สำหรับฟุตบอล 5 ลีกใหญ่ของยุโรปในซีซั่นนี้ ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมัน, กัลโช เซเรีย อา อิตาลี, ลาลีกา สเปน และลีกเอิง ฝรั่งเศส มีความเข้มข้นอย่างมาก
โดยเฉพาะเรื่องการลุ้นแชมป์ที่ขณะนี้หลายลีกเรียกได้ว่าสูสี เพราะอาจมี 4 จาก 5 ลีกที่ได้แชมป์ทีมใหม่
นอกจากเรื่องการแข่งขันแล้วในฤดูกาลนี้มีหลายสโมสรที่ให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่งลงสนาม ด้วยหลายเหตุผล ทั้ง นักเตะหลักได้รับบาดเจ็บ, แข้งชุดใหญ่ฟอร์มตก หรือโปรแกรมที่อัดแน่น เช่น ลิเวอร์พูล ที่ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งลงสนามในนามทีมชุดใหญ่ถึง 2 นัด คือในคาราบาว คัพ และเอฟเอ คัพ รอบ 5 นัดรีเพลย์ เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผลักดันแข้งอนาคตไกลขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ทั้ง เมสัน กรีนวูด และแบรนดอน วิลเลียมส์ เป็นต้น
ทำให้ “สปอร์ตสคีดา” สื่อกีฬาชื่อดังได้รวบรวม 5 นักเตะดาวรุ่งจากบิ๊กลีกยุโรปที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในขณะนี้
กาเบรียล มาร์ติเนลลี (อาร์เซนอล)
คงไม่มีใครคาดคิดว่าดาวเตะชาวบราซิลเลียนจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ (ราว 239 ล้านบาท) และกลายเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของ มิเกล อาร์เตตา อยู่ในขณะนี้
คล่องแคล่ว, กล้าเล่น และยิงประตูได้เฉียบคม คือคำนิยามที่บ่งบอกถึงดาวเตะวัย 18 ปีรายนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนับถึงปัจจุบันเขาทำไปแล้ว 10 ประตูกับ 4 แอสซิสต์จาก 26 นัดในทุกรายการ ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าพอใจสำหรับการเล่นในลีกยุโรปเป็นปีแรก
“เขาคือดาวรุ่งแห่งศตวรรษ เพราะเขาเป็นนักเตะที่เหลือเชื่อ เพราะเขาอันตรายมาก และดูเป็นผู้ใหญ่ทั้งๆที่ยังอายุเท่านี้ ผมชอบนักเตะที่ดี และเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนักเตะที่ดี” เจอร์เกน คลอปป์ เฮดโค้ช ลิเวอร์พูล เอ่ยปากชม มาร์ติเนลลี
อัลฟอนโซ เดวีส์ (บาเยิร์น มิวนิค)
นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค จาก โตรอนโต เอฟซี เมื่อปี 2018 เจ้าตัวใช้เวลาเพียง 12 เดือนในการพัฒนาฝีเท้าจนสามารถขึ้นมาเป้นแข้งหลักของ “เสือใต้” ได้แบบเต็มตัว
สำหรับ เดวีส์ ถอยตัวเองจากผู้เล่นในตำแหน่งปีกมาเป็นแบ็กซ้ายในฤดูกาลนี้ หลังฟูลแบ็กตัวจริงอย่าง ดาบิด อลาบา และลูคัส เอร์นานเดซ ต่างได้รับบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่ ซึ่งเขากลับทำผลงานได้ดีทั้งๆไม่ใช่ตำแหน่งที่ตนเองถนัด นอกจากนั้นยังมีจุดได้เปรียบกองหลังรายอื่นคือมีความเร็ว และเติมเกมรุกได้เป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นปีกมาก่อน
1 ประตู 8 แอสซิสต์จากการลงสนาม 32 นัดในทุกรายการ เพียงพอให้แข้งวัย 19 ปีสามารถยึดตัวจริงในทีม “เสือใต้” ได้ ซึ่งถือเป็นผลดีอย่างมาก เนื่องจาก ฮันซี ฟลิค เฮดโค้ช สามารถโยก อลาบา ไปเล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ซึ่งเคยเป็นจุดอ่อนของทีมได้ทันที และทำให้พวกเขาสามารถทวงตำแหน่งจ่าฝูงของบุนเดสลีกา กลับมาได้สำเร็จ
เมสัน กรีนวูด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เป็นฤดูกาลสร้างชื่อของกองหน้าดาวรุ่งรายนี้อย่างแท้จริง หลังเจ้าตัวได้รับโอกาสขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งในแดนหน้าจากการขาดหายไปของ อเล็กซิส ซานเชซ และโรเมลู ลูกากู
แน่นอนว่าถือเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างมากของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ในการไว้ใจแข้งดาวโรจน์ให้เป็นตัวแทนของทั้ง 2 สตาร์ข้างต้น ทว่า กรีนวูด กลับทำผลงานจนได้ดีเกินคาด ด้วยการซัดประตูชัยให้ “ปีศาจแดง” เอาชนะ อัสตานา ในศึกยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่มขณะที่มีอายุเพียง 17 ปี 355 วัน รวมถึงยิงให้ทีมไล่เจ๊า เอฟเวอร์ตัน 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เป็นต้น ทำให้เจ้าตัวถูกนำไปเปรียบเทียบกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ อดีตแข้งรุ่นพี่ โดยเฉพาะเรื่องการนิ่ง และเฉียบคมในการยิงประตู
ด้วยฟอร์มที่เกิดขึ้นทำให้เชื่อว่า กรีนวูด จะเป็นเพชรเม็ดงามของ “ปีศาจแดง” ไม่ต่างกับ มาร์คัส แรซฟอร์ด และจะเป็นกำลังหลักของทีมแน่นอนในอนาคต
อันซู ฟาติ (บาร์เซโลนา)
ถือเป็นซีซั่นที่เต็มไปด้วยปัญหาของ บาร์เซโลนา โดยเฉพาะเรื่องฟอร์มการเล่นซึ่งตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ เอร์เนสโต บัลเบร์เด ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีม และให้กิเก เซเตียน เข้ามาคุมทัพแทน
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ผลงานไม่ดีนักเนื่องจากปัญหาผู้เล่นหลักได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะในเกมรุกที่ ลีโอเนล เมสซี, หลุยส์ ซัวเรซ และอุสมาน เดมเบเล ต่างผลัดกันเดี้ยง ขณะที่ อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงคนใหม่ก็ยังอยู่ในช่วงปรับตัว ทำให้ต้องมีการผลักดันผู้เล่นจากอคาเดมีขึ้นมาช่วยทีมชุดใหญ่
และกลายเป็นว่าพวกเขาได้ค้นพบแข้งพรสรรค์อย่าง ฟาติ ซึ่งได้รับโอกาสลงสนามให้ บาร์ซา ขณะที่มีอายุเพียง 16 ปี 298 วัน และทำสถิติเป็นแข้งอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์สโมสรที่ลงเล่นในทีมชุดใหญ่
แม้จะมีอายุเพียง 17 ปีในขณะนี้ แต่เจ้าตัวมีฝีเท้าที่เกินอายุไปมาก ทั้งความคล่องแคล่วในการเลี้ยงบอล และความกล้าเล่น จนทำให้ ฟาติ ได้รับการพูดถึง และยอมรับอย่างมาก และถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เมสซี ในสมัยดาวรุ่ง
ปัจจุบัน ฟาติ ทำไปแล้ว 5 ประตูกับ 1 แอสซิสต์จากการลงสนาม 24 นัดในทุกรายการ และมีกระแสข่าวว่าเจ้าตัวจะถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่ในไม่ช้านี้
เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ฮาแลนด์ กลายเป็นอีกหนึ่งสุดยอดดาวรุ่งที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในซีซั่นนี้หลังระเบิดฟอร์มกับ เรดบลูส์ ซัลซ์บวร์ก ด้วยการกดไปถึง 28 ประตูจากการลงสนาม 22 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วหัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ กลับเลือกย้ายไปอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ด้วยค่าตัวเพียง 18 ล้านปอนด์ (ราว 717 ล้านบาท) ซึ่งเรียกว่าผิดคาดเป็นอย่างมาก
และกับ “เสือเหลือง” ฮาแลนด์ สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะเขาทำประตูให้กับทีมใหม่ไปแล้วถึง 12 ประตูจากการลงสนาม 11 นัด และกลายเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกร่วมกับ จาดอน ซานโช อีกหนึ่งผู้เล่นดาวโรจน์ทีมชาติอังกฤษ
แข็งแกร่ง, ถูกตำแหน่ง และเฉียบคม คือคำนิยามที่บ่งบอกถึงผู้เล่นรายนี้ได้เป็นอย่างดี และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเพชรฆาตอันดับต้นๆของทวีป โดยหากเขายังสามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้เช่นนี้เรื่อยๆ ดาวเตะวัย 19 ปีจะกลายเป็นกองหน้าระดับท็อปของโลกไม่ต่างกับบรรดารุ่นพี่อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และคริสเตียโน โรนัลโด เป็นต้น
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ 5 แข้งดาวรุ่งที่น่าจับตามากที่สุดในลีกยุโรปปัจจุบัน ซึ่งต้องมาติดตามว่าพวกเขาจะมีส่วนในการช่วยทีมมากเพียงใดในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง