ข่าว

เกมแซะเก้าอี้

เกมแซะเก้าอี้

08 ธ.ค. 2552

จนถึงนาทีนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากปากของผู้จัดการรัฐบาล สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี

สิ่งที่เกิดขึ้นยามนี้ จึงเป็นเพียงได้แค่กระแสข่าวลือและการปล่อยข่าว เพียงเพื่อหวัง "แซะเก้าอี้" กันเองของกลุ่มการเมืองในรัฐบาลผสม

 ยิ่งในช่วงใกล้ครบรอบขวบปีสัญญาใจที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เคยลั่นวาจาเอาไว้ว่า 1 ปี เตรียมตรวจการบ้านเป็นรายกระทรวง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 23 ธันวาคมนี้

 เหล่าบรรดา ส.ส.และแกนนำกลุ่มการเมืองที่ตกขบวนจาก "ครม.มาร์ค 1" ต่างใจจดใจจ่อรอคอยให้ถึงวันปรับ ครม.เพื่อขึ้นเสียบเก้าอี้ให้สมใจ

 เพราะนับแต่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศ เกิด "ศึกเกาเหลา" ขึ้นหลายกระทรวง แถมยังมีข้อครหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นแทบรายกระทรวง

 จังหวะนี้แหละจึงเป็นโอกาสของเหล่าบรรดากลุ่มการเมืองที่เคยอกหัก หรือรัฐมนตรีแถว 2 จะได้ขึ้นแท่นโชว์ฝีไม้ลายมือ

 โฟกัสกันให้เห็นชัดๆ ไล่ตั้งแต่ความบาดหมางใจกันระหว่างประชาธิปัตย์ กับ ภูมิใจไทย เรื่องการบริหารงบประมาณที่มี กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลสำนักงบประมาณ ที่ขวางทางพรรคร่วม

 จนเป็นเหตุให้ ภูมิใจไทย ผนึกกำลังกับ ชาติไทยพัฒนา เขี่ย "กอร์ปศักดิ์" พ้นเก้าอี้ ด้วยการโยกไปเป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ที่ประกาศไขก๊อก

 พร้อมกับดัน ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน ขึ้นรองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ แต่จนถึงขณะนี้ เจ้าตัวยังไม่มีโอกาสได้เข้ามานั่งเก้าอี้เสนาบดี เพราะยังติดปัญหาด้านเทคนิค

 นั่นเป็นเพราะว่า กระทรวงที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจที่เป็นหัวใจหลักของรัฐบาลในการเข้ามากู้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศยังไม่สามารถทำงานให้เป็นทีมเดียวกันได้

 โดยเฉพาะกระทรวงเจ้าปัญหาอย่างกระทรวงพาณิชย์ ในโควตาของภูมิใจไทย ที่มีปัญหาระหว่าง พรทิวา นาคาศัย เจ้ากระทรวง กับ "กอร์ปศักดิ์"

 ล่าสุดยังเกิดศึกเกาเหลาการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวง แถมยังเตรียมล้างไพ่ทูตพาณิชย์ หลังไม่สนองงานการส่งออก กับ อลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วย

 จนเกิดกระแสข่าวภูมิใจไทยกดดันปรับ "เสี่ยจ้อน" ให้พ้นทาง

 นอกจากนี้ยังเกิดศึกข้ามกระทรวงระหว่าง กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กับ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีที

 ในโครงการเปิดให้บริการโทรศัพท์ระบบ 3 จี ที่มีมูลค่ามากมายมหาศาล หลังจาก "กรณ์" เตรียมเข้าไปล้างไพ่ระบบสัมปทานใหม่ รวมถึงการโอนลูกค้าไปสู่ระบบ 3 จี ซึ่งขวางการทำงานเจ้ากระทรวงไอซีที

 จนทำให้เกิดกระแสเจ้ากระทรวงไอซีที แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน เตรียมถอดใจขอย้ายไปทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ โดยแลกเก้าอี้กับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาฯ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

 ข้ามมายังกระทรวงที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง อย่าง กระทรวงกลาโหม ไม่ต้องพูดถึง เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง "สุเทพ" กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กับกลุ่มสีน้ำเงินอมเขียว เรียกได้ว่าซี้ปึ้ก

 ใครจะมาเขย่าเก้าอี้นี้บอกได้คำเดียวว่า "เหนื่อยเปล่า"

 แต่ที่ถูกจับจ้องมากที่สุดคือ มหาดไทย เพราะแบ่งขั้วกันอย่างชัดเจนระหว่าง ภูมิใจไทย กับ ประชาธิปัตย์ ซึ่งต่างคนต่างทำงาน ขาดความเป็นเอกภาพ

 เกิดปัญหาเขม่นกันเองระหว่าง ชวรัตน์ ชาญวีรกูล มท.1 บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ มท.2 กับ ถาวร เสนเนียม มท.3 จากค่ายสะตอ

 จึงมีความพยายามที่จะเขี่ย "ถาวร" ออกจากเก้าอี้ เพื่อหาคนที่ทำงานเข้าขามาร่วมงาน

 เพราะในส่วนของภูมิใจไทยถือว่าลงตัวแล้ว หากปรับโควตาให้พรรคอื่นย่อมส่งผลกระทบต่อการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ในต้นปีหน้าแน่

 รัฐมนตรีแถว 2 ของพรรคประชาธิปัตย์จึงจ่อขยับ โดยชื่อชั้นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยามนี้คงหนีไม่พ้น เฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และรองหัวหน้าพรรค

 นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายตัวที่จ่อคิวขยับ ไล่ตั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของ วีระชัย วีระเมธีกุล ที่กลายเป็นรัฐมนตรีโลกลืม

 สอดรับกับกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่า ถึงคิวของ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ที่จะเข้ามารับช่วงต่อ เพื่อดูแลเรื่องกฎหมาย

 ส่วนอีกกระแสมีความเป็นไปได้ที่ "นิพิฏฐ์" จะขึ้นแท่นเป็น รมว.ยุติธรรม แทน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ผลงานไม่เข้าตาผู้ใหญ่ภายในพรรค

 ส่วนอีกเก้าอี้ที่ถูกแซะคือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสื่อ ของ "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย"

 เพราะคนในพรรคมองว่าทำงานไร้ประสิทธิภาพ ขาดการทำงานในเชิงรุก และไม่ทันกลเกมของ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่โหมใช้สื่อทุกรูปแบบโจมตีรัฐบาล

 ว่ากันว่าเก้าอี้ตัวนี้มีคนจ้องเสียบหลายคน ไม่ว่าจะเป็น องอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. ที่อกหักจากคราวที่แล้ว
 แต่งานนี้ต้องรอวัดใจ "หนุ่มมาร์ค" เพราะ "สาทิตย์" นั้นมีแบ็กดีทีเดียว !!!

 นอกจากนั้น การปรับ ครม.ครั้งนี้ยังมีตัวแปรจากภายนอก เมื่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมวางมือทางการเมืองและพร้อมสละเก้าอี้รองนายกฯ

 เพื่อให้ "ลูกยอด" ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย เข้ามาชิมลางเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง

 นั่นจึงเท่ากับว่า โควตารองนายกฯ ของชาติไทยพัฒนาต้องถูกเขย่า แต่งานนี้ "ป๋าเติ้ง" บรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคตัวจริง ไม่ยอมเสียเก้าอี้ง่ายๆ

 เตรียมเปิดทางให้น้องชาย ชุมพล ศิลปอาชา นั่งเก้าอี้รองนายกฯ ควบ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

 สิ่งที่ตามมาย่อมเกิดปัญหาขึ้นภายในพรรคชาติไทยพัฒนาอย่างแน่นอน เพราะต้องเกิดศึกขอเจรจาต่อรองแลกกระทรวงกับพรรคประชาธิปัตย์

 งานนี้ต้องรอวัดใจ "เทพประทาน" เท่านั้นว่าจะยอมเสียเก้าอี้โควตาพรรคหรือไม่ ??

 นอกจากนี้ยังมีผลพวงจากพิษไข้หุ้น กรณี นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ถือหุ้นเกิน 5% โควตาจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่มีโอกาสสูงที่จะถูกปรับออก เพื่อรักษามาตรฐานทางการเมือง

 ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ในเกม "เก้าอี้ดนตรี" ช่วงต้นปีหน้า !!

โต๊ะข่าวการเมือง สำนักข่าวเนชั่น