
เตือน! พายุ'โคโตะ'ฉบับล่าสุด ผลกระทบ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. นี้ เช็คภาคเหนือ
เตือน! กรมอุตุนิยมวิทยาเผยแพร่เอกสาร ประกาศฉบับล่าสุดเกี่ยวเนื่องกับ เรื่องอิทธิพลและผลกระทบจาก พายุ "โคโตะ" มีผลตั้งแต่ 30 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2568
วันนี้ 30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ประเทศไทย ได้เผยแพร่เอกสาร ประกาศฉบับล่าสุดเกี่ยวเนื่องกับ เรื่องอิทธิพลและผลกระทบจาก พายุ "โคโตะ" ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ที่ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง เผยว่าประเทศไทยตอนบน(เหนือ - อีสาน)ต้องรับมืออากาศหนาวว่า
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ "โคโตะ" และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนฉบับที่ 8(370/2568) มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2568
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (30 พ.ย. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง "โคโตะ" (KOTO) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางโดย
- มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 13.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.4 องศาตะวันออก
- ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 93 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางทิศตะวันออกเล็กน้อยอย่างช้าๆ
ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวสำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส และยอดภูอุณหภูมิต่ำสุด 7-11 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนมีกำลังอ่อนลง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ภาคเหนือ
- อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
- บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และห่างฝั่งของทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



