17 ปี "แกเร็ธ เบล" ถึงวันสิ้นสุดเส้นทาง

"แกเร็ธ เบล" ปีกจอมกระชาก อดีตแข้งจาก "เรอัล มาดริด" และ ตำนาน ทีมชาติเวลส์ ตัดสินยุติอาชีพค้าแข้ง หลังผ่านสมรภูมิลูกหนังอาชีพมากว่า 17 ปี กับความสำเร็จมากมาย 

 

โดย "แกเร็ธ เบล" ลงทำผลงาน พาทัพ มังกรแดง ทีมชาติเวลส์ ผ่านเข้าสู่ ศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นเจ้าภาพ ได้ในรอบ 64 ปี ก่อนจบผลงานรายการสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งที่รอบแบ่งกลุ่ม และ ประกาศเลิกเล่นผ่านสื่อโซเชียลมีเดียส่วนตัวอย่างเป็นทางการให้กับทุกคนได้ทราบกันถ้วนหน้า 

จุดเริ่มต้น 

"แกเร็ธ เบล" เกิดวันที่ 16 กรกฎาคม ปี ค.ศ.1989 ที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ โดย แม่ เดบบี้ เบล และ พ่อ แฟรงก์ เบล มีสมาชิกในครอบครัว 2 คน คือ วิกกี้ เบล และ แกเร็ธ เบล  ซึ่ง แกรเร็ธ เบล ได้เริ่มเรียนประถมที่ โรงเรียนวิทเชิร์ช ในเมือง คาร์ดิฟฟ์ โดยตัวเขานั้นมีความชื่นชอบกีฬาทั้ง ฟุตบอล รวมถึง รักบี้ อีกด้วย โดยเมื่อเขาเลือกเล่นฟุตบอล โดยมีสโมสร จากอังกฤษ "เซาแธมป์ตัน" ให้ความสนในตัวเขาอยู่ และได้ให้เข้าร่วมอะคาเดมี่ เมื่ออายุได้ 9 ขวบ จนกระทั่ง เบล เรียนจบมัธยมศึกษา 

 

เซาแธมป์ตัน 

"เซาแธมป์ตัน" ได้ประกาศมอบสัญญาให้กับ "แกเร็ธ เบล" ในวัยเพียง 16 ปี ซึ่งเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย โดย เบล ลงประเดิมสนามครั้งแรกในสีเสื้อ นักบุญ เมื่อปี 2006 ในศึก เดอะแชมป์ชิพ อังกฤษ และตัวเขาเองนั้นเริ่มเป็นที่รู้จักกับบรรดาแฟนคลับของทีม ในภาพลักษณ์นักเตะที่มีความเร็ว และ มีการยิงฟรีคิกที่แม่นยำ อย่างไรก็ตามเขาลงสนามไปทั้งสิ้นกับสโมสรแรก 45 นัด ทำ 5 ประตู 

 

ก้าวสำคัญในชีวิต  

"แกเร็ธ เบล" กลายเป็นดาวรุ่งในเวลานั้นที่พัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ ไก่เดือยทอง "ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์" ไม่รอช้าที่จะดึงตัวเขามาร่วมทีมช่วงซัมเมอร์ ปี 2007 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ หรือราว 2.8 แสนล้านบาท ซึ่งเขาไม่ทำให้ทีมใหม่ผิดหวัง กับการทำ 3 ประตูจาก 4 นัดที่ลงเล่นทำให้ ชื่อของ เบล กลายเป็นที่รู้จักชัดเจนยิ่งขึ้นในยุโรป กับวัยเพียง 18 ปี    

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ "แกเร็ธ เบล" ไม่หยุดพัฒนาตัวเองยกระดับความเป็นเลือด ซูเปอร์สตาร์ และพรสวรรค์ ในตัวเองเขาได้ขยับตำแหน่ง จาก แบ็กซ้าย มาเป็นปีกธรรมชาติ ด้วยความสามารถและความเร็วอันทรงพลัง โดยที่ ฤดูกาล 2012-13 เบล ขึ้นถึงจุดพีคกับ ไก่เดือยทอง โดยทำประตูมากที่สุดถึง 25 ประตูในเพียงฤดูกาลเดียว ถึงแม้ว่าการกลับมาของ เบล ในการเล่นให้กับ ไก่เดือยทองอีกครั้ง ในช่วงฤดูกาล 2020-21 จนสร้างเสียงปรบมือให้กับแฟน โดยการทำถึง 11 ประตูก็ตาม อย่างไรก็ตาม เบล ทำผลงานกับ สเปอร์ส ลงสนาม 237 นัด ทำ 72 ประตู 

การตัดสินใจเพื่อแชมป์เปี้ยนส์  

"แกเร็ธ เบล" ไม่อาจเก็บความกระหายที่จะชูถ้วยเกียรติยศ โดยเขาได้รับการติดต่อจากยอดทีมจากสเปน ราชันชุดขาว "เรอัล มาดริด" ก่อนจะคว้าตัวร่วมทีมด้วยมูลค่า 86 ล้านปอนด์ หรือราว 3.5 พันล้านบาท ในปี 2013 กลายเป็นค่าตัวสถิติโลกในเวลานั้น ทำลายสถิติค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ของเพื่อนร่วมทีมอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ที่ย้ายมร่วมทีม หลังจากซื้อตัวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2009   

 

โดยเวลานั้น การคว้าตัว "แกเร็ธ เบล" ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ  และขุมกำลังของ เรอัล มาดริด ตอนนั้นทั้ง อิเค กาซิยาส , เซร์คิโอ รามอส , ลูก้า โมดริช , อังเคล ดิมาเรีย , คริสเตียโน โรนัลโด รวมถึง คาริม เบนเซมา ทำให้พา เรอัล มาดริด ครองแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 4 สมัย ภายในเวลาเพียง 5 ปี  อย่างไรก็ตาม เบล ลงสนามทั้งสิ้น  258 นัด ทำ 106 ประตู 

รอยร้าวที่มาดริด 

ในยุคการคุม"เรอัล มาดริด" ของ ซีดาน ซีดาน กุนซือ ถึงแม้ว่า "แกเร็ธ เบล" ที่เป็นตัวหลักของทีมแต่การมีฉายา "the golfer" ในขณะนั้นซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอล เนื่องจาก เบล ที่ดูเหมือนจะให้เวลากับการออกรอบตีกอล์ฟจนทำให้ ฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่ง ซีดาน เคยกล่าวไว้ว่า " จะไม่ห้ามนักฟุตบอลคนอื่น ๆ กับการมีกิจกรรมเนื่องจาก เขารู้ว่าอะไรที่ควรทำในเวลาไหน ก็ขึ้นอยู่ที่นักเตะจะเลือก " โดยสืบเนื่องในฤดูกาลสุดท้ายของ เบล กับ เรอัลมาดริด ฟอร์มของเขาต้องดร็อปลงไป และ การมีปัญหาอาการบาดเจ็บมาร่วมด้วย โดยปี 2021-22 เบล ได้ลงสนามในลาลีกา สเปน เพียง 5 นัด และทำเพียง 1 ประตู 

ปิดฉากอาชีพค้าแข้ง 

"แกเร็ธ เบล" สร้างเสียงฮือฮาอีกครั้งเมื่อเขาตกลงจรดปากกาซบ แอลเอ เอฟซี ทีมดังในศึก เมเจอร์ลีก สหรัฐฯ ด้วยสัญญา 1 ปี โดยเขาลงสนามไปทั้งหมด 13 นัด ทำ 3 ประตู และคว้าแชมป์ลีกร่วมกับทีม ในฤดูกาล 2022 ก่อนตัดสินใจอย่างถี่ถ้วยประกาศลาวงการลูกหนังในวัยเพียง 33 ปี โดย เบล ได้ทิ้งท้ายบนสื่อโซเชียลมีเดียส่วนตัวไว้ว่า "มันถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง และมันจะเป็นการผจญภัยครั้งใหม่"  

สำหรับ ถ้วยรางวัล ประกอบด้วย

คว้าแชมป์ร่วมกับ "สเปอร์ส"  คว้าแชมป์ลีกคัพ 1 สมัย , "เรอัล มาดริด"  คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน ถึง 3 สมัย , แชมป์ โกปา เดล เรย์ 1 สมัย  , แชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 3 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ถึง 5 สมัย , แอลเอ เอฟซี คว้าแชมป์เมเจอร์ลีก 1 สมัย และ พา ทีมชาติเวลส์ เล่นฟุตบอลโลก 1 สมัย  

 

CREDIT PHOTO : SouthamptonPage , GarethBale11 , marca