เกิดอะไรขึ้นกับ 'คริสเตียน อิริคเซ่น' หลังเจ้าตัวเกิดอาการฟุบ วูบหมดสติกลางสนามช่วงนาทีที่ 41 ระหว่างเกม "ยูโร 2020" (Euro 2020) นัดแรกกลุ่มบี เมื่อคืนที่ผ่านมา
ทำเอาแฟนบอลทั่วโลกช็อกไปตามๆ กัน หลังจากที่ 'คริสเตียน อิริคเซ่น' จอมทัพทีมชาติเดนมาร์ก เกิดอาการฟุบ วูบหมดสติกลางสนามช่วงนาทีที่ 41 ระหว่างเกม "ยูโร 2020" (Euro 2020) นัดแรกกลุ่มบี ที่ทัพโคนมพ่ายต่อฟินแลนด์ไป 0-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา
อ่านข่าว : ฟุตบอล"ยูโร2020"วุ่นมิดฟิลด์เดนมาร์กวูบคาสนาม - ล่าสุดอาการปลอดภัย
โดย 'คริสเตียน อิริคเซ่น' นั้นหลังจากที่เจ้าตัวจะวิ่งไปรับบอลทุ่มจากเพื่อนร่วมทีม แต่จู่ๆ ก็มีอาการก่อนจะค่อยๆ ฟุบลง หมดสติและเริ่มมีอาการชักเกร็ง ซึ่งกัปตันทีม 'ซิมง เคียร์' ปรี่เข้าไปดูอาการไม่ให้ 'อิริคเซ่น' ลิ้นจุกปาก และผู้ติดสิน แอนโทนี่ เทย์เลอร์ จะเรียกทีมแพทย์เข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ซึ่งบรรยากาศในสนามตอนนั้นทุกคนอยู่ในความสงบ และระหว่างปฐมพยาบาล CPR ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต 'คริสเตียน อิริคเซ่น' มีเพื่อนๆร่วมทีมชาติเดนมาร์กมายืนล้อมรอบทีมแพทย์เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของ 'อิริคเซ่น' ไม่ให้มีภาพที่สะเทือนใจเผยแพร่ออกไป
นอกจากนี้แฟนบอลทั้งเดนมาร์ก และ ฟินแลนด์ ในสนามพาร์เคน สเตเดี้ยม ในกรุงโคเปนเฮเก้น ที่พยายามคอยส่งเสียงเรียกชื่อของดาวเตะจากอินเตอร์ มิลานเป็นระยะๆ ให้ได้สติกลับคืนมา มีแฟนบอลฟินแลนด์ในโยนธงผืนใหญ่ลงมาในสนาม เพื่อมาใช้เป็นฉากกั้นระหว่างที่ทีมแพทย์ปฐมพยาบาลช่วยชีวิต อิริคเซ่น ด้วย เป็นภาพประทับใจที่ถูกเผยแพร่สู่สายตาทั่วโลก
ต่อมาในโลกออนไลน์ นักฟุตบอล เพื่อนร่วมอาชีพ รวมถึงแฟนกีฬาจากทั่วโลก ต่างก็ส่งข้อความอวยพร ส่งใจภาวนาเพื่อขอให้ อิริคเซ่น ปลอดภัย ซึ่งทีมแพทย์ในสนามใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะนำตัว อิริคเซ่น ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ซึ่งเกมการแข่งขันระหว่าง เดนมาร์ก กับ ฟินแลนด์ ต้องหยุดไปชั่วขณะ จนกระทั่งทางสมาคมฟุตบอลเดนมาร์กรวมถึงยูฟ่าก็ได้ออกมาอัปเดตอาการของ อิริคเซ่น ว่าเจ้าตัวรู้สึกตัวแล้วและมีอาการทรงตัวและอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมแพทย์ในเมืองโคเปนเฮเก้น ก่อนที่เกมจะกลับมาแข่งขันกันต่อในช่วง 01.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ด้าน ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวชื่อดังก็ได้ออกมาทวิตฯข้อความเปิดเผยว่าอิริคเซ่น นั้นสามารถพูดคุยกับญาติได้แล้วและมีอาการที่ดีขึ้น มีการเฟซไทม์ (Facetime) จากโรงพยาบาลคุยกับเพื่อนร่วมทีมและขอให้เพื่อนๆ ลงไปทำการแข่งขันต่อ
อ่านข่าว : เดนมาร์ก คอนเฟิร์ม"คริสเตียน อีริคเซ่น"ปลอดภัย -ฟินแลนด์ ยูฟ่า ร่วมให้กำลังใจ
อ่านข่าว : วงการฟุตบอลร่วมให้กำลังใจ"คริสเตียน อีริคเซ่น"
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจได้โพสต์เฟซบุ๊กพูดถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับ 'คริสเตียน อิริคเซ่น' ว่า คำถามที่หลายคนคงอยากทราบคือมันเกิดอะไรขึ้น คนที่ดูแข็งแรงเป็นนักกีฬาทำไมอยู่ดีๆ หัวใจหยุดเต้นได้
ภาวะหัวใจหยุดเต้นจนเสียชีวิตกระทันหันในนักกีฬาพบได้ราว 1-2 ในแสนราย สาเหตุเป็นได้ตั้งแต่โรคหัวใจที่พยาธิสภาพชัดเจน (structural heart disease) , และจากสาเหตุที่ ไม่พบความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจที่ชัดเจน (non structural heart disease)
โดยทั่วไป โรคหัวใจที่มีพยาธิสภาพชัดเจน เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา (Hypertrophic cardio myopathy) , โรคหัวใจโต (Dilated cardiomyopathy) , โรคลิ้นหัวใจพิการ (valvular heart disease)
นักกีฬาอาชีพเหล่านี้จะมีการ screen หาอย่างดีแล้ว ไม่น่าพลาด แต่อาจมีพยาธิสภาพบางอย่างที่ตรวจหายากต้องใช้การตรวจพิเศษเฉพาะ ได้แก่ โรคความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจ เช่น Anomalous coronary artery disease โรคทางเดินหลอดเลือดหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด ไปเดินลอดระหว่าง หลอดเลือดใหญ่ 2 เส้น (pulmonary artery / aorta)
ทำให้โดนบีบรัดเวลาออกแรง หรือในนักกีฬาที่เริ่มมีอายุ ก็อาจมีโรคผนังหลอดเลือดหัวใจแข็ง atherosclerosis ถ้ามีปัจจัยเสี่ยง อย่างไขมันในเลือดสูง แต่นอกจากโรคที่สามารถตรวจพบความผิดปกติทางโครงสร้างหัวใจเหล่านี้ยังมีโรคที่เป็นความผิดปกติทางระบบไฟฟ้าซึ่งไม่อาจตรวจพบโดยการใช้วิธีตรวจทั่วไปอย่าง ตรวจ echo CT หรือ MRI ได้
เช่น โรคไหลตาย หรือความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกาย เช่น potassium magnesium ในเลือดต่ำมากๆ นอกจากนี้ยังมีภาวะ Commotio cordis ซึ่งเกิดจากการกระทบกระแทกบนทรวงอกอย่างรุนแรงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรภายในหัวใจ
ภาวะนี้พบได้ในนักกีฬาอายุน้อยๆ แม้เป็นเหตุการที่เกิดไม่บ่อย แต่มันจะเป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น ท่ามกลางคนดูนับหมื่น การเตรียมพร้อมของสนามแข่งในการช่วยฟื้นคืนชีพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด จะต้องมีบุคลากรซึ่งมีความรู้ความสามารถในการทำ CPR และมีเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ AED เตรียมพร้อมเสมอ
สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ มากนัก กรณีนักฟุตบอลเกิดอาการวูบหมดสติกลางสนาม ที่เราจำได้ติดตาจนถึงทุกวันนี้ คือ 2 เหตุการณ์ใหญ่ ๆ อย่างในปี 2003 ในศึกฟุตบอล คอนเฟเดอเรชันส์ คัพที่ มาร์ค วิเวียน โฟเอ้ วัย 28 ปี ที่ล้มหมดสติและเสียชีวิตบริเวณกลางสนามในเกมรอบรองชนะเลิศที่แคมเมอรูนพบกับโคลอมเบีย
หรือในปี 2007 ที่ อันโตนิโอ ปูเอร์ต้า ดาวเตะชาวสเปนของทีมเซบีญ่า ที่วูบกลางสนามนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตลงด้วยภาวะหัวใจวายในวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น
โดยมีการเปิดเผยว่า เคสดังกล่าวในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมาพบเพียง 1 ใน 50,000 ถึง 1 ใน 300,000 รายเท่านั้น แต่เนื่องจากนักกีฬาเหล่านี้อายุยังน้อยมีอนาคตที่จะสร้างชื่อเสียงในวงการกีฬาให้กับทีมต้นสังกัดหรือเป็นตัวแทนทีมชาติ หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้จึงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมาก ๆ
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้นักกีฬาเสียชีวิต หรือ Sudden Cardiac Death (SCD) มักเกิดจากปัญหาของหัวใจ จากการรวบรวมข้อมูลการเสียชีวิตของนักกีฬาอายุน้อยกว่าในประเทศสหรัฐอเมริกามากกว่า 1,400 รายพบว่า
- 36% มีสาเหตุมาจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy)
- 17% มีสาเหตุมาจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ (Anomalous Origin of A Coronary Artery)
- 4% มีสาเหตุมาจากระบบนำคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ
ป้องกันนักกีฬาเสียชีวิตจากโรคหัวใจอย่างไร
สิ่งสำคัญ คือ การตรวจคัดกรองสุขภาพหัวใจของนักกีฬา โดยเฉพาะนักกีฬาที่มีโปรแกรมการแข่งขันหรือต้องฝึกซ้อมอย่างหนักต่อเนื่อง การคัดกรองปัญหาของหัวใจต้องพิจารณาจากประวัติของนักกีฬาระหว่างการเล่นกีฬามาก่อน เช่น หน้ามืด หมดสติ ใจสั่น เจ็บแน่นหน้าอก เป็นต้น
การตรวจร่างกาย การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ หรือ Echocardiogram เพื่อประเมินความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ
AED ช่วยชีวิตนักกีฬาระหว่างการแข่งขัน
ปัจจุบันมีอุปกรณ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ เรียกว่า AED (Automated External Defibrillator) ซึ่งหลักการจะคล้ายกับเครื่องกระตุ้นหัวใจที่ใช้ในโรงพยาบาล
เครื่อง AED มีขนาดเล็ก สามารถติดตั้งและเคลื่อนย้ายได้ง่าย การใช้งานจะมีแผ่นนำไฟฟ้ามาแปะไว้ที่ทรวงอกของผู้ป่วย จากนั้นเครื่องจะวิเคราะห์ข้อมูลคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ตรวจพบแล้ว
โดยจะบอกทันทีว่าผู้ป่วยมีการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะหรือไม่ มีเสียงพูดออกมาชัดเจน หากจำเป็นต้องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าก็สามารถทำได้ง่ายเพียงกดปุ่มที่เครื่อง บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่แพทย์หรือพยาบาลแต่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วสามารถใช้เครื่องนี้ได้ ปัจจุบันในสนามบินนานาชาติทุกแห่ง รวมทั้งสนามกีฬานานาชาติชั้นนำมักจะมีเครื่องนี้ติดตั้งกันไว้แล้ว
สิ่งสำคัญในการช่วยชีวิตระหว่างการแข่งขันคือ การเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์ที่อยู่ข้างสนามให้พร้อม เพื่อจะได้รีบเข้าไปช่วยเหลือนักกีฬาได้ทันท่วงที หน่วยงานสากลอย่าง FIFA ให้ความสำคัญอย่างมากในการเตรียมความพร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ที่ข้างสนามให้พร้อมระหว่างการแข่งขันฟุตบอล
สำหรับประเทศไทยการแข่งขันกีฬาอาชีพกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ควรให้ความสำคัญกับการกำหนดเกณฑ์ความพร้อมทางการแพทย์ในสนามแข่งขัน เพราะถึงแม้ปัญหาลักษณะนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่หากเกิดขึ้นแล้วอาจหมายถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้
ขอบคุณข้อมูลประกอบจากเฟซบุ๊ก นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ , bangkokhearthospital
ข่าวที่เกี่ยวข้อง