"ทีมชาติไทย"ร่วงฟุตบอลโลก กระแสตีกลับกุนซือช้างศึก

การพา"ทีมชาติไทย"ทำผลงาน  ขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม G ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022  รอบคัดเลือก รอบที่สอง โซนเอเชีย  ในปี 2562 หลังจากลงเล่นไป 3 นัด เก็บได้ 7  คะแนน เหนือทีมร่วมสาย ทั้ง สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ,  เวียดนาม ,  มาเลเซีย  และ อินโดนีเซีย ในขณะนั้น  ส่งให้ อากิระ นิชิโนะ   เฮดโค้ชสัญชาติญี่ปุ่น  หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย   ที่เข้ามารับงานต่อจาก มิโลวาน  ราเยวัช  ในปี 2019  ได้กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังให้"ช้างศึก"ทีมชาติไทยอย่างแท้จริง  ต่อโอกาสที่จะได้ก้าวไปต่อกับเส้นทางฟุตบอลโลก 2022

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022  ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์  ระหว่าง 3-15  มิถุนายน  สำหรับ"ทีมชาติไทย"  นั่นคือการจบที่อันดับ 4  ของ กลุ่ม G  ตามหลังอันดับ   1  สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์   อันดับ 2  เวียดนาม  อันดับ 3 มาเลเซีย  โดย   ทีมชาติไทย   อยู่เหนืออันดับ 5  คือ อินโดนีเซีย

 

ก่อนเดินทางมาสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์   เป้าหมายของ"ทีมชาติไทย" ที่ต้องการมากที่สุด   หรือหวัง เอาไว้เบื้องต้น คือ การจบอันดับ 2 ในตาราง ที่ทำผลงานที่ดีที่สุด เพื่อการผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายของเอเชีย  แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหลังผ่านไป  2  เกม  ของทีมชาติไทย  เริ่มจากการเสมอ กับ  อินโดนีเซีย 2-2   และแพ้ให้กับสหรัฐอาหรับ เอมิเรสต์ 3-1 

 

ส่งผลให้ความหวังต่อการจบผลงาน  ด้วยอันดับ 2  ของตาราง สิ้นสุดลง  เพราะในขณะที่ฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทยสะดุดลง  แต่ผลงานของทีมร่วมสาย   ทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์  และ  เวียดนาม ต่างยังคงรักษาความต่อเนื่องเอาไว้ได้   การปรับเป้าหมายให้แคบลง  ด้วยการตั้งเป้าจบที่อันดับ 3 ของตาราง  หลังแข่งครบ 8 นัด   

 

โดยมีเป้าหมายกับเกมสุดท้ายของทีมชาติไทย  ด้วยการเอาชนะมาเลเซีย เพื่อ เพื่อการยึดพื้นที่อันดับ 3 ของตาราง กลุ่ม G   อันหมายถึง  การได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก รอบ 3    จึงไม่ต่างไปจากทางเลือกสุดท้ายของทีมชาติไทยในเวลานี้   แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ  การพลาดเป้าหมาย  เมื่อทีมชาติไทย แพ้ให้กับมาเลเซีย 1-0  ส่งให้หลุดจากอันดับ 3 ของตาราง  ไปอยู่ที่อันดับ 4 

 

พลาดโควต้า  ต่อการผ่านเข้ารอบเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก รอบ 3   เส้นทางของทีมชาติไทย กับทัวร์นาเมนต์ 3 นัด สุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2022  อยู่ในบรรยากาศที่สมบุกสมบันอย่างแท้จริง  นับตั้งแต่การเตรียมทีมชาติ ที่เผชิญกับปัญหาโควิด 19  ในแคมป์เก็บตัว  จนกลายเป็นที่มา ในการขนผู้เล่นทีมชาติ 40 คน  เดินทางมาที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เพื่อเก็บตัว  และเตรียมทีมเข้าแข่งขัน

 

ขณะเดียวกัน การว่างเว้นภารกิจของฟุตบอลทีมชาติไทยไปนาน 2  ปี  เพราะกิจกรรมกีฬา ที่ถูกล็อกดาวน์จากโควิด19  ซึ่งเป็นไปพร้อมกันทั่วโลก   ทำให้การ กลับมาของ"ทัพช้างศึก"ทีมชาติไทย คือความคาดหวังต่อการทำผลงาน จากแฟนบอล  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นก็คือความผิดหวัง  กระแสตีกลับในเวลานี้  จึงพุ่งเป้าไปที่ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ไม่สามารถพาทีมชาติไทย  ทำผลงานได้ดีกว่านี้ 

 

คำถามที่เกิดขึ้นตามมา ถึงความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเป็นค่าจ้างเฮดโค้ชสัญชาติญี่ปุนว่าคุ้มค่าหรือไม่   หรือแม้แต่ความสง่างามของผู้นำองค์กรสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  คือ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง  นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล  ควรจะรับผิดชอบหรือไม่ กับผลงานของทีมชาติไทย ที่ตกต่ำในเวลานี้ ทั้งหมดนี้ กำลังเป็นประเด็นที่ก่อตัวและพุ่งเป้าไปยัง อากิระ นิชิโนะ และ  พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อย่างเลี่ยงไม่ได้  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณภาพ จากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย