'ลูตัน ทาวน์' จากทีมนอกลีก สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่สู่เวที พรีเมียร์ลีก

"ลูตัน ทาวน์" กลายเป็นทีมโควต้าสุดท้ายคว้าตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นสู้ เวที พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังจาก เอาชนะการดวลจุดโทษ โคเวนทรี 6-5 ในเกม เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ นัดเพลย์ออฟ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 66 

 

โดย"ลูตัน ทาวน์" อีกหนึ่งทีมเก่าแก่จากเกาะอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ มณฑลเบดฟอร์ดเชียร์ ห่างจาก ลอนดอนราว ๆ 30 กิโลเมตร ก่อตั้งสโมสรตั้งแต่ปี 1885 หรือเมื่อ 138 ปีที่แล้ว ซึ่งมีฉายาว่า เดอะ แฮตเตอร์ส หรือ ช่างทำหมวก (the hatters) โดยสมัยนั้นชาวเมืองมีการเปิดอุตสาหกรรมผลิตหมวกเป็นจำนวนมาก 

 

 

สำหรับ "ลูตัน ทาวน์" เคยมีเวลาที่รุ่งโรจน์หากย้อนกลับไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน พวกเขาอยู่ในเส้นทางลีกสูงสุด หรือ ดิวิชั่น 1 นับเป็นเวลากว่า 10 ฤดูกาลติดต่อกัน ก่อนในปี 1991-92 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้าย ก่อนจะมีการก่อตั้ง พรีเมียร์ลีก ขึ้น ซึ่ง เดอะ แฮตเตอร์ส ทำผลงานน่าผิดหวังเป็นหนึ่งในทีมตกชั้น ต้องไปเล่นใน ดิวิชั่น 1 

 

"ลูตัน ทาวน์" ต้องเผชิญหน้ากับผลงานตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เมื่อต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกรอง ทั้ง ลีกวัน และ ลีกทู ตามลำดับ ในช่วง ทศวรรษที่ 90 ก่อนที่ ฤดูกาล 2004-05 ลูตัน ทาวน์ เหมือนเริ่มเห็นแสงสว่างอีกครั้ง เมื่อพวกเขาทำผลงานคว้าแชมป์ ลีกวัน ได้สำเร็จจากผลงาน ชนะ 29 เสมอ 11 แพ้ 6 เก็บได้ถึง 98 คะแนน ขึ้นสู่ เวที เดอะแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ได้สำเร็จ  

 

แต่ดีใจได้เพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น "ลูตัน ทาวน์" กลับเข้าสู่มุมมืดอีกครั้ง เมื่อ ฤดูกาล 2006-07 เดอะ แฮตเตอร์ส จบอันดับ 23 ของตาราง ตกชั้นสู่ ลีก วัน อีกครั้ง และครั้งนี้ผลงานย่ำแย่ที่สุดเมื่อ จบอันดับตกชั้น 3 ซีซั่นติดต่อกัน 2007 - 2009 

 

ระหว่าง 3 ฤดูกาลที่ ลูตัน ตกชั้นรวดยังเผชิญหน้ากับการถูกลงโทษจากการติดสินบนเอเยนต์นักเตะและได้รับโทษตัด 10 คะแนนในฤดูกาล 2007-08 ระหว่างที่พวกเขาอยู่ในลีกวันจนส่งผลให้ทีมจมบ๊วย ต่อด้วยผลพวงจากคดีเดียวกันและการบริหารการเงินที่ผิดพลาดอีก 30 คะแนนในฤดูกาล 2008-09 ระหว่างที่ทีมอยู่ใน ลีกทู เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เดอะแฮตเทอร์ส จบซีซันนั้นด้วยการเป็นอันดับสุดท้ายของตารางคะแนน หล่นสู่ คอนเฟอเรนซ์ลีก (ชื่อเดิม) หรือ วานารามา เนชันแนลลีก ในปัจจุบัน และกลายเป็นทีมนอกลีกอย่างเต็มตัวในปี 2009

 

 

 

 

หลังกลายสถานะเป็นทีมนอกลีกอย่างเต็มตัว พวกเขาต้องประคับประคองทีม ไม่ได้มีการเสริมทัพที่หวือกวา อาศัยใช้นักเตะท้องถิ่นลงสนามแข่งขันในคอนเฟอเรนซ์ลีก ลงเล่นในลีกแห่งนี้อยู่ถึง 5 ซีซั่น ก่อนที่ในฤดูกาล 2013-14 จะได้ยินชื่อของ "ลูตัน ทาวน์" ที่สามารถคว้าแชมป์คอนเฟอเรนซ์ เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาอยู่ในลีกทู สำเร็จ

 

"ลูตัน ทาวน์" ใช้เวลา 4 ฤดูกาล ในการลงเล่น ลีกทู ก่อนที่จะสามารถคว้าตำแหน่ง รองแชมป์ เมื่อฤดูกาล 2017-18 กับผลงาน ชนะ 24 เสมอ 11 แพ้ 8 เก็บได้ 83 คะแนน คว้าโควต้าสู่ ลีกวัน ได้สำเร็จ ผลงานต่อยอดครั้งนี้ นำไปสู่การ คว้าแชมป์ ลีกวัน ด้วยการชนะ 27 เสมอ 13 แพ้ 6 เก็บได้ถึง 94 คะแนน ในฤดูกาลการถัดมา 2018-19 ทำให้พวกเขา ขึ้นสู่  เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ 

 

ทั้งนี้ "ลูตัน ทาวน์" หรือ เดอะ แฮตเตอร์ส มีโอกาสลุ้นเลื่อนชั้นขึ้นสู่เวที พรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านี้ เมื่อฤดูกาล 2021-22 เมื่อพวกเขาจบอันดับ 6 ของตาราง ได้เข้ารอบเพลย์ออฟ แต่ก็พ่ายพ่ายให้กับ ฮัดเดิลฟิลด์ทาวน์ สกอร์รวม 1-2  

 

แต่การพยายามของพวกเขาก็มาสำเร็จในฤดูกาล 2022-23 ทำผลงาน 46 นัด ชนะ 21 เสมอ 17 แพ้ 8 เก็บได้ 80 คะแนน จบอันดับ 3 ของตาราง เข้าสู่รอบเลพย์ออฟ พบกับ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนจะสามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-2 เข้ารอบชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟเลื่อนชั้น และก็สามารถเอาชนะ โคเวนทรี ในการดวลจุดโทษ 6-5 คว้าตั๋วเลื่อนชั้น ตาม เบิร์นลีย์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2023-24  

 

สำหรับผลงาน "ลูตัน ทาวน์" โดยการทำทีมของ  ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ กุนซือวัย 40 ปี รวมถึง คีย์เพลย์เยอร์ :  คาร์ลตัน มอร์ริส ทำ 20 ประตู 7 แอสซิสต์ และ เอไลจาห์ อเดบาโย่ ทำ 8 ประตู  

CREDIT PHOTO : Luton Town Football Club