วันนี้ในอดีต

21 ธ.ค.2531 แพนแอม 103 ระเบิดแหลกกลางเวหา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงก้องเหมือนฟ้าร้อง จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระแทกที่ดังเอามากๆ จนพื้นดินสั่นสะเทือนไปหมด

         

**********************

          วันนี้เมื่อ  30 ปีก่อนหรือตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2531 ได้เกิดเหตุโศกนาฏรรม เที่ยวบินแพนแอม ที่ 103 เกิดระเบิดเหนือเมืองล็อกเกอร์บี สก็อตแลนด์ เป็นเหตุให้เครื่องบินตกทำให้เกิดผู้เสียชีวิต 270 คน (รวมผู้เสียชีวิตที่อยู่บนพื้น 11 คน) จาก 21 ประเทศ

 

          และที่น่าตกใจคือ เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกบันทึกเป็นเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดของสก็อตแลนด์!!

 

          ใช่แล้ว มันคือการก่อการร้าย!!

         

          ย้อนไปในวันเกิดเหตุ มีรายงานจากสารคดี "รายงานครั้งสุดท้าย ตอน เที่ยวบินแพนแอม 103 l Pan Am 103 (การระเบิดเครื่องบินของผู้ก่อการร้าย)" ทาง Mono 29 ระบุเล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า สายการบิน แพน-อเมริกัน เวิร์ลด์ แอร์เวย์ หรือแพนแอม นั้นตกที่เมือง ล็อกเกอร์บี  ประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ 70 ไมล์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ กลาสโกลว์ 

 

          โดยช่วงประมาณ หนึ่งทุ่มเศษ หรือ 3 ชั่วโมงหลังอาทิตย์ลับขอบฟ้า ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงก้องเหมือนฟ้าร้อง จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระแทกที่ดังเอามากๆ จนพื้นดินสั่นสะเทือนไปหมด

 

          การระเบิดทำให้เกิดลูกไฟขนาดใหญ่ พุ่งขึ้นฟ้าถึง 300 ฟุต บ้านหลายหลังถูกเผาวอดวาย

 

21 ธ.ค.2531  แพนแอม 103  ระเบิดแหลกกลางเวหา

https://en.wikipedia.org/wiki/Pan_Am_Flight_103#/media/File:Pan_Am_Flight_103._Crashed_Lockerbie,_Scotland,_21_December_1988.jpg

 

          แน่นอนหลังจากนั้นไม่นาน ทีมช่วยเหลือของล็อกเกอร์บี จึงเข้ามาค้นหาผู้รอดชีวิต แต่พวกเขากลับพบแต่ศพมากมาย ทั้งบนหลังคา และต้นไม้ ขณะที่ห่างออกไป 3 ไมล์ เจ้าหน้าที่ยังพบชิ้นส่วนของเครื่องบินที่ยังดูเป็นรูปร่าง ซึ่งเป็นส่วนจมูกของเครื่อง และดุออกในทันทีว่านี่คือเครื่องบินขนาดใหญ่ คือเครื่อง 747 และยังพบกระเป๋าที่มีป้ายเขียนว่า PA 103 

 

          สรุปแล้ว เครื่องมรณะลำนี้คือ เครื่องบินแพนแอม จัมโบ้เจท บรรทุกคน 259 คน ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมทางอากาศ ระบุว่าเรด้าร์แสดงว่าเครื่องบินระเบิดก่อนกลางอากาศ นอกจากนี้ทางนักบินของเครื่องก็มิได้มีการติดต่อขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด

 

          ทั้งนี้ในการเข้าไปสำรวจห้องนักบินพบว่า ลูกเรือไม่ได้สวมหน้ากากออกซิเจน บ่งบอกว่าพวกเขาไม่รู้ถึงอันตราย 

   

         จนกระทั่งมีการสืบสวนจนพบว่านี่คือการก่อการร้ายแน่นอน เพราะสายการบินนี้เป็นเหมือนสัญลักษณของรัฐบาลอเมริกัน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะตกเป็นเป้าการโจมตี

 

          ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่พบเบาะแสที่มั่นใจว่านี่คือการก่อระเบิด โดยเป็นชิ้นส่วนโลหะที่ขอบระเบิดด้านนอก และนักนิติวิทยาศาสตร์ยังพบเศษของวัตถุระเบิด และคำถามสำคัญคือ เป็นการกระทำของใคร 

 

          ที่สุด คำตอบก็ค่อยคลี่คลายออกมา หลังจากมีการพยายามประกอบชิ้นส่วนของเครื่องบินเพื่อหาเบาะแส

 

21 ธ.ค.2531  แพนแอม 103  ระเบิดแหลกกลางเวหา

https://pittsburgh.cbslocal.com/2011/10/20/pan-am-103-victims-father-reflects-on-qaddafis-death/

 

          ช่างน่าอัศจรรย์ที่การพยายามประกอบชิ้นส่วนทำให้พบที่ตั้งของกระเป๋าระเบิด ณ ที่นั่งจุดหนึ่ง และพบแผ่นวงจรขนาดเล็กตกอยู่ โดยเป็นแผ่นวงจรของเครื่องเล่นวิทยุเทปยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งมีการสรุปว่านี่คือส่วนหนึ่งของระเบิด

 

          แน่นอนการสืบหาต้นตอระเบิดดำเนินเรื่อยมาท่ามกลางทฤาฎีและข้อสันนิษฐานต่างๆ จนกระทั่งภายหลัง สืบสวนจนพบว่าเป็นฝีมือหน่วยข่าวกรองลิเบีย

 

          ในที่สุด ต่อมา พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ยอมส่งมอบตัว อัล-เมกราฮี และผู้ต้องสงสัยชาวลิเบียอีกคน ไปให้ทางการสกอตแลนด์ แต่ อัล-เมราฮี เป็นคนเดียวที่ถูกดำเนินคดี และศาลสกอตแลนด์ ตัดสินเมื่อปี 2544 ให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 27 ปี

 

           แต่ในปี 2552 แพทย์ตรวจพบ อัล-เมกราฮี ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 เดือน จึงปล่อยตัวเป็นอิสระตามหลักมนุษยธรรม และส่งตัวกลับลิเบีย

 

         ก่อนจะเสียชีวิตไปแล้วที่บ้านพักในกรุงตริโปลีเมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2555 หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มาเป็นเวลานาน โดยมีอายุได้ 60 ปี ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาเขายืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์มาโดยตลอด

 

21 ธ.ค.2531  แพนแอม 103  ระเบิดแหลกกลางเวหา

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Pan_Am_103_wreckage.jpg

 

         จนกระทั่งช่วงเดือนตุลาคม 2558 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอดินบะระประเทศสกอตแลนด์ ว่า โฆษกสำนักงานอัยการของสกอตแลนด์แถลงว่าอธิบดีกรมอัยการของสกอตแลนด์ได้ออกหนังสือเป็นคำร้องส่งไปถึงอธิบดีกรมอัยการของลิเบียในกรุงตริโปลี โดยระบุตัวตนของผู้ต้องสงสัย 2 คนในเหตุระเบิดเครื่องบินแพนแอมเที่ยวบิน 103

 

          เพราะทั้งอธิบดีกรมอัยการของสกอตแลนด์และรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐ ต้องการความช่วยเหลือจากกระบวนการยุติธรรมของลิเบีย เพื่อให้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจของสกอตแลนด์และเอฟบีไอ(สำนักงานสืบสวนของสหรัฐ)ได้เข้าไปสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายในกรุงตริโปลี

 

         ทั้งนี้ หากใครตามข่าวจะพบว่า ช่วงปี 2546 พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ที่ล่วงลับไปแล้ว ในขณะนั้นกล่าวยอมรับว่าประเทศของเขามีส่วนรับผิดชอบในเหตุระเบิดเครื่องบินแพนแอมและได้จ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้วแต่เขาไม่ได้ยอมรับว่าเป็นคนสั่งให้โจมตี

 

         อนึ่ง สำหรับเที่ยวบินมรณะนี่เดินทางออกจากแฟรงเฟิร์ต เยอรมนีตะวันตก ปลายทางที่สนามบินเจเอฟเค กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา 

 

         เครื่องได้หยุดพักที่ฮ่องกง ก่อนที่จะบินต่อไปในช่วงก่อนค่ำ จนกระทั่งบินเหนือเมืองล็อกเกอร์บี สก็อตแลนด์ ที่ความสูง 31,000 ฟุต ก่อนที่อยู่ๆ จะระเบิดแหลกเป็นเสี่ยงๆ ในวันนี้เมื่อ 30 ปีก่อน

//////////////

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

วิกิพีเดีย

สารคดี รายงานครั้งสุดท้าย ตอน เที่ยวบินแพนแอม 103 l Pan Am 103 (การระเบิดเครื่องบินของผู้ก่อการร้าย)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ