ครั้งแรกรอบ 21 ปี ไทยหลุดอันดับ 1  อาเซียน ครองเหรียญโอลิมปิก

 

 

กีฬาโอลิมปิกเกมส์ "โตเกียว 2020"  แข่งขันกันระหว่าง 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม   โดยประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 41 คนจาก 16 ประเภทใน 15 ชนิดกีฬา ผลงานที่ทำมาได้  คือ ได้ 1 เหรียญทอง จากเทควันโด ละ  1 เหรียญทองแดง จากมวยสากลสมัครเล่นหญิง โดยภาพรวมอันดับเหรียญในตาราง  จาก 200  ชาติ ที่เข้าร่วม ไทย  ได้อันดับที่ 59  ของตารางและอยู่อันดับที่ 3 ของอาเซียน เป็นรองฟิลิปปินส์ ที่ได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง (อันดับที่ 49) และอินโดนีเซีย ที่ทำได้ 1  เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง (อันดับ 54)

 

 

กรณีดังกล่าวของผลงานนักกีฬาทีมชาติไทย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี ที่ทีมนักกีฬาไทยไม่ได้ครองอันดับ 1 ของอาเซียน ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ขณะที่หากย้อนหลังไปในการแข้งขัน โอลิมปิก 2016 ที่บราซิล ครั้งนั้น ไทยได้มา 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน     และ 2 เหรียญทองแดง  จากกีฬายกน้ำหนัก และเทควันโด 

 

ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า  จากผลงานของนักกีฬาทีมชาติไทย  ที่ทำได้ไม่ดีนักกลายเป็นการบ้าน ที่ทำให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท. ) โดย ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.   เห็นควรถึง การวางแผนงานการเตรียมนักกีฬาสู่ "โอลิมปิก 2024" ที่ฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพ   ด้วยแผน “โรด ทู ปารีส 2024”   ทันที  เพราะมีเวลาเตรียมตัวจากนี้ไป เพียง  3 ปีเท่านั้น  

 

 

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ก็ยังเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ จะทำให้การพัฒนาและการฝึกซ้อมของนักกีฬาทำได้ไม่เต็มที่ โดยคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย จะวางแผนและหาสถานที่ฝึกซ้อมให้นักกีฬาที่เหมาะสม และปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนให้นักกีฬาได้ออกไปแข่งขันทั้งหาประสบการณ์ และการชิงโควตาโอลิมปิกเกมส์ให้ได้มากที่สุด

 

อย่างไรก็ตามมองว่า  ผลงานของนักกีฬาไทยถือว่าน่าพอใจแล้ว ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้นักกีฬาอีกจำนวนหนึ่ง ไม่สามารถแข่งขันเพื่อชิงโควตาให้ได้มากกว่านี้ ขณะเดียวกีฬาความหวังของไทยอย่าง ยกน้ำหนัก ก็ไม่มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ดังนั้นต้องชื่นชมว่านักกีฬาไทยทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุดแล้ว และเชื่อว่าในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส นักกีฬาไทยจะทำผลงานได้มากกว่า 1 เหรียญทอง