ข่าว

อีก 5 วัน เฝ้าระวังพายุลูกใหม่ รุนแรงกว่าพายุยางิ 2 เท่า ?

อีก 5 วัน เฝ้าระวังพายุลูกใหม่ รุนแรงกว่าพายุยางิ 2 เท่า ?

26 ก.ย. 2567

อีก 5 วัน เฝ้าระวังพายุลูกใหม่ รุนแรงกว่าพายุยางิ 2 เท่า? วิเคราะห์เส้นทางพายุ หากขึ้นฝั่งที่เวียดนาม กทม.เตรียมรับน้ำหนักกว่าปี 54

26 ก.ย. 2567 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เดชา นฤนารท โพสต์แจ้งเรื่องราวของพายุลูกใหม่ ระบุว่า อีก 5 วันจะเกิดพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ ถล่มไต้หวันแบบชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และรุนแรงมาก แรงกว่าพายุยางิถึง 2 เท่า แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า อุณหภูมิที่ประเทศจีนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มวลอากาศเย็นสลับกับลมร้อน ไม่อยู่กับร่องกับรอย

 

ถ้ามวลอากาศเย็นหายไป พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนามและเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคเหนือตอนบนอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกังวลใจมากที่สุด ถ้าเป็นแบบนี้ กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมหนักกว่าปี 54 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

 

 

อีก 5 วัน เฝ้าระวังพายุลูกใหม่ รุนแรงกว่าพายุยางิ 2 เท่า ?

สำคัญที่สุดก็คือ ในช่วง 5 วันนี้ กระแสลมมรสุมนิ่งมาก นั่นหมายความว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับพายุลูกนี้

 

  1. ถ้าพายุเคลื่อนมาด้านหน้า เข้าเวียดนาม สปป.ลาว และไทย อย่างแน่นอน และจะสร้างความเสียหายที่รุนแรงมาก เพราะพายุลูกนี้ดูดยึดเอามวลอากาศทั้งหมดในทะเลจีนใต้ มาไว้กับมันจนหมด
  2. ถ้าลอยขึ้นด้านบน ก็คือจีน และย้อนกลับมาถล่มนครเซี่ยงไฮ้ เป็นรอบที่ 3 ของปีนี้
  3. ถ้าลอยออกด้านข้าง ก็จะเป็นเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

 

แต่ที่ชัวร์ที่สุดก็คือ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ทุกคนในทั่วโลกจะได้พบในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็คือ จะเกิดปรากฏการณ์ฝนตกหนักในประเทศเนปาล ติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน และคาดว่าน้ำจะท่วมหนักกันทั้งประเทศ

 

วันนี้ขอเตือนพี่น้อง ทางภาคเหนือทั้งหมด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ น่าน นับจากวันนี้ไป จนถึงกลางเดือนหน้า เตรียมเก็บข้าวของขึ้นที่สูงกันได้เลย เป็นไปได้ให้รีบย้ายขึ้นไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนพวกที่อาศัยอยู่บนดอยเขาหัวโล้น บ้านเรือนที่อยู่อาศัยไม่น่าจะเหลือรอด เพราะจะเกิดมวลน้ำป่าอย่างหนักที่รุนแรงกว่าเดิมและฝนจะตกบนดอยสูงติดต่อกันไม่หยุด

 

อีกไม่กี่วันที่บริเวณ ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมาจะจมน้ำเกือบทั้งหมด และจะส่งผลต่อ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในจุดเดิมๆ อีก ต้องเฝ้าระวังกันให้ดี ดูจากสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงของร่องมรสุมและพายุฝนแบบนี้ ผมมองว่าเกิดจากปัจจัย 2 อย่างคือ

  1. เกิดจากการรั่วออกมาของก๊าซไฮโดรเจน จากเตาปฏิกรณ์ของการทดสอบดวงอาทิตย์เทียม ที่จีน ค่อนข้างมีเปอร์เซ็นสูงมาก ที่ทำให้เกิดสภาวะลมมรสุมรอบข้างทั้งหมด ถูกดูดหายไปรวมตัวกันเป็นเมฆที่กระจุกลอยอยู่ในเขตประเทศ เนปาล บังคลาเทศ อินเดียและตอนบนของเมียนมา ที่ไม่ยอมลอยเคลื่อนที่หายไปไหนเลย
  2. พายุที่จะก่อตัวขึ้นในไต้หวัน ในอีก 5 วันข้างหน้า (ตามภาพ) คือพายุที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติ  ได้ดูดเอามวลลมทั้งหมดในเขตทะเลจีนใต้ ได้แบบง่ายดาย จึงมีขนาดใหญ่และมีกำลังมาก เพราะไม่มีมวลลมอื่นมาคอยดึงเอาอากาศออกไป และแนวเขตร่องมรสุมทางทะเลอ่าวเบ็งกอลก็หายไปหมด เพราะถูกดูดไปเป็นพายุประหลาด ที่เข้าถล่มในเนปาลถึง 3 วัน 3 คืน  ดังนั้นหากพายุลูกนี้เคลื่อนตัวไปในทิศทางไหน จะก่อหายนะที่รุนแรงมาก

 

แต่ถ้าดูจากร่องมรสุมแล้ว โอกาสที่พายุจะเคลื่อนที่เข้ามาทางเวียดนามก็มีโอกาสที่สูงมาก แต่หากประเทศไทยโชคดี ถ้าในอีก 5 วันนี้ เกิดมีมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ปกคลุมลงมามาก พายุลูกนี้ก็จะเคลื่อนตัวสูงขึ้น และอาจจะเข้าจีน หรือไม่ก็ที่เกาหลีใต้แทน ถึงอย่างไรก็ตาม นับจากวันนี้เป็นต้นไปจนถึงกลางเดือนหน้า ภาคเหนือตอนบนทั้งหมด ก็ต้องเผชิญกับฝนตกหนักเหมือนเดิมนะครับ เตรียมตัวกันไว้ตอนนี้เลย.

 

อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นหลัก และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง