พาไปรู้จักแข้งป้ายแดง 'วาตารุ เอ็นโดะ' ดีกรีกองกลาง ทีมชาติญีปุ่่น และกัปตันทีม ม้าขาว สตุ๊ตการ์ท ปิดดีลย้ายร่วมทีม 'ลิเวอร์พูล' เป็นที่เรียบร้อย เตรียมรับชมผลงานในถิ่นแอนฟิลด์
ปิดดีลเรียบร้อย หลังจาก "ลิเวอร์พูล" ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตกเป็นข่าวต้องการคว้าตัว นักเตะตำแหน่งกองกลางตัวรับ เพื่อหามาทดแทนแข้งที่ย้ายทีม ในฤดูกาล 2023-24 โดย หงส์แดง วางเป้าหมายไว้ถึง 2 ผู้เล่น แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ต้องอกหัก ทั้ง มอยเซ ไกเซโด้ และ โรเมโอ ลาเวีย ที่เลือกย้ายไปร่วมทีม เชลซี ทีมคู่แค้นร่วมลีก
แต่ไม่นานเกินรอเมื่อ "ลิเวอร์พูล" ได้ปิดดีลเซอร์ไพรส์นักเตะรายใหม่ เข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์ บรรลุข้อตกลงคว้าตัว "วาตารุ เอ็นโดะ" แข้งสายเลือดซามูไร ทีมชาติญี่ปุ่น ชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022 มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย
โดยวันนี้ "คมชัดลึก" จะพาไปรู้จักแข้งใหม่ป้ายแดง "วาตารุ เอ็นโดะ" นักเตะญี่ปุ่นรายนี้ให้มากขึ้น
"วาตารุ เอ็นโดะ" กองกลางทีมชาติ ทีมชาติญี่ปุ่น เกิดวันที่ 9 ก.พ. ปี 1993 ปัจจุบันอายุ 30 ปี เกิดที่เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาวะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสโมสรล่าสุด คือ สตุ๊ตการ์ท ทีมในศึก บุนเดสลีกา เยอรมนี ซึ่ง เอ็นโดะ เริ่มเล่นชุดเยาวชนของ สโมสร โชนัน เบลมาเร่ เมื่อปี 2008
ต่อจากนั้นพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องทำให้ โชนัน มอบสัญญาถาวรให้กับตัวเขา ซึ่ง เอ็นโดะ ลงเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ด้วยเวลาถึง 5 ฤดูกาล ลงสนาม 153 นัด ทำ 23 ประตู ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปทีมใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง อูราวะ เรด ไดมอนส์ เมื่อปี 2016 โดยเขาก็ไม่หยุดพัฒนาลงสนาม 73 นัด ทำ 5 ประตู และเมื่ออายุ 25 ได้ตัดสินใจย้ายไปเล่นในยุโรปครั้งแรก ร่วมทีม แซงต์-ทรุยด็อง ในลีกเบลเยียม หลังจากนั้น ปี 2019 เอ็นโดะ ก้าวขึ้นไปอีกหนึ่งระดับเมื่อ สโมสร สตุ๊ตการ์ท ทำสัญญายืมตัวเขาไปร่วมทีม ก่อนที่ภายหลังจะได้สัญญาถาวรกับทีมเมืองเบียร์ โดยลงเล่นทั้งหมด 133 นัด ทำ 15 ประตู 2 แอสซิสต์ และมีโอกาสขึ้นสู่กัปตันของทีม ก่อนจะบรรลุข้อตกลงย้ายร่วมทีม "ลิเวอร์พูล" ในปี 2023
ในนามทีมชาติ "วาตารุ เอ็นโดะ" ผ่านการรับใช้ ทีมชาติญีปุ่น ตั้งแต่ ชุดU19 , ชุดU23 , ชุดโอลิมปิก ปี 2021 และ ลงเล่น ทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2015 ได้รับเรียกติดทีมลุยฟุตบอลโลก 2 สมัย คือ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย และล่าสุด ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ลงสนามทั้งหมด 50 นัด ทำ 2 ประตู
อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามผลงานของ "วาตารุ เอ็นโดะ" ผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดีย IG : endowataru
CREDIT PHOTO : AnfieldEdition , endowataru , pinterest
ข่าวที่เกี่ยวข้อง