ข่าว

"โรนัลโด" วืดประเดิมแชมป์แรก "อัลนาสเซอร์" หลังพ่ายตัดเชือก ซูเปอร์คัพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"คริสเตียโน โรนัลโด" ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส ของ "อัลนาสเซอร์" ต้องอกหักเมื่อบุกพ่าย อัล-อิตติฮัด 1-3 ชวดเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอล ซูเปอร์คัพ

"คริสเตียโน โรนัลโด" ความหวังล่าแชมป์สมัยแรกกับ "อัลนาสเซอร์" สโมสรต้นสังกัดใหม่ หลังย้ายมาร่วมทีมได้ไม่นานต้องหยุดไปก่อน เนื่องจากล่าสุด พาทีมบุกพ่าย อัล-อิตติฮัด ไปแบบหมดท่า 1-3 ในศึก ฟุตบอล ซาอุดิอาระเบีย ซูเปอร์คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนาม คิง ฟาห์ด อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม ณ กรุงริยาด ที่จบการแข่งขันเมื่อคืนที่ผ่านมา 

 

 

โดยเกมดังกล่าว แม้ว่า "อัลนาสเซอร์" ต้นสังกัดของ "คริสเตียโน โรนัลโด" จะโหมบุกเข้าใส่เจ้าถิ่น  อัล-อิตติฮัด รวมถึงมีโอกาสจบสกอร์มากถึง 17 ครั้ง และครอบครองบอลกว่า 64 เปอร์เซ็น แต่ก็ไม่อาจเป็นฝ่ายได้เปรียบบุกพ่ายต่อ  อัล-อิตติฮัด ไปด้วยสกอร์ 1-3 โดยได้ประตูตีไข่แตกจาก ทาลิสก้า ในนาทีที่ 67  ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก โรมารินโญ นาทีที่ 15 , อับเดอร์ราซัค ฮัมดอลลอฮ์ นาทีที่ 43 และ มูฮันนาด มุสตาฟา อัล-ชานกีตี นาทีที่ 90+3  

 

 

 

สำหรับ  "คริสเตียโน โรนัลโด" ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกส หลังย้ายถิ่นฐานค้าแข้งสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ด้วยสัญญา 2 ปีครึ่ง พร้อมรับค่าเหนื่อยปีละกว่า 200 ล้านยูโร มาร่วมทีม "อัลนาสเซอร์" ทีมดังในศึก ซาอุดิอาระเบีย ที่ลงสนามอย่างเป็นทางการ 2 นัดที่ผ่านมากับ  อัลนาสเซอร์ นัดแรกในลีก เกมเปิดบ้านชนะ  อัล เอตติฟัด 1-0 และ เกมซูเปอร์คัพ บุกพ่าย อัล-อิตติฮัด 1-3 สตาร์ชาวโปรตุเกสยังไม่สามารถประเดิมประตูแรกได้ 

 

แต่  "คริสเตียโน โรนัลโด" ยังคงมีลุ้นคว้าแชมป์กับต้นสังกัดอีกถึง 2 รายการ ประกอบด้วย ในรายการฟุตบอลลีก ซึ่ง  "อัลนาสเซอร์" นำเป็นจ่าฝูงของตาราง หลังผ่าน 14 นัด มี 33 คะแนน นำหน้าทีมอันดับ 2 อัล ฮิลาล ที่แข่งมากกว่า 1 นัด มี 32 คะแนน  ส่วนอีกรายการ เป็นฟุตบอล คิงส์ คัพ ซึ่ง  "อัลนาสเซอร์" ผ่านเข้าสู่รอบ ก่อนรองชนะเลิศ หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปพบกับ ฮับฮา ทีมร่วมลีก 

 

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งรายการสำคัญ ฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ซึ่งหาก "อัลนาสเซอร์" คว้าแชมป์ลีก หรือ ฟุตบอลถ้วยได้ พวกเขาจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี ในฤดูกาลหน้า 

"โรนัลโด" วืดประเดิมแชมป์แรก "อัลนาสเซอร์" หลังพ่ายตัดเชือก ซูเปอร์คัพ

CREDIT PHOTO : AlNassr Saudi

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ