ข่าว

 "ธภัทรวัฒน์" ซิ่งประวัติศาสตร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แชมป์อาชีพที่อายุน้อยที่สุด

ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย “เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2019” สนามสุดท้ายตัดสินแชมป์ประเทศไทย ที่อ่างเก็บน้ำ ห้วยซับประดู่ จังหวัดนครราชสีมา วันสุดท้าย เมื่อ30 มิ.ย. เป็นเกมที่ลุ้นกันสนุกในทุกโมโต โดยรุ่นระดับอาชีพที่ไทยมีนักแข่งระดับโลกสถานการณ์พลิกไปพลิกมาอยู่ตลอด

 "ธภัทรวัฒน์" ซิ่งประวัติศาสตร์

การชิงดำแชมป์ประเทศไทยในรุ่นเจ็ตสกียืนที่แรงที่สุด โปรเจ็ตสกียืน(PRO-AM SKI MODIFIED) หลังจาก 2 โมโตแรก 2 ดาวรุ่งที่มีลุ้นคว้าแชมป์ฤดูกาลนี้อย่าง นันทวัฒน์ สิงห์อุไร กับทัศพงศ์ แสงอุทัย สู้กันสูสีมี 113 คะแนนเท่ากันจากวันแรก

เข้าสู่การชิงชัยในโมโต 3 ทัศพงศ์ ยังอาศัยการออกตัวที่ดีชิงความได้เปรียบตั้งแต่ช่วงต้น ทำให้ ทัศพงศ์ เข้าเป็นที่1 ขณะที่ นันทวัฒน์ หลุดไปถึงอันดับที่ 6 ส่งผลให้ทัศพงศ์ ขึ้นมามีคะแนนนำและหากทำได้ดีในโมโตสุดท้ายอีก จะคว้าแชมป์สนามนี้ พร้อมแซงเป็นแชมป์ประเทศไทยฤดูกาลนี้ทันที 

ผลปรากฏว่าทัศพงศ์ เข้าเป็นที่ 2 มีมุสตานมิน เป็นที่ 1 และนันทวัฒน์ สิงห์อุไรอันดับ 3 ทำให้ทัศพงศ์ ได้แชมป์สนามนี้ มี 226 คะแนน รองแชมป์เป็น มุสตามิน 204 คะแนน และ นันทวัฒน์อันดับ 3 ได้ 192 คะแนน ส่งผลให้ทัศพงศ์ คว้าแชมป์ประเทศไทย ระดับโปรเป็นครั้งแรกในชีวิตหลังจากคว้าแชมป์ได้ถึง 3 จาก 4 สนามของฤดูกาลนี้

ขณะที่ รุ่นเจ็ตสกีที่แรงเร็วที่สุดในโลกอย่าง รุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่งจีพี (PRO-AM RUNABOUT GP) สถานการณ์ในโมโต 3 พลิกอีกครั้งเมื่อ ศุภลักษณ์ นิลนพรัตน์ ผู้นำจากวันแรกมีปัญหากับตัวเรือหลุดไปถึงอันดับ 7 และเป็น อรพรรณ ธีรพัฒน์พานิชย์ แชมป์ประเทศไทยเมื่อ ปี2017 ที่เข้าที่1 ตามด้วย อรรถพล คุณสา และ จุนอิ โคม่าแชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น

ก่อนโมโตตัดสิน อรพรรณ ขึ้นมาเป็นผู้นำคะแนนสะสมสนามนี้แทน ตามด้วยอรรถพล และจุน ส่วนศุภลักษณ์ ตกไปเป็นอันดับ 5 จึงต้องพยายามเข้าที่1 ในโมโตสุดท้ายให้ได้ เพื่อโอกาสเป็นแชมป์ประเทศไทยรุ่นนี้ครั้งแรกในชีวิต 

โมโตตัดสิน จุนอิ โคม่า เข้าเป็นที่ 1 แต่ลัดทุ่น และไม่สามารถแก้ทุ่นได้ทัน ถูกตัดคะแนนทำให้ ธีรพงศ์ ขุนเจ๋ง ขึ้นมาเป็นที่ 1 อรพรรณ อันดับ 2 และเพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ ที่3 โดยที่ ศุภลักษณ์ทำได้เพียงอันดับ 4 รวมคะแนน 4 โมโตอรพรรณ เป็นแชมป์สนามนี้ 206 คะแนนรองแชมป์ เพิ่มพล ได้ 183 คะแนนเท่ากับ อรรถพล แต่ผลงานโมโตสุดท้ายดีกว่าส่วน ศุภลักษณ์ หลุดไปถึงอันดับ 5 ได้ 175 คะแนน

 "ธภัทรวัฒน์" ซิ่งประวัติศาสตร์

ขณะที่ คะแนนแชมป์ประเทศไทย 4 สนาม อรพรรณ ก็มีคะแนนแซง ศุภลักษณ์ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 หลังจากเคยเป็นแชมป์รุ่นนี้ เมื่อปี 2017 

รุ่นสปอร์ตจีพี (SPORT GP) ก็ถือว่าพลิกล็อกแบบถล่มทลายเมื่อ สุภัค เสร็จธุระ แชมป์ประเทศไทย 8 สมัยซ้อน ที่ผลงานสนามนี้เข้าที่ 1 ใน 2 โมโตของวันแรกมามีปัญหากับเครื่องยนต์เรือ ในโมโต 3 เข้าถึงอันดับ 10 และในโมโตตัดสิน เรือของสุภัค ก็เสียหลังออกนำเป็นที่ 1 ได้ไม่ถึง 1 รอบ 

โอกาสจึงไปตกกับ “โอปอ” ธภัทรวัฒน์โจสรรค์นุสนธิ์ ดาวรุ่งวัย 17 ปีที่ขับเน้นทำคะแนนเข้าเส้นชัยเป็นหลักและเข้าเป็นที่ 2 ได้ในโมโต 3 และ 4 เมื่อรวมคะแนนสนามนี้ ธภัทรวัฒน์ คว้าแชมป์สนามนี้ไปครอง 212 คะแนน ตามด้วยทศวนนท์ เผือกผ่อง 178 คะแนน สุภัคจบที่อันดับ 3 ได้171 คะแนน 

ธภัทรวัฒน์ ยังทำคะแนนแซงสุภัค ในคะแนนสะสม 4 สนามสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ประเทศไทยด้วยการเป็นแชมป์ระดับอาชีพที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เจ็ตสกีไทย

ส่วนรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง1,100 ซีซี (PRO-AM RUNABOUT 1100 OPEN) เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ เป็นแชมป์สมัยที่ 5 ติดต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบเข้าที่ 1 ทั้ง 4 โมโต คว้าแชมป์สนามนี้แบบ 240 คะแนนเต็ม รองแชมป์ ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ 207 คะแนน และเชาวลิต เกื้อจรูญ เป็นที่ 3 ได้187 คะแนน

เพิ่มพล จึงคว้าแชมป์ประเทศไทยไปแบบได้แชมป์ทั้ง 4 สนามได้ 240 คะแนนเต็ม อีกเช่นกัน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ