กกท.เคาะ'ซีเกมส์ 2023' ชนิดกีฬาสากลเทียบโอลิมปิก ชิง181 เป้า 79 เหรียญทอง

ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ครั้งที่ 3/2566 โดยมีพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และคณะกรรมการฯ ร่วมประชุม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์      ทั้งนี้ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันกีฬา"ซีเกมส์2023" ครั้งที่ 32 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา  แข่งขันระหว่างวันที่ 5 – 17 พ.ค.

 

 

 

ทั้งนี้"ซีเกมส์ 2023"  มีการแข่งขันทั้งสิ้น 38 ชนิดกีฬา 584 เหรียญทอง  การเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬา  เริ่มตั้งแต่  1 ก.ค. 65 – 2 พ.ค. 66 รวม 306 วัน งบประมาณรวม  165  ล้านบาทเศษ    ด้านการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ กกท. ได้ประเมินผลศักยภาพนักกีฬาที่คาดการณ์ได้เหรียญรางวัลออกเป็น ดังนี้  1)เหรียญรวมในชนิดกีฬาสากล เฉพาะประเภทที่จัดแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก (20 ชนิดกีฬา) มีรายการชิงเหรียญทั้งหมด 181 เหรียญทอง คาดการณ์ ประเทศไทยได้ 79 เหรียญทอง

 

 

2) เหรียญรวมในชนิดกีฬาสากล (20 ชนิดกีฬา) มีรายการชิงเหรียญทั้งหมด 293 เหรียญทอง คาดการณ์ประเทศไทยได้ 108 เหรียญทอง  3) เหรียญรวมเฉพาะชนิดกีฬาที่ส่งแข่งขัน มีรายการ ชิงเหรียญทั้งหมด 528 เหรียญทอง คาดการณ์ประเทศไทยได้ 164 เหรียญทอง 4) เหรียญรวมทุกชนิดกีฬา มีรายการชิงเหรียญทั้งหมด 584 เหรียญทอง คาดการณ์ประเทศไทยได้ 164 เหรียญทอง 

 

 

อภิรักษ์ เผ่าเจริญ กรรมการสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย แถลงกับสื่อมวลชนว่า  เป็นครั้งแรกของกีฬาซีเกมส์มีจัดแข่งขันเจ็ตสกี   ชิง 6 เหรียญทอง ปัญหาและอุปสรรคของกัมพูชาเจ้าภาพคือ กฎกติกาที่ไม่แน่นอน  มีการเปลี่ยนไป-มา เช่น การส่งแข่งขันเดิมที่ส่งได้รุ่นละ 2 คน  รวม  6 รุ่น 12 คน แต่เจ้าภาพมาปรับกติกาใหม่ ให้ส่งได้ 10 คน ใน 6 รุ่น ดังนั้นต้องมาเกลี่ยนักกีฬาในแต่ละรุ่น  สำหรับทีมชาติไทยในกีชนิดนี้ ตั้งเป้าไว้   4 เหรียญทอง 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ครั้งที่ 3/2566

.

ขอขอบคุณภาพ จากการกีฬาแห่งประเทศไทย