เปิดประมูลลิขสิทธิ์ยิงสดฟุตบอลไทย

 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แถลงข่าวการเปิดประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลที่อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ  

 “บิ๊กอ๊อด” แจ้งว่า วงรอบสัญญาเจ้าของลิขสิทธิ์เดิมในการถ่ายทอดสดรายการต่างๆ จะหมดลงในปีหน้า ค.ศ.2020 ดังนั้นเพื่อการเตรียมพร้อมล่วงหน้า จะต้องดำเนินการหาผู้ถือลิขสิทธิ์รายใหม่ล่วงหน้า 1 ปี สมาคมฯ จึงเริ่มเปิดประมูลหาเจ้าใหม่ตอนนี้ โดยจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดให้แก่ผู้สนใจประมูล ทั้งในไทย รวมทั้งนานาชาติ ในวันที่ 14 ตุลาคม นี้ และจะได้ผู้ถือลิขสิทธิ์รายใหม่ภายในปีนี้

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลรอบใหม่ จะมีระยะเวลา 8 ปี ที่เป็นสัญญาระยะยาว เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาถือลิขสิทธิ์ มีหลักประกันที่มั่นคง วางแผนระยะยาวได้ ลิขสิทธิ์นี้จะรวมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกรายการแบบเป็นแพ็คเกจ ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะทีมชาติ ทุกชุด ทุกรุ่น, ฟุตบอลสโมสรทุกรายการ เพื่อให้ผู้ได้สิทธิ์ไปบริหารจัดการเรื่องถ่ายทอดสดต่อไป

นายกสมาคมลูกหนังไทย กล่าวว่า สมาคมฯ พยายามเพิ่มมูลค่าของเกมฟุตบอล ด้วยการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ อาทิ ลดจำนวนทีมในไทยลีก , เปิดโควตาอาเซียนเพื่อเป็นศูนย์กลางฟุตบอลของอาเซียน ขณะเดียวกัน ฟุตบอลไทยลีก ก็มีแนวความคิด จะเพิ่มเกมเพลย์ออฟ เพื่อความตื่นเต้น เร้าใจในอนาคตอีกด้วย 

“เมื่อผมหมดสมัยการเป็นนายกสมาคมฯในต้นปี 2563 ใครจะมาทำหน้าที่แทนยังไม่รู้  แต่ผมต้องการวางรากฐานเพื่ออนาคต ผมเองยังไม่ตัดสินใจว่าจะสมัครเป็นนายกสมาคมฯต่อหรือไม่ แต่พยายามสร้างมาตรฐานที่ดี เป็นตัวอย่างสมาคมกีฬาทุกสมาคมในประเทศไทย เพราะสิ่งที่ผมทำอยู่นี้ ยังไม่มีสมาคมกีฬาใดของไทยทำมาก่อน”

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกของไทยที่กินเวลานานถึง 8 ปี ทำให้เชื่อว่ามูลค่าสัญญาต้องสูงเป็นประวัติการณ์อย่างแน่นอน