ข่าว

พัลลภโบกมือลาเสื้อแดงฉะจตุพรไม่ให้เกียรติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทักษิณ"จวกพันมิตรฯมั่วข่าวเยือนพระวิหารพร้อม"ฮุนเซน" ด้านชาวบ้านผวา"เหลือง-แดง"โผล่ปะทะที่เขาพระวิหาร ช่วง"ฮุนเซน"เข้าพื้นที่ทับซ้อน ขณะที่เลขานุการรมว.กต. เผย ไทยเตรียมรับ“ฮุนเซน”เยือน 4 จุด เชื่อไม่ดึงปัญหาชายแดนมาสร้างปัญหาให้ประชาชน

(5ก.พ.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าจะเดินทางไปเขาพระวิหารพร้อม สม เด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริงเพราะตอนนี้อยู่ดูไบพร้อมตำหนิว่าเป็นการโกหกที่ไร้ความคิด "แกนนำพันธมิตรฯบอกว่าผมจะไปทัวร์ชายแดนและไปเขาพระวิหารร่วมกับนายกฯ ฮุน เซน โถยังไม่เลิกข่าวมั่วและโกหกอีกหรือ ผมอยู่ดูไบไกลกัน 7 ชม.ไร้ความคิด?"

แหล่งข่าวตามแนวชายแดน แจ้งว่า กำหนดการเดินทางมาเขาพระวิหารของสมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชาพรุ่งนี้เป็นกำหนดเดิมที่เคยได้รับแจ้งมาก่อนแล้วว่าจะมาตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่บนชายแดนเขาพระวิหาร และมาติดตามว่าที่ประชาชนกัมพูชาได้บริจาคเงินส่วนตัวตั้งแต่ 1 เรียล ไปถึงล้านเรียลนั้นทหารได้ทำหน้าที่สมกับความเสียสละของประชาชน นอกจากนี้ยังมารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ที่ผ่านมาว่ากองทัพกัมพูชาเผชิญหน้าอะไรมาบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เหมือนกับที่ฝ่ายไทยเราก็มีผู้ใหญ่ทางกองทัพและฝ่ายรัฐบาลก็มาตรวจเยี่ยมกำลังพลอยู่เป็นประจำ

 แหล่งข่าว เปิดเผยว่า นอกจากภารกิจตรวจเยี่ยมกำลังพลบนเขาพระวิหารแล้วสมเด็จฮุน เซน ยังมีกำหนดการเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสร้างใหม่ของกองพลสนับสนุนที่ 3 และเปิดหมู่บ้านเดโช ที่บ้านสะแอม ต.กันตร๊วจ อ.ตะเปรียงปราสาท จ.พระวิหาร ที่เป็นหมู่บ้าน อยู่ติดชายแดน ตรงข้าม ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ของไทย

 และจากการตรวจสอบกำหนดการไม่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไทย จะเดินทางมาด้วย แต่เชื่อว่าเป็นความตั้งใจของกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศ ที่ออกมาสร้างข่าวให้เกิดความสับสน เพื่อสร้างสถานการณ์เพื่อให้กลุ่มเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองเผชิญหน้า ซึ่งอาจจะบานปลายไปถึงขั้นปะทะกันเหมือนที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้จะน่าเป็นห่วงกว่าทุกครั้งเนื่องจากสมเด็จฮุน เซน และคณะเดินทางมาใกล้พื้นที่เขาพระวิหาร ซึ่งแน่นอนว่า สื่อทั้งกัมพูชา และสื่อต่างประเทศจะติดตามมาจำนวนไม่น้อย จึงอยากให้สองฝ่ายอย่าตกเป็นเครื่องมือผู้ไม่หวังดีต่อประเทศอย่างเด็ดขาด

 ด้านนายจิรเดช ศิลารักษ์ อดีตนักต่อสู้เพื่อคนรากหญ้า และประธานกลุ่มสันติธรรมนำการเมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า รู้สึกเบื่อหน่าย และรำคาญกับขบวนการเคลื่อนไหวของเสื้อสีต่างๆ ที่การต่อสู้เรียกร้องไม่มีข้อจำกัด ทุกวันนี้บ้านเมืองกำลังถอยหลังเข้าคลอง การเคลื่อนไหวของขบวนการกลุ่มกลายพันธุ์ไปเป็นการต่อสู้เพื่อสนองอารมณ์ของแกนนำมากกว่าจะต่อสู้เพื่อคนยากคนจนเหมือนในอดีต ที่ผู้นำม๊อบจะต่อสู้เพื่อต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน เรียกร้องเรื่องที่ดินทำกิน แต่การเคลื่อนไหวของขบวนการกลุ่มทุกวันนี้ มีเป้าเลื่อนลอย ต่อสู้อย่างไร้ทิศทาง วัตถุประสงค์ในการเคลื่อนไหวไม่ชัดเจน อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่า ต้องการสร้างการเมืองใหม่ ถึงวันนี้ก็ไม่รู้ว่าใหม่อย่างไร อีกฝ่ายต่อต้านเผด็จการ แต่ไปมาก็ลามไปถึงการขับไล่องคมนตรี ด่ารัฐบาล ไม่พอด่าตำรวจ ด่าทหาร ด่าทุกคนที่คิดต่างจากตัวเอง ใช้คำพูดที่หยาบคาย แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้เด็กและเยาวชนเห็นแต่แบบอย่างที่ไม่ดี

 “ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปบ้านเมืองคงไปไม่รอด เคยพูดกับพี่น้องหลายคนเหมือนกันว่าจะตั้งกองทัพคนจน ใส่เสื้อไหมสีดำย้อมมะเกลือ จับจอบจับเสียมลุกขึ้นมาต่อสู้ ปฏิวัติสังคมใหม่ โค่นล้มระบอบกลุ่มเสื้อสีทั้งหลายให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย หันหน้าเข้าหาพัฒนาบ้านเมืองร่วมกันต่อไป” นายจิรเดช กล่าว

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกรณีสมเด็จ ฮุนเซน นายกฯกัมพูชา เตรียมเดินทางไปเยือนพื้นที่เขตชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า ไทยได้รับการรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ว่า สมเด็จ ฮุนเซน จะเดินทางไป 4 จุด คือ สามเหลี่ยมมรกต ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม และบริเวณปราสาทพระวิหาร ทั้งนี้นโยบายรัฐบาล คือ ถ้าสมเด็จ ฮุนเซน หรือประชาชนชาวกัมพูชา จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชา ก็คงไม่ไปก้าวก่าย แต่ถ้าเข้ามาพื้นที่เรา ไทยก็คงไม่สามารถอนุญาตได้ เพราะบางจุดเป็นที่ปรากฏชัดเจนว่าอยู่ในการครอบครองของคนไทย และมีทหารไทยคอยควบคุมพื้นที่อยู่ เช่น ปราสาทตาเมือนธม

 เลขานุการรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ที่มีการอ้างสิทธิ์ร่วมกันบริเวณ 4.6 ตร.กม.บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร ก็ชัดเจนว่าจะมีการเดินทางเข้าออกอย่างไร ต้องมีการแจ้งให้ทราบ เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่ประจำดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะฉะนั้น การเดินทางเข้าออกอย่างไรจะอยู่ในสายตาเจ้าหน้าที่ไทย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเท้า การมาด้วยรถยนต์ หรือเอาเฮลิคอปเตอร์มาจอดลง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวจะต้องอยู่ในความยอมรับร่วมกัน 2 ประเทศ และได้เตรียมเจ้าหน้าที่เข้าไปต้อนรับสมเด็จ ฮุนเซน หรือดูสถานการณ์ในพื้นที่ทั้งหมด 4 จุด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายพลเรือน ฝ่ายปกครอง

 ส่วนในกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งผู้แทนของกระทรวง ไปประจำตามจุดต่างๆตามแนวชายแดน เพื่อรองรับการเยือน และยืนยันว่า การเดินทางมาของนายกรัฐมนตรี ไม่มีอะไรน่าห่วง รัฐบาลคงเดินไปตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่แล้ว และจะไม่มีการนำเหตุการณ์บริเวณตะเข็บชายแดน มาผูกกับสถานการณ์ในประเทศ เพื่อสร้างความวุ่นวายสับสนให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทย

 นายชวนนท์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาให้สัญชาติกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งไทยได้เคยรับรายงานในเรื่องดังกล่าว และมีการตรวจสอบไปยังสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย และได้รับคำตอบว่ายังไม่ทราบ และไม่เคยได้รับการรายงานจากรัฐบาลกลางของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ จะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อทำความกระจ่างให้กับสาธารณชนต่อไป

พัลลภขอยุติบทบาทเสื้อแดงฉะจตุพรไม่ให้เกียรติ

จากกรณีที่พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย  ออกมาระบุพ.ต.ท.ทักษิณเห็นชอบตั้งกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมีเสียงคัดค้านตามาส่งผลให้พล.อ.พัลลภออกมาแถลงว่า ขอยุติบทบาทของตัวเองภายในกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ให้เกียรติ พร้อมยันว่ากองทัพประชาชน.ดีกว่าเสื้อแดงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หากเกิดความรุนแรงไม่เกี่ยวกับตนอย่างแน่นอน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ