'เรือใบ'รับมือ'ผีแดง'ชี้ชะตาตัดเชือกคาราบาวคัพ

 

 

คู่ที่สองจะเป็นศึก “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี แมทช์” ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  หลังเกมแรก “เรือใบสีฟ้า” เป็นฝ่ายบุกชนะได้ก่อน 3-1

โดยหลายคนมองว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี มีโอกาสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเพื่อเข้าไปป้องกันแชมป์สูงจากสกอร์ที่ออกมาในนัดแรก อย่างไรก็ตามยังเหลืออีก 90 นาทีเต็ม ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เคยสร้างปาฏิหาริย์คัมแบ็กมาแล้วหลายต่อหลายเกม และจะสู้อย่างเต็มที่แน่นอนเนื่องจากเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ทว่าพวกเขาต้องยิงให้ได้ 2 ประตูเป็นอย่างน้อยเพื่อตีเสมอ และไปลุ้นเข้ารอบในการดวลจุดโทษตัดสิน

ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” ก็ต้องเน้นหนักในเกมนี้แม้จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เนื่องจากหวังซิวทุกถ้วยที่เหลือในฤดูกาลนี้ หลังโอกาสป้องกันแชมป์พรีเมียร์ค่อนข้างริบหรี่

 

 

 

ฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง

แมนเชสเตอร์ ซิตี พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันที่  29 มกราคม 2020 

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

เวลา : 02.45 น.

สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีมรวมทุกรายการ

07/04/18 แมนเชสเตอร์ ซิตี แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3

11/11/18 แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1

24/04/19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-2

07/12/19 แมนเชสเตอร์ ซิตี แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2

07/01/20 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-3

ความพร้อมล่าสุดของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี

เจ้าถิ่นของผู้จัดการทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา มีผลงานน่าประทับใจในช่วงหลัง เหตุไม่แพ้ใครรวมทุกรายการมาแล้ว 8 นัดติดต่อกัน (ชนะ 7 เสมอ 1) โดยเกมล่าสุดเปิดบ้านถล่ม ฟูแลม ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ได้ 4-0

ส่วนแมทช์นี้ต้องลุ้นความฟิตของ เบนฌาแมง เมนดี และไคล์ วอล์คเกอร์ 2 กองหลังตัวหลักว่าจะฟิตทันเกมนี้หรือไม่ ขณะที่ เลรอย ซาเน ปีกตัวเก่ง เพิ่งได้ซ้อมร่วมกับทีมหลังเจ็บยาว  ส่วนผู้เล่นรายอื่นพร้อมลงสนามทั้งหมด ซึ่งคาดว่าเทรนเนอร์ชาวสแปนิชจะกลับมาใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอีกครั้ง หลังมีการโรเตชันในเกมที่แล้ว ซึ่งจะทำให้แข้งหลักหลายราย เช่น เอแดร์ซอน โมราเอส, เอมเมอริค ลาปอร์กต์, โรดรี, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง และเซร์คิโอ อเกวโร

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

มาถึง “ปีศาจแดง” ของกุนซือ โอเล กุนนาร์ โซลชา โชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงหลังที่มีผลงานไม่สม่ำเสมอซึ่ง 10 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะเพียง 4 เกม นอกจากนั้นเป็นการแพ้ 4 นัด และเสมอ 2 นัด

อย่างไรก็ตาม เกมล่าสุดพวกเขาคืนฟอร์มอีกครั้ง หลังบุกอัด ทรานเมียร์ ทีมในลีก 1 อังกฤษ แบบไม่ยากเย็น 6-0 ในศึกเอฟเอ คัพ ทำให้กระแสข่าวเรื่องการที่ โซลชา จะถูกปลดจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ซาลงไป 

ขณะที่เกมนี้พวกเขามีปัญหาใหญ่เรื่องผู้เล่นบาดเจ็บ เนื่องจากจะขาด 3 แข้งหลัก ทั้ง มาร์คัส แรซฟอร์ด ศูนย์หน้าตัวความหวังที่ครองดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลนี้ รวมถึง ปอล ป็อกบา และสกอตต์ แมคโทมิเนย์ 2 กองกลางคนสำคัญ ที่มีอาการบาดเจ็บยาวอยู่

เป็นเหตุให้เทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ ต้องส่งแข้งชุดที่ดีที่สุดลงสนามเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้ารอบต่อไป นำทัพโดย ดาบิด เด เคอา, ลุค ชอว์, แฮร์รี แมกไกวร์, อารอน วาน-บิสซากา, เฟร็ด, เนมานยา มาติช, เจสซี ลินการ์ด, แดเนียล เจมส์ และอองโตนี มาร์กซิยาล

 

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ชูเอา คันเซโล, แฟร์นันดินโญ, เอมเมอริค ลาปอร์กต์, แองเจลิโน - โรดรี, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน - แบร์นาโด ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซากา, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี แมกไกวร์, ลุค ชอว์ - เฟร็ด, เนมานยา มาติช - แดเนียล เจมส์, อันเดรียส เปเรยรา, เจสซี ลินการ์ด - อองโตนี มาร์กซิยาล

สถิติน่าสนใจในการพบกันของทั้ง 2 ทีม

-การพบกันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครั้งนี้เป็น “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี ” ครั้งที่ 181 ซึ่ง “ปีศาจแดง” เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า หลังเก็บชัย 74 นัด เสมอ 52 นัด และแพ้ 54 นัด

-หากนับแค่ในฟุตบอลคาราบาว คัพ ทั้ง 2 ทีมเคยดวลกันทั้งหมด 8 นัด โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี เอาชนะได้ 4 เกม แพ้ 3 เกม และเสมอ 1 เกม 

-นักเตะที่ลงสนามมากที่สุดใน “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี” คือ ไรอัน กิกส์ ด้วยจำนวน 36 นัด 

-มีผู้เล่นถึง 401 รายที่เคยค้าแข้งให้กับทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยคนล่าสุดคือ คาร์ลอส เตเบซ ที่เล่นให้ “ปีศาจแดง” ในปี 2007–2009 และเล่นให้ “เรือใบสีฟ้า” ในปี 2009–2013

ทั้งหมด คือความพร้อม และสถิติต่างๆที่น่าสนใจก่อนเกม “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี” ครั้งที่ 181 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งสุดท้ายทีมใดจะเป็นฝ่ายผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนั้นแฟนๆของทั้ง 2 ทีมต้องมาลุ้นกันอีกครั้ง