กรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย แข่งขันที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีชาติในเอเชีย ส่งนักกีฬาผู้สูงอายุเข้าร่วม ผลงานทีมชาติไทย "สว่าง จันทร์พราหมณ์" วัย 103 ปี เจ้าของผลงาน 4 เหรียญทองสมัยที่ผ่าน เดินหน้าทำผลงาน เฉพาะวันนี้ ทำได้ 2 ทอง จาก ขว้างจักร และ วิ่ง 100 เมตร
การแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 22 ณ เมืองคาลร์ก ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีชาติต่างๆ ในเอเชียส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย บรูไน, จีน,ฮ่องกง,ไต้หวัน,ญี่ปุน, มองโกเลีย,มาเลเซีย,อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, คาซัคสถาน, ศรีลังกา และไทย แข่งขัน 7-12 พ.ย. สำหรับประเทศไทย
ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 52 คน โดยมี สว่าง จันทร์พราหมณ์ อายุ 103 ปี เจ้าของ 4 เหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 21 และเป็นนักกีฬาชายที่อายุมากที่สุดของการแข่งขันในรายการนี้ลงแข่งขันด้วย
โดยวันแรกของการแข่ง ( 8 พ.ย. ) นักกรีฑาผู้สูงอายุไทยได้มา 12 เหรียญทอง ส่วนวันที่ 2 ของการแข่งขัน ( 9 พ.ย.) ในชนิดกีฬา "ขว้างจักร" รุ่นอายุ 100-104 ปี ที่มี สว่าง จันทร์พราหมณ์ วัย 103 ปี ลงแข่งขัน หลังจากที่ทำผลงานเหรียญทองแรกจาก ทุ่มน้ำหนักมาครอง สำหรับรายการที่ 2 คือ ขว้างจักร สว่าง จันทร์พราหมณ์ ขว้าง 3 ครั้ง และสถิติที่ดีที่สุดคือ 8.97 เมตร ทำผลงานเหรียญทองที่ 2 มาครอง ส่วนการลง ลงแข่งขันรายการที่ 3 คือ วิ่ง 100 เมตร รุ่นอายุ 100-104 ปี สว่าง จันทร์พราหมณ์ ทำผลงาน
เหรียญทองที่ 3 มาครองได้อีกเหรียญ
ส่วนนักกีฬาหญิง สมสง่า บุญนอก แชมป์โลกกระโดดไกล รุ่นอายุ 65-69 ปี ลงแข่งขันในรายการที่ 2 กระโดดสูง เรียกความสูงแค่ครั้งเดียว 1.10 เมตร ที่เหลือขอสละสิทธิ์ ในขณะที่คู่แข่งอีก 6 ชาติกระโดดในระยะนี้ไม่ผ่าน ส่งผลให้ สง่า บุญนอก ทำผลงานเหรียญทองที่ 2 มาครอง หลังจากที่คว้าเหรียญทองจากทุ่มน้ำหนักมาได้จากการแข่งขันเมื่อวานนี้ ( 8 พ.ย.)
สว่าง จันทร์พราหมณ์ ทำผลงาน เหรียญทองที่ 3 การแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 22 ณ เมืองคาลร์ก ประเทศฟิลิปปินส์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง