มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ

12 ก.ค. 2562

02:00 น.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

วันนี้ในอดีต 12 กรกฎาคม 2544 เกิดอะไรขึ้น?

**************

จะมีสักกี่คนที่เป็นรักแท้ของใครสักคน “กำธร ทัพคัลไลย” เป็นคนที่โชคดีคนนั้น เพราะตราบชั่วชีวิตเขามี ปิยะมาศ โมนยะกุล อดีตนางเอกชื่อดัง อยู่เคียงข้างจนวาระสุดท้าย

และวันนี้เมื่อ 18 ปีก่อน หรือตรงกับวันที่ 12 กรกฎาคม 2544 คือวันที่ผู้กำกับชื่อดัง กำธร ทัพคัลไลย ลาโลกไปในวัย 60 ปี จากอาการป่วยมะเร็งตับและปอด

เหลือไว้เพียงความจดจำและรำลึกถึงที่ว่า นอกจากเขาจะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีผลงานมากมาย แถมยังฮิตถล่มทลายทำรายได้มหาศาล และมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองแล้ว

เขามี หรือ “เคยมี” และ “ยังคงมี” ภริยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ไม่เคยหมดรักในตัวเขาเลยชั่วชีวิต

จุดเริ่มต้นแห่งชีวิต

กำธร ทัพคัลไลย เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2484 เป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพี่ชายชื่อ กมล ทัพคัลไลย ครูเพลงชื่อดัง ทั้งคู่เป็นลูกของช่างหล่อพระชาวอยุธยา และยังเป็นช่างแกะสลักไม้ทำลำโพงวิทยุ ทำภูเขามอ (ภูเขาย่อส่วน) อีกด้วย

คงไม่แปลกใจว่าทำไม กำธรจึงเติบโตมาเป็นผู้กำกับหนัง เพราะชีวิตของเขาเรียกได้ว่าคลุกคลีได้รับอิทธิพลของภาพยนตร์มาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะมีบ้านอยู่ติดกับโรงหนัง

ฝ่ายพี่ได้รับอิทธิพลเรื่องดนตรีและเสียงเพลง ที่เวลาโฆษณาเรียกผู้ชม จะมีแตรวงและเปิดเพลงเก่าๆ เรียกคนมาดูหนัง ส่วนฝ่ายน้องมาทางหนัง เพราะเจา้ตัวมักจะได้เข้าไปดูหนังฟรีอยู่บ่อยๆ

หากเส้นทางของกำธรในโลกของหนัง ที่เขาเริ่มตั้งแต่เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมคืองานเป็นช่างเขียนป้ายคัตเอาต์ ก่อนจะผันไปทำงานประจำเช่น รับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ และธนาคารแห่งประเทศไทย ก่อนจะลาออกมาทำงานธุรกิจชิปปิ้ง

มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ

ขอบคุณภาพจาก https://www.peoplecine.com/wboard/m_maintopic.php?GroupID=9&Begin=48&ID=18771

จนภายหลัง กำธรหนีลิขิตตัวเองไม่พ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาศัยสายสัมพันธ์ด้วยเหมือนกัน เพราะหลังจากที่พี่ชายของเขามีโอกาสทำงานให้กับท่านมุ้ย หรือ หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิมยุคล

ก็พี่ชายนี่แหละที่นำน้องชายที่รัก ไปฝากฝังไว้กับท่านมุ้ยเพื่อให้เข้าวงการกับเขาบ้าง โดยราวปี 2514 กำธรเข้าประกวดเป็นดาราหน้าใหม่กับผลิตภัณฑ์น้ำมันใส่ผมยี่ห้อหนึ่ง แสดงละครโทรทัศน์และภาพยนตร์บ้างประปราย

กระทั่งช่วงนั้นเองที่กำธรเริ่มได้รู้จักกับ “ปิยะมาศ โมนยะกุล” สาวโคราช อดีตรองมิสบีซีซี ที่เข้าสู่วงการภาพยนตร์มาก่อนกำธรตั้งแต่ปี 2515 ที่สุดก็เกิดเป็นความรักขึ้นมา

ขึ้นแท่นผู้กำกับดัง

ว่ากันว่า “ความรัก” ส่งผลให้กำธรอยากจะสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการเป็น “ผู้กำกับ” เขาจึงสร้างหนังของตัวเองขึ้นมาเรื่องแรกคือ ‘ทายาทป๋องแป๋ง’ หลายคนคงจำกันได้

มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ

ทั้งนี้ กำธรได้ตั้ง บริษัท สยามสตาร์โปรดักชั่น ขึ้นมาเมื่อปี 2518 และดำเนินการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้น นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี และ ปิยะมาศ โมนยะกุล และนักแสดงสมทบดังๆ เช่น ทาริกา ธิดาทิตย์, นิรุตต์ ศิริจรรยา, สายัณห์ จันทรวิบูลย์ ,สุริยา ชินพันธุ์ ฯลฯ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเมื่อปี 2521 และประสบความสำเร็จเป็นอันมาก ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์

ว่ากันว่าส่วนสำคัญเลย เพราะกำธรมีแผนประชาสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือการแจกของเล่นที่เกี่ยวกับหนังแจกให้กับผู้ชมเพื่อดึงดูดผู้ชมวัยเด็ก

จะว่าไปกำธรน่าจะเป็นต้นตำรับของพรีเมี่ยม ในแวดวงภาพยนตร์บ้านเราเลยก็ว่าได้ หลายคนคงพอนึกออกกับของเล่นที่เป็น "ป๋องแป๋ง" ที่ใครๆ พากันเรียกว่า "กำธรทอย" ซึ่งแจกในช่วงฉายภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตเขา

มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ

ขอบคุณภาพจากเฟซบุคเพจ บรรเจิด เริ่ดสะแมนแตน ตามอ่านได้ที่ลิงค์นี้ https://www.facebook.com/bungerd2518/photos/a.875459202575959/875462445908968/?type=3&theater

ตลอดมา เส้นทางผู้กำกับภาพยนตร์ของกำธรดำเนินมาอย่างดี ได้รับความนิยมเรื่อยมา โดย 11 เรื่องหลังจากนั้น ที่เขาทำมาจนถึงปี 2537 ทุกเรื่องมีของเล่นแจกจนเป็นเอกลักษณ์หมด

แต่ที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดกว่าเรื่องไหน ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่กำธรจะให้ภรรยาสุดที่รัก คือ ปิยะมาศ โมนยะกุล ร่วมแสดงด้วยทุกเรื่อง จนคนไทยติดตากับ “คู่ขวัญปิยะมาศ-กำธร” มาตลอด

ขอบคุณภาพจาก https://www.peoplecine.com/wboard/m_maintopic.php?GroupID=9&Begin=48&ID=18771

ผลงานสร้างชื่อ

นอกจาก ทายาทป๋องแป๋ง ที่ออกฉายในปี 2521 แล้ว เรื่องอื่นๆ ของเขาเรียกลำดับดังต่อไปนี้

"เขยใหม่ปึ๋งปั๋ง" (2522) นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี, ปิยะมาศ โมนยะกุล, "เต้าฮวยไล้เหลี่ยว" (2523) นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี, ปิยะมาศ โมนยะกุล,

"ไอ๊หยาอาตือ" (2524) นำแสดงโดย ปิยะมาศ โมนยะกุล, สมบัติ เมทะนี, "มาดามยี่หุบ“ (2525) นำแสดงโดย ปิยะมาศ โมนยะกุล, สรพงศ์ ชาตรี, ”นางสาวเย็นฤดี" (2526) นำแสดงโดย ปิยะมาศ โมนยะกุล, ทูน หิรัญทรัพย์, สรพงศ์ ชาตรี, นพพล โกมารชุน,

มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ

ขอบคุณภาพจาก https://thaifilmreviews.com/

"สวัสดีคุณนาย" (2527) นำแสดงโดย ปิยะมาศ โมนยะกุล, สรพงศ์ ชาตรี, "ตะวันยิ้มแฉ่ง“ (2528) นำแสดงโดย ปิยะมาศ โมนยะกุล, สรพงศ์ ชาตรี, ”แหม่มกะปิ" (2529) นำแสดงโดย ปิยะมาศ โมนยะกุล, สรพงศ์ ชาตรี,

“อีจู้กู้ปู่ป้า” (2531) นำแสดงโดย บดินทร์ ดุ๊ก, พิม วัฒนพานิช, กำธร ทัพคัลไลย, ปิยะมาศ โมนยะกุล, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, ด.ช.ปกรณ์ ลัม

มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ

ภาพจาก https://thaifilmreviews.com

“แฝดแบบว่า” (2533) นำแสดงโดย รุจน์ รัจ ณัฐกานต์, อมรวรรณ ซัทตัน, ดาเรศน์ อมลักษเฐียร, ปิยะมาศ โมนยะกุล

“มาดามยี่หุบ ภาค 2 จากอังกฤษถึงประเทศไทย ไปบางปลาม้า มากรุงเทพฯ” (2537) นำแสดงโดย ประภารัตน์ วรัญญาณ, ปนัดดา วรัญญาณ, นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร, ปิยะมาศ โมนยะกุล, สรพงศ์ ชาตรี

จะเห็นว่าโดยมาแล้ว ล้วนแต่เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จทั้งสิ้น

ถ้านับปี 2537 เป็นปีที่ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของกำธรออกฉาย เวลานั้นเขามีอายุ 53 แล้ว ถือว่าทำมามาก และขึ้นแท่นผู้ที่มาถึงยอดเขาแห่งความสำเร็จเต็มตัวไม่มีใครเถียง

แต่คนมีความสามารถไปที่ไหนก็รุ่ง เพราะหลังจากกำธรเลิกสร้างภาพยนตร์ เขากลับมาเล่นละครโทรทัศน์หากแต่ระหว่างปี 2540- 2545 เขายังเล่นละครอีกมากมายหลายเรื่อง ทั้งรับเชิญและเป็นนักแสดงหลักเรื่องที่มีชื่อเสียง เช่น หงส์เหนือมังกร (2543),ตะวันตัดบูรพา (2544) ฯลฯ

เส้นทางสายสุดท้าย

คนเราต่อให้ไปมาไกลแค่ไหน สุดท้ายปลายทางคงเป็นบ้านและครอบครัว เส้นทางชีวิตในมุมส่วนตัวของกำธร คนไทยเห็นพัฒนาการของความรักระหว่าง กำธร ปิยะมาศมานาน

อย่างที่รู้ว่า กำธร สมรสกับปิยะมาศ แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน จนต่อมาได้หย่าร้างกันในปี พ.ศ. 2543 เนื่องจากกำธรไปมีภรรยาใหม่ และมีบุตรด้วยกันหนึ่งคนชื่อ ศกุลตลา ทัพคัลไลย

สำหรับปิยะมาศนั้น ต้องนับว่าใจสลาย ช่วงปี 2561 เธอเคยเล่าไว้ในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง ONE 31 ที่มี “พีเค” ปิยะวัฒน์ และ “แพท” ณปภา เป็นพิธีกร

มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ

“ตอนแรกเราไม่ชอบนะ เกลียดเขาด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็มาแพ้ความดีเขา เพราะเขาดูแลเราดีมาก เราถ่ายละครเสร็จตี 3 เขาก็มารอรับไปส่งบ้าน ไปต่างจังหวัดก็ไปขับรถให้ ตอนนั้นเราก็รู้สึกอบอุ่น ตกหลุมรัก สุดท้ายก็แอบหนีไปแต่งงานกันต่างจังหวัด คิดว่าในเมื่อมันเรื่องมากนัก ก็แต่งงานกันซะเลย”

จากนั้นเมื่อพบว่าสามีเปลี่ยนไป เธอบอกว่าแค่มองตากันก็รู้แล้วว่ามันมีอะไรบ้างที่ผิดปกติไป

"เราก็ทรมานเวลาเขาก้าวออกจากบ้านไป เราก็ใจหาย รู้สึกว่าเขาไม่ใช่ของของเราอีกแล้ว ทางนู้นเขาก็มีลูกด้วยกัน ลูกก็คอยพ่อ บ้านนู้นเขาก็คอยสามี เราถึงไม่โกรธเขามาก เพราะว่าเราให้ในสิ่งที่เขาอยากจะมีไม่ได้ มันก็เลยเป็นประเด็นขึ้นมา ก็เลยตัดสินใจแยกกัน"

น่าแปลกที่คนบางคู่แยกแล้วแยกเลย ราวกับคนไม่รู้จักกันอีกต่อไป แต่สำหรับคู่นี้ไม่ใช่

ที่สุดเมื่อฝ่ายชายพบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็ง ช่วงสุดท้ายของชีวิตเขายังมีอดีตภรรยาสุดที่รักมาคอยดูแลเคียงข้าง เธอเล่าว่า

“ก็ไปดูแลเขาจนเขาเสียชีวิต เพราะครอบครัวใหม่เขาจะเด็กมาก จะทำอะไรไม่ค่อยเป็น เราก็ไปดูแลจัดการ จะรักษายังไงอะไรแบบนี้ แล้วเขาก็สั่งเสียว่า ช่วยดูแลงานศพให้ด้วย เพราะน้องเขายังเด็กมาก เราก็ดูแลจนกระทั่งเผาเสร็จอะไรเรียบร้อย”

มะเร็งคร่าชีวิต กำธร ทัพคัลไลย หนึ่งเดียวรักแท้ของปิยะมาศ