"ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ได้เวลา 2 มือบิดไทยผงาดเวทีดวลความเร็ว

 

นับจากการเปิดตัวโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม"   โดยบริษัท  บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด    ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเยาวชนไทยอย่างเต็มรูปแบบ   เพื่อก้าวขึ้นไปสู่การเป็นนักแข่งจักรยานยนต์ชั้นนำ   เช่นเดียวกับชาติชั้นนำ ทั้ง สเปน และ อิตาลี ที่เลือกจะพัฒนาเยาวชนตั้งแต่อายุ 6 ขึ้นไป  จนส่งผลให้ทั้ง 2 ประเทศ มีบทบาทกับวงการความเร็ว  ผ่านการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก ( โมโตจีพี) 

 

 

เข้าสู่ปีที่ 3    โครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม"  เริ่มเห็นผลในทางบวก กับผลิตนักแข่งรถจักรยานยนต์  อันได้แก่   "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา วัย 22 ปี ที่โลดแล่นอยู่ในฤดูกาลที่ 3 ของรุ่น โมโตทู ชิงแชมป์โลกใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์   สมเกียรติ จันทรา เจ้าของรถแข่งหมายเลข 35 กำลังค้นหาสไตล์การบิดที่แข็งแกร่งของตนเองใน  "โมโตทู" กับต้นสังกัด "อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย" ก้าวเข้าสู่ฤดูกาลที่ 3  มีพัฒนาที่ก้าวกระโดด

 

 

เมื่อ สมเกียรติ  จันทรา  ปรับรูปแบบการทำงาน  จนสามารถสื่อสารกับทีมช่างชาวต่างชาติ ได้อย่างคล่องแคล่ว  จนทำให้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระหว่างนักขับ   กับทีมช่าง ( ทีมซัพอร์ท) ลงตัวมากยิ่งขึ้น  การซ้อมและปรับตัวในแต่ละสนาม นับตั้งแต่ที่ มูเจลโล ในอิตาลี ซึ่งเป็นเรซที่ 6 ของปีนี้  สมเกียรติ  เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการค้นหา "เรซเพซ" หรือ "ขีดความสามารถในการต่อสู้" สำหรับการแข่งขันระยะทางจริง

 

 

สมเกียรติ   ทำเวลาในการควอลิฟายติดท็อปเท็นได้ต่อเนื่อง ในช่วง 5 สนามที่ผ่านมา พร้อมยกระดับการแข่งขันในเรซอย่างชัดเจน ก่อนจะคว้าอันดับ 9 ที่ เซอร์กิต บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า สเปน, อันดับ 11 ที่ ทีที เซอร์กิต เอสเซ่น เนเธอร์แลนด์  ล่าสุด การขึ้นมาเขย่ากลุ่มหน้าและต่อสู้กับนักบิดระดับโลกหลายคน ก่อนคว้าอันดับ 8 มาครองในรายการ สตีเรียน กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนับเป็นผลงานที่ดีที่สุดใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่มือบิดรายนี้ทำได้  ถือเป็นการยกระดับตัวเองบน"โมโตทู"

 

 

 

 

 

 

 

                                                               สมเกียรติ  จันทรา  นักขับจักรยานยนต์ในรุ่นโมโตทู 

 

 

 

อีกราย ที่กำลังมาแรง "ก๊องส์" ธัชกร บัวศรี วัย 20 ปี อยู่ในรายการระดับจูเนียร์ชิงแชมป์โลกอย่าง "เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ" และ "เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ"   ธัชกร ออกสตาร์ทฤดูกาล 2020 ด้วยอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดทั้งปี ก่อนจะเริ่มสมบูรณ์ขึ้นในปีนี้ และเขาก็ตอบแทนความไว้วางใจของ "ฮอนด้า" ด้วยการพา "ธงชาติไทย" ขึ้นสู่โพเดี้ยมในการแข่งขันระดับโลกได้ถึง 2 ครั้ง ในรายการ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ

 

 

โพเดี้ยมแรกของ ธัชกร คือ การควบรถแข่งหมายเลข 5 คว้าอันดับ 3 ที่ ซัคเซนริง  ในเยอรมนี และล่าสุด คืออันดับ 2 จาก เรดบูลริง ออสเตรีย  จากผลงานทั้ง 2 เรซ ที่เรดบูลริง  ออสเตรีย   ดาวรุ่งไทยสร้างความประหลาดใจให้ผู้ที่ติดตามผลงาน  เมื่อเขามี "เรซเพซ" ที่แข็งแกร่ง คว้ากริดสตาร์ทอันดับ 4 มาครอง "ขึ้นนำ" ได้ทั้ง 2 เรซกว่าครึ่งทางการแข่งขัน มีจังหวะแซงและป้องกันตำแหน่งเหนียวแน่น

 

 

ผลงานในสนาม ทำให้มือบิดวัย 20 ปี ถูกจับตามองอย่างมาก และนี่คือการสร้างโอกาสเพื่อพาตัวเอง  ขึ้นสู่เกมในระดับที่สูงขึ้นอย่าง "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" ที่มีลำดับขั้นตั้งแต่ โมโตทรี, โมโตทู และระดับสูงสุดอย่าง "โมโตจีพี"   2 รายการระดับจูเนียร์ที่ ธัชกร ลงแข่งขันเป็นฤดูกาลที่ 2 มีอัตราป้อนนักบิดเข้าสู่วงการโมโตจีพีรวมกันมากกว่าร้อยละ 90%   ดังนั้นหากสร้างผลงานโดดเด่นในซีรีส์นี้ ก็มีโอกาสที่จะได้รับการโปรโมตขึ้นสู่รายการระดับ "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" ซึ่งมีโควต้าไม่ถึง 10 ที่ในแต่ละปี ของนักบิดที่ถูกผลักดันขึ้นไป

 

 

 

ด้วยผลงานที่โดดเด่นของ  สมเกียรติ  จันทรา  และ ธัชกร   บัวศรี   ทำให้ทั้งคู่ เป็นความหวังของ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ต่อการที่นักบิดและ"ธงชาติไทย" จะก้าวขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในอนาคต

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                           ธัชกร บัวศรี  นักขับเอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ