเขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ด้วยมาตราฐาน SHA Plus สัญลักษณ์ที่เป็นตัวช่วยนักท่องเที่ยวในการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ (New Normal) ท้าให้การท่องเที่ยวเขื่อนสนุก ปลอดภัยไม่แพ้เที่ยวทะเล เที่ยวภูเขาแน่นอน
SHA มาตรฐานการันตีท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal)
SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) สัญลักษณ์สีฟ้าสดใสเป็นที่คุ้นตาของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน เป็นเครื่องหมายที่มอบให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้ด้าเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสินค้า และบริการ รวมทั้งด้านสุขอนามัย ซึ่งเป็นปัจจัยส้าคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 SHA เป็นโครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานภาครัฐ เอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้ สถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เตรียมความพร้อมและด้าเนินการปรับปรุงสถานประกอบการ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) แถมยังมีการยกระดับมาตรฐาน SHA ไปสู่ SHA Plus ที่มอบให้กับ สถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐาน SHA และมีพนักงานได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่น้อยกว่า 70%
กฟผ. ก็ไม่ยอมตกเทรนด์ได้เข้าร่วมโครงการฯ จนได้รับตราสัญลักษณ์ SHA Plus ทั้ง 9 เขื่อน 1 โรงไฟฟ้ากระจายอยู่ทุกภาค เหนือ ใต้ ออก ตก การผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA ยังถือว่าได้ผ่านมาตรฐานตามข้อก้าหนด Safe Travel ภายใต้ World Travel & Tourism Council (WTTC) มาตรฐานสากลที่ทั่วโลกยอมรับ นักท่องเที่ยวจึงมั่นใจได้ว่าเที่ยวเขื่อน โรงไฟฟ้า กฟผ. สนุก ปลอดภัย ถ้าอยากรู้ว่าเขื่อน โรงไฟฟ้า ของ กฟผ. ที่ได้รับการันตีมาตรฐาน “SHA Plus” มีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเล้ยย…
แอ่วเหนือ ต๊ะต่อนยอน
ขึ้นเหนือไปผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ กับเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย “เขื่อนสิริกิติ์”
จ.อุตรดิตถ์ เราจะได้เห็นวิวล้าน้าน่านและดอกไม้นานาพันธุ์ มีจุดเช็คอินภายในเขื่อนสิริกิติ์ถึง 11 จุด ไม่ว่าจะเป็นมหัศจรรย์ธารสองสี Unseen ของประเทศไทย หนึ่งปีมีครั้งเดียว ซุ้มอุโมงค์ไม้ไผ้กว่า 100 ต้น งานประติมากรรมทรงคุณค่า ณ สวนสุมาลัย และสะพานแขวนเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถที่สวยงาม ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นี่ก็ถือว่าเด็ดอย่าบอกใคร โดยเฉพาะมะม่วงหิมพานต์ที่ดีที่สุดของประเทศไทย
ออนซอน เลาะอีสาน
จากเหนือ เลาะมาทางอีสาน ภูมิภาคที่มีเขื่อนของ กฟผ. ตั้งอยู่มากที่สุด โดยมีเขื่อน และโรงไฟฟ้าที่เป็น
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับสัญลักษณ์ SHA Plus ถึง 4 ที่ด้วยกัน เราไปกันที่แรกกับ “เขื่อนจุฬาภรณ์” จ.ชัยภูมิ ดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย มีอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายตลอดปี เส้นทางขึ้นมายังจุดชมวิวบนสันเขื่อนเต็มไปด้วยแนวต้นสนยาวตลอดเส้นทาง จุดชมวิวศาลาหลุบควน สามารถเห็นทิวทัศน์ไกลไปถึงภูกระดึงและภูหลวงในจังหวัดเลย
“เขื่อนอุบลรัตน์” จ.ขอนแก่น เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้้าแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีขนาดใหญ่โอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ ที่นี่เราจะได้พบกับประติมากรรมไดโนเสาร์สูงตระหง่านกว่า 12 เมตร ณ สวนเขื่อน อุบลรัตน์ ชวนกอดต้นยางนาอายุนับร้อยปีรับพลังธรรมชาติ แถมยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมพื้นบ้านสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ ที่ท้าให้เราต้องมนต์หลงเสน่ห์ในเฮือนอีสาน สถานที่ที่มีคู่รักจ้านวนมากแวะมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งเสมอ เหนือเขื่อนยังถูกเรียกว่า บางแสน 2 มีกิจกรรมทางน้้าต้อนรับท่องเที่ยวมากมาย
เลาะต่อไปที่ “เขื่อนสิรินธร” จ.อุบลราชธานี เขื่อนที่ฮอตฮิตที่สุดในช่วงนี้ ด้วยโซลาร์เซลล์ลอยน้้าแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ที่เราจะได้เห็นภาพมุมสูงของความอลังการของแผงโซลาร์เซลล์นับแสนแผงและชมวิวทิวทัศน์จาก Nature Walkway ทางเดินชมธรรมชาติที่พื้นเป็นกระจกใส สวยและเสียวแค่ไหนต้องไปลอง พบกับมหัศจรรย์ฟังช้างเล่นดนตรีไทยในสวนสิรินธร ประติมากรรมรูปหล่อช้าง 3 เชือก สัญลักษณ์ส้าคัญของที่นี่ ชูงวงพ่นน้้าอย่างร่าเริงท่ามกลางน้้าพุ ใกล้เขื่อนเราจะต้องมนต์เมื่อยามพลบค่้า ที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว เมื่อตะวันลับแสงไปแล้ว ต้นกัลปพฤกษ์ที่ประดับด้วยโมเสกจะเปล่งแสงเรืองรอง สะกดผู้มาเยือนทุกคน
และที่สุดท้าย “โรงไฟฟ้าลาตะคองชลภาวัฒนา” จ.นครราชสีมา Unseen กับโรงไฟฟ้าใต้พิภพแบบ สูบกลับแห่งเดียวของไทย ด้าดิ่งผ่านอุโมงค์ใต้ดินลึก 350 เมตร และเหินทะยานสู่เมืองลอยฟ้าเยี่ยมชมบริเวณ อ่างพักน้้าตอนบนของโรงไฟฟ้าล้าตะคองชลภาวัฒนาซึ่งเป็นจุด Unseen อีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาด เราจะได้สัมผัสความตระการตาของทุ่งกังหันลมของ กฟผ. จ้านวน 12 ต้น ในวิวพาโนรามา 360 องศา แวะชมวิวหลักล้าน ณ จุด Geo View Point ของโคราชจีโอพาร์ค พร้อมกิจกรรมน้าเที่ยวชมวิวอุทยานธรณีโคราช (Khorat Geopark) และมหัศจรรย์ชมวิวเขาเควสตา และผายายเที่ยง รวมถึงกิจกรรมปลูกป่าลอยฟ้า และปลูกป่าลงดินบนหลังคาโคราช
ตระการตา ตะวันตก
จากอีสาน เลี้ยวไปทางทิศตะวันตก จะได้พบกับ 3 เขื่อนใหญ่ของ กฟผ. ที่ทิวทัศน์สวยงามไม่ยอมแพ้กัน
ชวนมาสูดกลิ่นอายธรรมชาติพร้อมตามรอยพ่อแห่งแผ่นดิน ณ เขื่อนคอนกรีตโค้งแห่งเดียวของประเทศไทย และเอเชียอาคเนย์ “เขื่อนภูมิพล” จ.ตาก ความพิเศษสุดภายในเขื่อน คือ อาคารเรือนไทยเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และแลนด์มาร์กส้าคัญบนสันเขื่อนคอนกรีตรูปโค้ง ด้วยทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของเขื่อน และสะพานปิงพิพรรธ์ พาดผ่านล้าน้าปิง
ไปต่อกันที่ จ.กาญจนบุรี ที่ตั้งของเขื่อนส้าคัญ 2 เขื่อน ได้แก่ “เขื่อนวชิราลงกรณ” หรือ เขื่อนเขาแหลมเราจะได้สัมผัสทะเลหมอกเหนืออ่างเก็บน้า พร้อมชมวิวแบบพาโนรามาของทะเลสาบน้าจืดแห่งตะวันตกที่ล้อมรอบด้วยป่าสีเขียวขจี เพลิดเพลินกับทุ่งดอกไม้ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนบานสะพรั่งต้อนรับนักท่องเที่ยว และไฮไลท์ส้าคัญคือ เขาแหลม Sky Walk จุดชมวิวเขื่อนวชิราลงกรณที่ทางเดินเป็นกระจกใส และม่านน้าตกอันสวยงาม แถมจะได้สนุกและตื่นเต้นเหมือนย้อนวันวานกับสไลเดอร์เนินหญ้าสุดมันส์
ขับรถเพลิน ๆ มาอีกนิด เราจะได้พบกับ “เขื่อนศรีนครินทร์” ที่นี่ครบทั้งวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ท่องกาลเวลา ณ สวนเวลาร้าลึก ศึกษาธรรมชาติและวิถีชุมชนที่น่าค้นหา ทั้งเดินป่า ดูผึ้งกล้อง ล่องแพเปียก หรือใครอยากจะเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติก็สามารถแวะเวียนไปที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. (ราชานุรักษ์) ที่นี่โด่งดังเรื่องงานเทศกาลแห่งความรักเพื่อพิสูจน์ว่า รักแท้...ซื่อตรง มั่นคงดั่งตัวเขื่อน ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีชื่อเสียงยังเป็น “กล้วยขันหมาก” กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ ว่ากันว่าใครได้ลิ้มรสจะท้าให้มีความรักยั่งยืนตลอดกาล
ล่องใต้ บายใจ
จากตะวันตกมุ่งสู่ทางใต้ มาสัมผัสมหัศจรรย์กุ้ยหลินเมืองไทย ณ “เขื่อนรัชชประภา” จ.สุราษฎร์ธานี หรือที่รู้จักในชื่อเขื่อนเชี่ยวหลาน ที่ที่เราต้องมาล่องเรือชมความงามของเทือกเขาหินปูน หรือ เขาสามเกลอ ขุนเขากลางพื้นน้าสีเขียวมรกตที่ใสและสวยงาม หรือจะนอนแพ ดูดาว เล่นน้าเขื่อน สัมผัสทะเลหมอกยามเช้า เติมพลังให้กับร่างกายและจิตใจได้อย่างดี หรือจะเลือกเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสกก็สวยและสนุกไม่แพ้กัน แถม Unseen อีกจุดคือ สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์ ที่ที่เราจะมองเห็นภูเขารูปหัวใจที่สวยงามและแปลกตา
จนมาถึงเขื่อนที่อยู่ใต้สุดของ กฟผ. “เขื่อนบางลาง” จ.ยะลา ซึ่งโดดเด่นท่ามกลางการโอบล้อมของเทือกเขาสลับซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาสันกาลาคีรี ที่ตั้งตระหง่านโอบล้อมทะเลสาบธารโต ผืนน้ากว้างสีเขียวใสราวกระจก เหมาะกับการมาพักผ่อน Slow Life กิจกรรมไฮไลท์ล่องเรือสัมผัสป่าลึกฮาลาบาลา ชมเกาะแก่งเหนือเขื่อนบางลาง ที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้แปลกตาหาดูได้ยาก ที่นี่เราจะได้เรียนรู้วิถีของชุมชนไทยและมุสลิมที่ผสมผสานไปกับธรรมชาติที่สวยงาม
นอกจากมาตรฐาน SHA Plus ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวเขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. แล้ว กฟผ. ยังได้เข้าร่วมโครงการ “Workation Thailand” ท้างานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ ของ ททท. มอบส่วนลดที่พัก 50% ส้าหรับ 7 เขื่อน 1 โรงไฟฟ้าของ กฟผ. ได้แก่ เขื่อนภูมิพลเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนสิรินธร เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนจุฬาภรณ์ และโรงไฟฟ้าแม่เมาะเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจให้กับองค์กรและประชาชนได้เปลี่ยนบรรยากาศสถานที่ท้างาน สัมมนาและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะได้ท่องเที่ยวอย่างมีความสุข สนุก สะอาดและปลอดภัยแล้ว เราทุกคนยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย เปิดใจให้กว้างแล้วลองมาเที่ยวเขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. สักครั้ง แล้วคุณจะหลงรัก...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง