ข่าว

"ซิโก้" ในวันที่"ทีมชาติไทย"มืดมนต้องการแสงสว่าง

"ซิโก้" ในวันที่"ทีมชาติไทย"มืดมนต้องการแสงสว่าง

17 มิ.ย. 2564

ความล้มเหลวของฟุตบอล"ทีมชาติไทย" กับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ส่งให้ชื่อของอดีตเฮดโค้ชทัพช้างศึก "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ถูกจุดประกายขึ้นมา ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่เคยสร้างศรัทธาให้กับฟุตบอลไทย

"มอบให้น้องๆนักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกคน รวมถึงแฟนบอลทุกท่านด้วยนะครับ“ รอยยิ้มของนักสู้” นี่คือสิ่งที่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง อดีตโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย ใช้เพื่อสื่อสารไปถึง “ทีมชาติไทย” ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค   หลังจบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกรอบ 2 โดยไทย จบที่อันดับ 4 ของตาราง จาก 5 ทีม ไปไม่ถึงรอบ 12 ทีม สุดท้ายของเอเชีย  ในขณะที่  2 ทีม ร่วมสายที่ได้ไปต่อคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และเวียดนาม 

 

อ่านเรื่องประกอบ 

"บิ๊กอ๊อด"ขอโทษฟุตบอล"ทีมชาติไทย"พลาดเป้า

"ทีมชาติไทย"ร่วงฟุตบอลโลก กระแสตีกลับกุนซือช้างศึก

 

ทุกครั้งที่ฟุตบอล “ทีมชาติไทย” มาถึงจุดที่มืดมนผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย  สิ่งที่แฟนบอลไทยมักจะนำมาเป็นประเด็นเพื่อเชื่อมโยงไปถึงก็คือ วันวานแห่งความสุข  ที่ยุคหนึ่งฟุตบอลไทยเคยส่งสัญญาณแสงแห่งความหวัง ที่จะยกระดับตัวเอง จากมหาอำนาจลูกหนังในกลุ่มชาติอาเซียน ก้าวไปสู่การเป็นทีมฟุตบอลในชาติเอเชีย  และผู้ที่จุดประกายความหวังในขณะนั้น คือชายที่ชื่อ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตเฮดโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย  ซึ่งปัจจุบันคุมทีมฟุตบอลในลีกอาชีพของเวียดนาม 

 

ผลงานของ โค้ช"ซิโก้"  ต่อการคุม"ทีมชาติไทย" ในรอยต่อยุคของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย อยู่ภายใต้การบริหารงานของ  วรวีร์ มะกูดี  และ  พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย  

 

-แชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่เมียนมา พ.ศ.2556
- อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เกาหลีใต้  2557
- แชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2557

- รองแชมป์คิงส์คัพ 2558
- แชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ 2558 (มอบหมาย "โชคทวี พรมรัตน์" คุมแทน)
- แชมป์กลุ่ม F ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 3   (2559)

- แชมป์คิงส์คัพ 2559
- แชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2559

 

การก้าวออกไปจากทีมชาติไทย  ของ “ซิโก้”  หลังทำหน้าที่มานาน 4 ปี  ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ การตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย  ในเดือนมีนาคม 2560   โดยผลงานของทีมชาติไทยในรายการนี้ 2 เกม หลังสุด คือการแพ้ต่อซาอุดิอาระเบีย 2 -0 (เล่นในบ้าน) ละออกไปแพ้ให้กับญี่ปุ่น 4-0 (เล่นนอกบ้าน)จึงเป็นการปิดฉากการทำหน้าที่คุมทีมชาติไทย  ด้วยการขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน ในยุคของพล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 

 

\"ซิโก้\" ในวันที่\"ทีมชาติไทย\"มืดมนต้องการแสงสว่าง

 

\"ซิโก้\" ในวันที่\"ทีมชาติไทย\"มืดมนต้องการแสงสว่าง

 

\"ซิโก้\" ในวันที่\"ทีมชาติไทย\"มืดมนต้องการแสงสว่าง

\"ซิโก้\" ในวันที่\"ทีมชาติไทย\"มืดมนต้องการแสงสว่าง

น่าสนใจว่าปมการลาออกส่วนหนึ่งของโค้ช “ซิโก้” คือการผูกติดกับแรงกดดัน ที่ว่าเมื่อทุกคน อันหมายถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และแฟนบอล  ต้องการเห็นผลงานคือชัยชนะมากกว่าความพ่ายแพ้  นี่จึงเป็นสิ่งที่การทำงานในขณะนั้น  ในฐานะหัวหน้าผู้สอน ไม่สามารถไปต่อได้ และเห็นว่าทีมชาติไทยควรได้บุคลากรที่เหมาะสมเข้ามาสานต่อ   จึงเลือกปิดฉากตัวเองกับการทำหน้าที่  ด้วยการขอลาออก จนกระทั่งวันนี้ ทีมชาติไทยอยู่ในการคุมทีมโดย อากิระ นิชิโนะ  เฮดโค้ชสัญชาติญี่ปุ่น 


ถึงนาที่นี้แล้วแรงกดดัน ที่มีต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  สมาคมกีฬาที่ทรงอิทธิพลสูงสุด  และคำถามถึงผลงานในการยกระดับทีมชาติไทย ที่เริ่มเบี่ยงเบนไป  ของ อากิระ นิชิโนะ  หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย  เมื่อจบทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่สหรัฐอาหรับเอมริเรสต์   จึงทำให้ชื่อของอดีตเฮดโค้ชชาติไทย ที่ครั้งหนึ่งเคยฝากผลงานในการสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทยทั้งชาติ จนกระแสความศรัทธาก่อตัวขึ้น ได้เห็นปรากฏการณ์แฟนบอลเต็มความจุของ ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ทีมชาติไทยลงทำหน้าที่   สิ่งนี้ถูกนำมาเป็นประเด็นเพื่อให้"ซิโก้"เข้ามาทำหน้าที่ กู้วิกฤติฟุตบอลไทย 

 

รอยยิ้มนักสู้
โลโซ   ประพันธ์โดย  เสกสรรค์ ศุขพิมาย


หากเหนื่อยนักขอจงหยุดพักเสียก่อน อย่าใจร้อนรีบไปเดี๋ยวมันไม่เข้าที
หยุดเรื่องรักที่ทรมาน เรื่องงานเรื่องเงินก็ดี พักซักทีเดี๋ยวค่อยไป
อย่าไปคิดเรื่องเดิมให้มันปวดใจ ซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครเห็นความพ่ายแพ้

 

เก็บให้ลึกลงข้างในหัวใจที่อ่อนแอ เหลือเพียงแค่รอยยิ้มของนักสู้
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

 

กว่าจะถึงฝั่งฝันนั้นมันยากเย็น อย่าพึ่งเห็นฉันเดินเข้ามาง่ายๆ
กว่าจะถึงที่ฉันยืน กล้ำกลืนฝืนทนเกือบตาย น้ำตาผู้ชายเคยไหลไม่ใช่เรื่องแปลก
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา

 

แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

 

ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน
ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ และฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามา
แต่ทุกๆทีฉันก็ทำ ให้เป็นเหมือนดังว่าแข็งแรงกว่า ไม่ยอมพ่ายแพ้มัน

 

\"ซิโก้\" ในวันที่\"ทีมชาติไทย\"มืดมนต้องการแสงสว่าง

ภาพประกอบจาก  NATION PHOTO