
กกท. เตรียมชี้แจง สหพันธ์เปตองโลก หลังถูกสั่งแบน ห้ามจัดในซีเกมส์ 2025
กกท. เตรียมทำหนังสือชี้แจง สหพันธ์เปตองโลก หลังถูกสั่งแบน ห้ามจัดในซีเกมส์ 2025 ชี้ มีข้อมูลหลายอย่าง ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน
จากกรณีที่ สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ถูกสหพันธ์เปตองนานาชาติ สั่งลงโทษห้ามส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากปัญหาคุณสมบัติของนายกสมาคมฯ ทำให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แต่งตั้ง “คณะกรรมการกลาง” ขึ้นมา เพื่อจัดการแข่งขันและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 9 - 20 ธันวาคม 2568
ต่อมา สหพันธ์เปตองนานาชาติ (FIPJP) ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ สั่งห้ามประเทศไทยจัดการแข่งขันกีฬาเปตองในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2025 ปลายปีนี้ โดยเนื้อหาระบุว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยังคงสนับสนุนสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทยฯ ชุดที่ถูกสหพันธ์ลงโทษแบน และแม้จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาแล้วก็ยังไม่ยอมรับ พร้อมทั้งยืนยันว่าหากชาติใดส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันก็จะถูกลงโทษแบน 2 ปี นั้น
23 ก.ย. 2568 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากเห็นหนังสือที่สหพันธ์เปตองนานาชาติ ส่งให้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ แล้วพบว่ามีข้อมูลหลายอย่างที่ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนไป หลังจากนี้ กกท. จะทำหนังสือชี้แจงไปยังคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้เข้าใจตรงกันอีกครั้ง
ที่ผ่านมา กกท. ยอมรับในอำนาจของคณะกรรมการกลาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเตรียมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รวมไปถึงการพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาเพื่อส่งเข้าร่วมการแข่งขัน กกท. ไม่ได้ติดขัดอะไร เพียงแต่ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากนักกีฬา ถึงเรื่องการพิจารณาคัดเลือก ทำให้มีปัญหาต่อเนื่องมา หลังจากนี้ กกท. จะส่งข้อมูลทั้งหมดให้คณะกรรมการกลางเป็นผู้พิจารณาทั้งหมดเอง ว่าจะส่งรายชื่อแบบใดเข้าร่วมการแข่งขัน
ดร.ก้องศักด กล่าวต่อว่า เนื้อหาในเอกสารที่สหพันธ์เปตอง ส่งมา มีหลายอย่างที่เข้าใจผิด สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทยฯ ชุดที่ถูกสหพันธ์ลงโทษแบน ไม่ได้เขามายุ่งเกี่ยวกับการเตรียมนักกีฬา หรือส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33
อีกทั้ง กกท. ไม่ได้ให้การสนับสนุนสมาคมเปตองแห่งประเทศไทยฯ ชุดที่ถูกลงโทษ หลังจากส่งหนังสือชี้แจงไปแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่จะต้องเป็นผู้ชี้แจงให้กับสหพันธ์เข้าใจต่อไป ส่วนเรื่องจากเบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงให้กับนักกีฬา ซึ่งเดิมตามระเบียบ กกท. ไม่สามารถจะจ่ายตรงให้นักกีฬาได้ แต่หลังจากนี้จะดำเนินการแก้ไขระเบียบเพื่อให้สามารถจ่ายเงินตรงให้นักกีฬาได้เลย ส่วนตัวยังหวังจะได้เห็นกีฬาเปตองได้จัดการแข่งขันในซีเกมส์ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ และพร้อมจะทำทุกทางเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวนักกีฬา และต่อประเทศชาติ