5 เส้นทาง ปั่นจักรยานต่างแดน

        การใช้เวลาว่างสัมผัสสายลม อากาศ แสงแดดอุ่นๆ ไปกับการปั่นจักรยาน ไม่ว่าจะเป็นการปั่นเลียบริมแม่น้ำอันเงียบสงบในชนบท หรือแล่นฉิวอย่างอิสระลงจากเนินเขา คงจะเป็นการเติมพลังให้กับจิตใจได้ไม่น้อย  ซึ่งจุดหมายยอดนิยมสำหรับการแบกจักรยานคู่ใจไปปั่นต่างแดนนั้น Booking.com ได้ทำการรวบรวม สถานที่อันสวยงาม เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันงดงามและขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ระหว่างทาง รองรับการปั่นจักยานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งแต่ละที่ได้รับการแนะนำจากผู้เดินทางหลายพันคนว่าต้องควรไปสักครั้งในชีวิต 

อัมสเตอร์ดัม

 

           เริ่มจาก อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองหลวงอันเป็นที่รู้กันดีว่า ทุกครัวเรือนจะต้องมีจักรยานอย่างน้อย 2 คัน ดังนั้นนักปั่นต่างแดนจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างแน่นอน โดยการปั่นจักรยานในอัมสเตอร์ดัมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ เนื่องจากความสะดวกสบายของเส้นทางสำหรับจักรยานที่เชื่อมต่อถึงกัน และภูมิประเทศที่ราบเรียบ มีร้านเช่าจักรยานในเมืองเพื่อปั่นไปตามลำคลองและสวนสาธารณะ  หากเลือกที่พักใกล้สถานี Amsterdam Central Station บริเวณรอบ ๆ จะรายล้อมไปด้วยคาเฟ่กับร้านอาหาร พร้อมพักร่างกายชมวิถีชีวิตคนเมืองใหญ่ หากอยากจะหลีกหนีจากความวุ่นวาย ลองมุ่งหน้าออกนอกเมืองไปยังจุดหมายที่ได้รับการแนะนำว่าเหมาะสำหรับการปั่นจักรยานอย่าง West-Terschelling, Schiermonnikoog, Nes และ Oost-Vlieland ก็ฟินเคลิ้มไปกับธรรมชาติสวยๆ 2 ข้างทางเช่นกัน 

โคเปนเฮเกน

 

วาเลนเซีย ประเทศสเปน

              ต่อมาคือ โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เป็นประเทศในอันดับต้น ๆ ที่เหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน ระหว่างที่ท่านปั่นจักรยานโฉบไปทั่วโคเปนเฮเกนอย่าลืมแวะที่สะพานสำหรับจักรยานซึ่งมีชื่อเสียงอย่าง Cykleslangen หรือสะพาน Cycle Snake ข้างบนนั้นคุณจะได้ปั่นจักรยานอย่างอิสระ ไปปะปนกับรถยนต์และคนเดินด้านล่าง พร้อมชมวิวแม่น้ำตึกรามบ้านช่อง สูดโอโซนได้เต็มที่  ถัดมาที่ วาเลนเซีย ประเทศสเปน  เป็นเมืองขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ซึ่งมีเส้นทางจักรยานทอดยาวกว่า 80 กิโลเมตร และนี่คือเหตุผลที่จุดหมายแห่งนี้สามารถดึงดูดผู้หลงใหลการปั่นจักรยานให้มาเยือน นอกจากนี้วาเลนเซียยังแตกต่างจากจุดหมายอื่นในยุโรปที่เราได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสภาพอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนตลอดทั้งปี ทำให้เมืองนี้อบอุ่นด้วยแสงอาทิตย์ในบรรยากศเมืองเก่าสมัยยุคกลาง ที่พักส่วนมากจะมีระเบียงอาบแดดชิลๆ พร้อมการตกแต่งสุดแนวในธีมจักรยาน และบริการจักรยานให้เช่าขับเล่นได้ทั้งวัน 

Arches National Park

       เข้าแนวลุยๆ หน่อยต้องไป  โมอาบ สหรัฐอเมริกา สำหรับนักปั่นมากประสบการณ์ เตรียมจักรยานเสือภูเขากับหมวกนิรภัยไว้ให้พร้อม จากนั้นมุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติ Arches National Park ซึ่งอยู่ห่างจากโมอาบ รัฐยูทาห์ ไปเพียงเล็กน้อย เพื่อออกสำรวจเส้นทางบนเขาสุดเร้าใจ ในระหว่างแล่นผ่านเส้นทางก็อย่าลืมมองหาไดโนเสาร์และฟอสซิล รวมถึงศิลปะจากก้อนหินสุดโมเดิร์น ควรหาที่พักที่มีบริการรถรับส่งไปยังอุทยานแห่งชาติ รวมถึงสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และอ่างน้ำอุ่นซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการผ่อนคลายหลังจากปั่นจักรยานอย่างหนักมาทั้งวัน

ริวา เดล การ์ดา

         ปิดท้ายที่ ริวา เดล การ์ดา ประเทศอิตาลี  เมืองแห่งการปั่นจักรยานเสือภูเขา รวมถึงขบวนผู้มาเยือนกว่า 40,000 คน และนักกีฬากว่า 3,000 คน ที่หลั่งไหลเข้ามาสู่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เพื่อเข้าร่วมเทศกาลจักรยาน การแข่งขันมาราธอน และงานนิทรรศการต่าง ๆ ที่นี่มีเส้นทางนับพันเมตรหลากหลายเส้น ซึ่งเหมาะสำหรับนักปั่นทุกระดับความสามารถ รวมถึงวิวทิวทัศน์อันงดงามจับใจ และความสวยงามตามธรรมชาติที่ยากจะหาที่ ใดเปรียบ จึงไม่แปลกที่ริวา เดล การ์ดาจะเป็นจุดหมายในฝันของบรรดาผู้รักการปั่นจักรยานบนเขาทั่วมุมโลก

          เอาล่ะ ...ถ้าอ่านแล้วแข้งขาเริ่มขยับ อยากจะปั่นสองล้อคู่กายไปยังอีกฝั่งทวีปบ้าง รีบแพลนการเดินทาง  เตรียมร่างกายให้แข็งแรง แล้วไปพิชิตจุดหมายที่ใช่กันได้เลย 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  booking.com