ข่าวร้ายที่ทำเอาโลกตะลึง ก็เพราะไม่มีใครรู้มาก่อนว่า คนที่ควรจะมีความสุข เพราะมีทุกอย่างพรั่งพร้อม จะมาคิดสั้น!!
ว่ากันถึง "อาการของโรคซึมเศร้า" พิษของมันนั้นร้ายแรงหนักหนา แต่ละปีมีผู้คนที่ต้องจบชีวิตตนเอง จากผลกระทบของโรคนี้จำนวนมาก ไม่เลือกชนชั้นวรรณะและอายุ
ดังกับที่เกิดขึ้นกับ เจ้าชายอาลี เรซาที่ 2 ปาห์ลาวี เจ้าชายหนุ่มรุปงามแห่งอิหร่าน ที่ควรจะมีชีวิตที่พร้อมพรั่งไปด้วยความสุข แต่พระองค์กลับเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องทนทุกข์กับพิษของโรคซึมเศร้าเช่นกัน ถึงขนาดที่ได้ตัดสินใจปลงพระชนม์เองด้วยพระแสงปืนภายในที่พัก ในวันนี้ 8 ปีก่อน หรือตรงกับวันที่ 4 ม.ค.2554
สำหรับพระราชประวัติของ เจ้าชายอาลี เรซาที่ 2 ปาห์ลาวี นั้นมีว่า พระองค์ประสูติเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2509
เป็นพระราชโอรสองค์เล็กในพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี และจักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี
พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี
จักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี
พระองค์มีพระเชษฐา พระเชษฐภคิณี และพระขนิษฐา คือ เจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี มกุฎราชกุมารแห่งอิหร่าน, เจ้าหญิงฟาราห์นาซ ปาห์ลาวี และ เจ้าหญิงไลลา ปาห์ลาวี นอกจากนี้พระองค์ยังมีพระเชษฐภคิณีต่างพระมารดาคือ เจ้าหญิงชาห์นาซ ปาห์ลาวี
เจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี มกุฎราชกุมารแห่งอิหร่าน
หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษา พระองค์ได้ย้ายมาประทับลี้ภัยยังสหรัฐอเมริกา ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ปริญญาศิลปะ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และกำลังศึกษาคณะอักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์อิหร่านศึกษา และนิรุกติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา
เจ้าหญิงฟาราห์นาซ ปาห์ลาวี พระเชษฐภคิณี
พระองค์ได้คบหาดูใจกับนางสาวซาราห์ ตาบาตาบัย (Sarah Tabatabai) โดยพระองค์ทรงได้ทำการหมั้นเมื่อประมาณปี 2544 แต่เมื่อพระองค์สำเร็จการศึกษาในราวปี พ.ศ. 2547 พระองค์กลับมิได้เสกสมรสกับพระคู่หมั้นหลังจากการรอคอยมายาวนาน
กับพระคู่หมั้น ซาราห์ ตาบาตาบัย
เพราะความรักของพระองค์กับเธอก็สิ้นสุดลง พระองค์จึงได้รับสมัญญานามว่า "เจ้าชายช่างเลือก"
เจ้าหญิงไลลา ปาห์ลาวี พระขนิษฐา
อีกด้านหนึ่งเจ้าชายของเราผู้นี้ ด้วยความที่ทรงมีพระโฉมงดงาม ทั้งยังทรงสนใจการแสดง พระองค์ทรงเคยแสดงในซีรีส์เรื่อง V.I.P.-Schaukel ภาค 1 ในปี ค.ศ. 1973 และภาค 3.1 ในปีเดียวกัน โดยแสดงเป็นพระองค์เอง (เรซา ปาห์ลาวี) และแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Hannity & Colmes ภาค 1 ในปี ค.ศ. 2006 โดยแสดงเป็นพระองค์เองเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ข่าวร้ายที่ทำเอาโลกตะลึง ก็เพราะไม่มีใครรู้มาก่อนว่า คนที่ควรจะมีความสุข เพราะมีทุกอย่างพรั่งพร้อม จะมาคิดสั้น
4 มกราคม พ.ศ. 2554 เจ้าชายอาลี เรซา ทรงปลงพระชนม์ด้วยพระแสงปืนในบ้านพักในบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา สิ้นพระชนม์ขณะ สิริพระชนมายุได้ 45 ชันษาเท่านั้น!!
ข่าวระบุสาเหตุเกิดจากโรคซึมเศร้าที่มีมายาวนาน ตั้งแต่การสูญเสียพระราชบิดา หลังจากที่ทรงตรอมใจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ปฏิวัติอิสลาม ซึ่งพระราชวงศ์อิหร่านจำต้องเสด็จลี้ภัยออกนอกประเทศ ทำให้พระราชบิดาของพระองค์ คือ พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ได้ประชวรด้วยโรคมะเร็ง และได้เสด็จสวรรคตที่ประเทศอียิปต์ในปี 2523 และภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระราชบิดา พระราชวงศ์อิหร่านจึงได้ประทับ ณ สหรัฐอเมริกาเป็นการถาวร
ขณะที่ต่อมา เจ้าหญิงไลลา พระขนิษฐาองค์เล็ก ยังทรงมาสิ้นพระชนม์จากไปอีกพระองค์ ในปี 2544 ด้วยพระชนมายุเพียง 31 ชันษา จากสาเหตุที่ได้เสวยพระโอสถ quinalbarbitone ซึ่งเป็นยากดประสาทชนิดหนึ่งมากเกินไป ทั้งนี้ ในส่วนพระองค์แล้วทรงมีอาการจากพระโรคไม่อยากอาหารอีกด้วย
เจ้าหญิงไลลา ภาพจาก https://www.findagrave.com/memorial/30175360/leila-pahlavi
และตามรายงานข่าว โดยได้ข้อมูลมาจากการชันสูตรศพของหน่วยชันสูตรศพเวสต์มินสเตอร์ ระบุว่าเจ้าหญิงได้ขโมยยาชนิดนี้จากเคาน์เตอร์ของหมอขณะที่พระองค์มาตามนัดและนำยาไป 40 เม็ด ซึ่งมากกว่าตามที่แพทย์กำหนดไว้ถึง 2 เท่า (คอลัมน์วันนี้ในอดีตจักขอนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป)
ที่สุด นอกจากความเศร้าโศกดังกล่าวแล้ว เจ้าชายยังทรงมีความทุกข์จากการวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองของอิหร่านอีกด้วย
หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชาย เวลานั้นสื่อต่างประเทศพากันรายงานข่าว อ้างสถานีโทรทัศน์ของประเทศอิหร่าน ว่าได้มีการพาดหัวข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ไว้ว่า
"ลูกชายอดีตเผด็จการแห่งอิหร่านฆ่าตัวตาย"
ภาพโดย Patrick Mcmullan / Sipa
ส่วนในเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นสื่อหลักของการต่อต้านรัฐบาลอิหร่านของชาวอิหร่านพลัดถิ่น ได้แสดงปฏิกิริยาต่อต้านรัฐบาลชุดปัจจุบันของอิหร่านที่ปกครองอย่างเข้มงวด มีการส่งคำไว้อาลัยและแสดงความเสียใจต่อการจากไปของพระองค์
บ้านพักซึ่งระบุว่าเป็นสถานที่สุดท้ายของลมหายใจเจ้าชาย ภาพโดย Charles Krupa / AP Photo
เจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี มกุฎราชกุมารแห่งอิหร่าน ได้ออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ส่วนพระองค์เพื่อไว้อาลัยการจากไปของพระอนุชา ความว่า
"นี่เป็นอีกครั้ง ที่เราร่วมชะตากรรมเดียวกับพระมารดา พระบิดา และเครือญาติของเหยื่ออีกมากมายในช่วงเวลาแห่งความมืดมิดของประเทศของเรา"
ส่วนสภาอเมริกัน-อิหร่านแห่งชาติออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมนี้
/////////////////////
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
ขอบคุณภาพจาก
Charles Krupa / AP Photo
Patrick Mcmullan / Sipa
https://www.findagrave.com/memorial/30175360/leila-pahlavi
ข่าวที่เกี่ยวข้อง