ข่าว

3 สโมสรแจ้งความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดลูกหนังเอเชีย U23

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

3 สโมสร ร่วมประชุมแจ้งความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดชิงเจ้าเอเชีย U23 แทนสนามสมโภช 700 ปี

 

 

     ตัวแทนจาก 3 สโมสร อันประกอบไปด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เข้าร่วมประชุม เพื่อแจ้งความพร้อมของสนาม ให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ส่งต่อไปยัง สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย พิจารณา ในการใช้เป็นสังเวียนจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ในช่วงเดือนมกราคม แทนที่ สนามสมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่

     พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เชิญตัวแทนของหน่วยงาน และ สโมสรที่จะมีส่วนในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งประกอบไปด้วย ตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด"

3 สโมสรแจ้งความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดลูกหนังเอเชีย U23

 

 

     "เนื่องจากสาเหตุที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่สามารถปรับปรุงสนาม สมโภช 700 ปี เชียงใหม่ ได้ทัน เพื่อที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าว เราจำเป็นต้องพิจารณา สนามอื่น ที่เป็นสนามของสโมสรมาทดแทน ในขณะเดียวกัน เราก็ให้ตัวแทนทุกหน่วยงาน ชี้แจงความคืบหน้า และความพร้อมในการปรับปรุงสนาม และก็ยืนยันถึงความมั่นใจ ว่าจะสามารถส่งสนามให้กับ เอเอฟซี ได้ทันกำหนดเวลา"

     "เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ตัวแทนของหน่วยงานต่างๆ ทั้ง การกีฬาแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมถึง สโมสรสมาชิก ทุกคนยืนยันว่า ถ้านอกเหนือสามสนามหลัก อย่าง ราชมังคลากีฬาสถาน, ติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สโมสรที่ได้รับการเชิญมาในวันนี้ ก็พร้อมใจ และมั่นใจที่จะร่วมมือกับ สมาคมฯ ในการเตรียมสนาม ให้สามารถรองรับการใช้สนามในรายการนี้ เพราะทุกคนเข้าใจว่า รายการนี้เป็นหน้าตาของประเทศไทย เป็นเรื่องที่ทำเพื่อชาติ ทุกสนามพร้อมให้การสนับสนุน ต้องขอขอบคุณองค์กร หน่วยงาน และสโมสรต่างๆ แทนแฟนบอลชาวไทย ที่ท่านพร้อมให้ความร่วมมือกับ สมาคมฯ เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย"

    "ตอนนี้ก็ให้แต่ละสโมสร ทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ชี้แจงศักยภาพ และรายละเอียดของแต่ละสนาม ว่ามีความจุ ไฟส่องสว่าง สิ่งที่เอเอฟซี ต้องการ คือ แต่ละสนามต้องสามารถปรับปรุงได้ทันกำหนด เวลา จากนี้ สมาคมฯ ก็ต้องประชุมเพื่อคัดสรร ว่าจะเอาสนามใด ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไข เพราะบางสนาม ก็ทำได้ไม่ทัน เราก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง"

     "มาตรฐานของสนามที่จะมาแทนที่ สนามสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ คือต้องมีความจุไม่ต่ำกว่า 10,000 ที่นั่ง, ห้องแต่งตัวมีจำนวน 4 ห้อง, ไฟส่องสว่างไม่ตำกว่า 1,800 LUX, การเดินทางจากโรงแรมที่พักไปสนามไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็มีรายละเอียดอีกมากมาย ทั้ง โรงแรมที่พัก ต้องมีระดับ 4-5 ดาว, สนามฝึกซ้อมที่ได้มาตรฐาน นี่คือเงื่อนไขของเอเอฟซีที่กำหนดไว้ ทั้งสามสโมสร อยู่ในเกณฑ์ที่จะพิจารณา ส่วนโครงสร้างและกายภาพของสนาม ทางสโมสรก็ได้ชี้แจงข้อมูลต่างๆ เราก็จะมีการหารือกัน"

3 สโมสรแจ้งความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดลูกหนังเอเชีย U23

 

 

     "ทั้งสามสโมสรที่มา ต่างเคยจัดฟุตบอลรายการสำคัญๆ มาแล้ว แต่ข้อกำหนดของฟุตบอลแต่ละรายการ ไม่เท่ากัน อย่างในชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ถือเป็นหนึ่งในฟุตบอลรายการที่มีข้อกำหนดที่สูง หากเทียบกับ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่แต่ละสโมสรเคยจัดการแข่งขัน ก็มีความแตกต่างกัน อย่างใน ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ไฟส่องสว่างกำหนดไว้ที่ 1,800 LUX ซึ่งสูงกว่าฟุตบอลทุกรายการที่ประเทศไทยเคยจัดมา ห้องแต่งตัวนักกีฬา ก็ต้องมี 4 ห้อง โดยปกติใช้แค่สองห้อง ก็สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ขณะเดียวกัน ทางเดิน ก็จะเป็นกระเบื้องไม่ได้ ต้องเป็นพื้นยางที่กันลื่นได้ด้วย นี่คือสิ่งที่เราจะต้องทำในการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ ขณะเดียวกันทางเดินเข้าสนาม ปกติใช้แค่พรม แต่รายการนี้จะต้องปูหญ้าเทียมในส่วนที่เป็นลู่วิ่ง นี่คือความแตกต่างของฟุตบอลรายการนี้ กับ ฟุตบอลรายการอื่นๆที่ประเทศไทย เคยจัดมา"

     โดยหลังจากนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย จะเดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าของสนามแข่งขันในช่วงระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน 2562 ก่อนจะจัดพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ต่อไปในวันที่ 26 กันยายน 2562

3 สโมสรแจ้งความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดลูกหนังเอเชีย U23

3 สโมสรแจ้งความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดลูกหนังเอเชีย U23

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ