ข่าว

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ควันหลง "ฟุตบอลทีมชาติไทย" เปิดศึกวิวาท เกมนัดชิงชนะเลิศ "ซีเกมส์ 2023" จบผลงานด้วยเหรียญเงิน "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม ฟาดซ้ำ ไหนว่าบอลไทยไป บอลโลก มีแต่บอลไทยไปมวยโลก ด้าน "ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์" ติงพากแพ้แบบมีศักดิ์ศรีรับได้ แต่เกมที่เกิดขึ้นสะท้อนบอลไม่มีทรง

สมชาย ชวยบุญชุม  อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย และอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลในลีกอาชีพ  ให้สัมภาษณ์กับ "คมชัดลึก" ว่า   ผลงานของ "ฟุตบอลทีมชาติไทย"  ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 "ซีเกมส์ 2023"   ด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศฟุตบอลชาย  (เหรียญเงิน )  หากประเมินจากผลลัพธ์ที่ออกมา ในขณะที่เป้าหมายเดิมที่วางไว้ก่อนการแข่งขันคือ ตำแหน่งชนะเลิศหรือเหรียญทอง เห็นว่านี่คือความล้มเหลวอย่างแท้จริง แม้ว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะแสดงความมั่นใจ ผ่านการออกแถลงการณ์ว่า "ทีมชาติไทย"  ชุดนี้ มีโอกาสที่จะยกระดับต่อการพัฒนา เพื่อทำผลงานก็ตาม

 

 

 


"ฟุตบอลทีมชาติไทย" ทีมชาย ซึ่งใช้ผู้เล่นรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี   "ทีมชาติไทย U22"    ทำผลงานในฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 32 "ซีเกมส์ 2023 " จบตำแหน่งรองชนะเลิศ หรือ เหรียญเงิน โดยผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้  เป็นการชนะ 3  เสมอ 1 รอบแบ่งกลุ่ม ส่วนรอบ 4  ทีมสุดท้าย  ไทย เอาชนะ เมียนมา 3 - 0  และ รอบชิงชนะเลิศ ไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2 - 5   ซึ่งเป้าหมายก่อนเข้าร่วมการแข่งขัน   คือ ความคาดหวังไปที่เหรียญทอง หรือชนะเลิศ  หรือทวงตำแหน่งชนะเลิศ ในขณะที่การแข่งขันซีเกมส์ 2022  ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม ในปี 2565 ทีมชาติไทยขณะนั้น ทำผลงานรองชนะเลิศ ในขณะที่ชนะเลิศได้แก่เวียดนาม    

 

 

 

" ผมติดตามการแข่งขันตลอดเวลา เอาใจช่วยทีมชาติไทย เพราะเราคนไทย อย่าคิดว่าผมทับถม  แต่สิ่งที่ผมเห็นในเกมนี้   นักฟุตบอลของเราสมาธิไม่ได้ ต้องปรับปรุง   ที่แพ้ให้กับอินโดนีเซียเงื่อนไขส่วนหนึ่งก็คือสภาพร่างกาย  เล่นไปสภาพไม่ได้ สมาธิอ่อนไหว  และเพราะสมาธิมันก็ลุกกลามกลายเป็นใบแดง ลุกลามจนกลายเป็นเรื่องทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกันในสนาม เราบอกว่าฟุตบอลไทยพัฒนาขึ้น  เรามีระบบฟุตบอลอาชีพ แล้วที่เห็นคืออะไร นี่มันบอลไทยไปมวยโลก เราเห็นถึงฟุตบอลทีมชาติยกพวกตีกัน มันควรจะเกิดขึ้นแบบนั้นหรือ  เรื่องนี้ผมขอตำหนิไปถึงคนคุมทีม  อารมณ์มันมีกันทุกคน แต่นี่คือฟุตบอลทีมชาติ    สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้ชื่อเสียงประเทศชาติเสียหาย ใครรับได้ก็รับ แต่ผมอายแทน ที่เห็นภาพแบบนี้ในสนาม " 

 

 

 

เขา  กล่าวว่า การที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ระบุถึงคุณภาพทีมชาติไทยชุดนี้ว่า มีโอกาสที่จะยกระดับ หรือการที่อ้างว่าฟุตบอลแพ้ชนะกันได้ อยากให้พิจารณาในประเด็นนี้ว่า หากแพ้ควรที่จะแพ้แบบมีศักดิ์ศรี ควรที่จะแพ้ในแบบที่สู้ได้ ไม่ใช่เป็นการแพ้ในแบบที่หมดทางสู้   " ที่ผมสงสัยคือ เล่นกันในสนามจนเหลือ  7 คน  นี่หรือ ทีมชาติไทย ผมเห็นแล้วสงสาร ไหนบอกว่าจะสานฝันไปบอลโลก   พละกำลังเราสู้ไม่ได้เลย  เพราะไม่ได้ต่อว่าเรื่องพละกำลังในเกมที่เราเหลือเพียง 7  คน  แต่ระหว่างเกม ก่อนที่จะมาถึงช่วงทดเวลา  ก่อนที่จะต่อเวลาเพิ่มอีก 30 นาที สภาพทีมไม่ได้เลย  ในขณะที่อินโดนีเซีย พวกเขายังวิ่งได้อยู่ "  สมชาย ระบุ

 

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

สมชาย ชวยบุญชุม  อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย และอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลในลีกอาชีพ  

 

ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย , อดีตโค้ชสโมสรฟุตบอลอาชีพ  ปัจจุบันทำหน้าที่วิทยากรฝึกอบรม เพื่อพัฒนาสู่การเป็นโค้ชฟุตบอล ให้สัมภาษณ์กับ  "คมชัดลึก"ว่า ภาพการทะเลาะวิวาทระหว่างทีมชาติไทย และทีมชาติอินโดนีเซีย  ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซีเกมส์ 2023 ถือเป็นความอับอายอย่างยิ่ง ทั้งไทยและอินโดนีเซียที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น   สำหรับไทยเท่ากับว่าหนีไม่พ้นคำว่า " บอลไทย ไปมวยโลก" และคิดว่านี่คือความล้มเหลวในการบริหารและควบคุมสถานการณ์ในเกม จนกลายเป็นการวิวาท   การถ่ายทอดสดการแข่งขันเผยแพร่ออกไป คือการทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง ที่นักกีฬาและผู้เกี่ยวข้อง เข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์

 

 

 


ความพ่ายแพ้ของฟุตบอลทีมชาติไทย หากแพ้อย่างมีศักดิ์ศรีหรือแพ้ในแบบที่สู้ได้  ก็เชื่อว่าทุกคนจะยอมรับได้ เพียงแต่สภาพเกมที่เกิดขึ้นเห็นว่า เป็นการแพ้ในเชิงเทคนิค แพ้ในเชิงรูปแบบการเล่น  ชื่อของ "ทีมชาติไทย"  ในระดับอาเซียนคือทีมที่ทุกชาติต้องกลัว เพราะความแข็งแกร่งของคุณภาพทีม ที่สร้างเอาไว้  ขณะเดียวกันทีมชาติไทยชุดนี้ U22  คือ ทีมที่จะก้าวต่อไป เพื่อขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ แต่คุณภาพการเล่นในทัวร์นาเมนต์ซีเกมส์ ยังไม่สามารถหาคำตอบได้เลย

 

 

 

" สไตล์การเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศ  การเล่นบอล มันไม่มีแบบแผน บอลรุก บอลรับ ในแต่ละโซน เราไม่ได้เลย การครองบอลในพื้นที่ 18 หลา  เราทำไม่ได้  บอลในพื้นที่ 20 หลา 30 หลา เราถูกมาร์ค แต่ก็ยังส่งบอลไป   อินโดนีเซียเขาก็ตัดบอลได้  เล่นกันเหมือนไม่ได้ซ้อม ไม่มีอะไร สร้างบอลที่เป็นอัติโนมัติให้เห็นคอนเซปต์  เล่นเป็นบอลนักเรียนเล่นบอลกันแบบแคบ เขาก็ตัดบอลได้ง่าย  แนวความคิดประสบการณ์เรา  เป็นบอลเด็กไปเลย"

 

 


ไพบูลย์ กล่าวว่า  ก่อนที่จะเหลือผู้เล่นเพียง 7  คน ผู้ที่ดูแลทีม (โค้ช) ต้องตระหนักแล้วว่า จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้โครงสร้างทีมสูญเสีย การได้รับใบเหลือง และใบแดง จนทีมเหลือผู้เล่นในสัดส่วนที่เล่นในเกมในแบบยากลำบากแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น  เรื่องความเครียดความกดดัน เข้าใจได้ว่าเกิดกับทุกคน  นักกีฬาไม่อยากแพ้  โค้ชไม่อยากแพ้   กองเชียร์อยากเห็นทีมชนะ แต่คำตอบจากเกมนัดชิงชนะเลิศ เห็นได้ในหลายสิ่งที่เป็นเหมือนข้อจำกัด  อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน และผ่านเลยไปไม่ได้เพราะนี่คือฟุตบอลทีมชาติไทย การลงทำหน้าที่ของทุกคน ตั้งแต่หัวหน้าทีมไปจนถึงนักกีฬา สตาฟทีม ทั้งหมดคือการทำหน้าที่ภายใต้ทีมชาติไทย  ไพบูลย์ ระบุ 

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย , อดีตโค้ชสโมสรฟุตบอลอาชีพ  ปัจจุบันทำหน้าที่วิทยากรฝึกอบรม เพื่อพัฒนาสู่การเป็นโค้ชฟุตบอล

.

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

คนวงการสับแหลก 'ฟุตบอลทีมชาติไทย' สร้างชื่อไปมวยโลก ปมวิวาทนัดชิง ซีเกมส์

ฟุตบอลทีมชาติไทย จบผลงานในฟุตบอลซีเกมส์ ด้วยการแพ้ให้กับทีมชาติอินโดนีเซียนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลซีเกมส์ 2023 ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา 

.

ขอขอบคุณภาพ จาก 

https://www.facebook.com/thammaphat.wongwanich

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ