
กรมอุตุฯ อัปเดตพายุดีเปรสชัน ทวีกำลังแรงเป็น พายุโซนร้อน "วิภา"
กรมอุตุฯ เตือนฉบับ 3 อัปเดตพายุดีเปรสชัน ทวีกำลังแรงเป็น พายุโซนร้อน "วิภา" คาดกระทบภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันตก 22-24 ก.ค. 68
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดทสถานการณ์และเส้นทางเดินพายุเช้าวันนี้ (18 ก.ค. 2568) เวลา 04.00น. พายุดีเปรสชันที่มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "วิภา (WIPHA)" แล้ว กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านหัวเกาะลูซอลประเทศฟิลิปปินส์ และลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในเช้าของพรุ่งนี้ (19 ก.ค. 2568)
หลังจากนั้นจะเคลื่อนผ่านทางตะวันออกเกาะไหหลำและเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้หรือเวียดนามตอนบน จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อเคลื่อนขึ้นฝั่ง และเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือของไทย อาจจะส่งผลกระทบให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก รวมทั้งจะทำให้มรสุมมีกำลังแรงในช่วง 22 - 24 ก.ค.68 ยังต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ข้อมูลเส้นทางของพายุหรือสถานการณ์นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่น ๆ มาเกี่ยวข้องในช่วงที่พายุกำลังเข้าใกล้ชายฝั่ง ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศเบื้องต้น
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 3 (183/2568) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 ก.ค. 2568)
ในช่วงวันที่ 19-24 ก.ค. 2568 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม อุทัยธานี กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา
เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้
วันที่ 19 กรกฎาคม 2568
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
วันที่ 20 - 21 ก.ค. 2568
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร มหาสารคามกาฬสินธุ์ ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดอุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
วันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2568
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือ ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "วิภา" แล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 19-22 ก.ค. 68 ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือหรืออพยพ หากสถานการณ์อยู่ในสภาวะวิกฤตและติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.